อาหารจานด่วน ขนม กับข้าวสะดวกซื้อที่ขายริมทาง เมนูไหนมีโซเดียมสูงบ้างต้องหลีกเลี่ยง เพราะกินมาก ๆ เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของคนเมือง ทำให้การซื้อหาอาหารและกับข้าวตามถนนหนทางเป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
จากข้อมูลการสำรวจของสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ได้เตือนให้พวกเราทราบว่า อาหารสตรีตฟู้ด รวมทั้งของกินเล่นยอดฮิตหลายเมนู มีปริมาณโซเดียมสูงจนน่าตกใจ จากการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารริมทางจากเขตต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร โดยเน้นในแหล่งชุมชน สถานที่ทำงาน ร้านอาหาร และรถเข็นตอนกลางคืน รวม 221 ตัวอย่าง 76 ชนิด ประกอบด้วยกับข้าว 27 ชนิด อาหารจานเดียว 29 ชนิด และอาหารว่างหรือขนม 20 ชนิด
จากนั้นนำตัวอย่างอาหารมาตรวจวัดระดับโซเดียม แล้วจัดเป็น 5 ระดับ คือ
- ความเสี่ยงสูงมาก : ปริมาณโซเดียมเกินกว่า 2,000 มิลลิกรัม
- ความเสี่ยงสูง : ปริมาณโซเดียมระหว่าง 1,500-2,000 มิลลิกรัม
- ความเสี่ยงสูงปานกลาง : ปริมาณโซเดียมระหว่าง 1,000-1,500 มิลลิกรัม
- ความเสี่ยงน้อย : ปริมาณโซเดียมระหว่าง 600-1,000 มิลลิกรัม
ประเภทกับข้าว
- กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงมาก มี 16 ชนิด หรือร้อยละ 59 เช่น แกงเขียวหวาน แกงเทโพ ต้มยำ/ต้มโคล้ง แกงไตปลา น้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาร้า ผัดกะเพราหมู/ไก่ เป็นต้น
- กลุ่มอาหารเสี่ยงสูง มี 5 ชนิด หรือร้อยละ 18.5 ได้แก่ แกงจืดมะระ ผัดผักรวม ผัดพริกขิงถั่วฝักยาว หมูทอดกระเทียมพริกไทย และหลนเต้าเจี้ยว/ปู
- กลุ่มอาหารเสี่ยงปานกลาง มี 5 ชนิด หรือร้อยละ 18.5 ได้แก่ แกงเลียง ปลาทูต้มเค็ม หน่อไม้ผัดพริก กุนเชียง และน้ำพริกอ่อง
- กลุ่มอาหารเสี่ยงน้อย มี 1 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 4 คือ ปูผัดผงกะหรี่
อาหารจานเดียว
- กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงมาก มี 10 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 35 เช่น ต้มเลือดหมู ส้มตำปูปลาร้า ส้มตำไทย ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ บะหมี่หมูต้มยำ สุกี้น้ำรวมมิตร
- กลุ่มอาหารเสี่ยงสูง มี 5 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 17 ได้แก่ โจ๊กหมู ยำรวมมิตร ลาบหมู ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า
- กลุ่มอาหารเสี่ยงปานกลาง มี 12 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 41 เช่น น้ำตกหมู ผัดไทย หอยทอด ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด เป็นต้น
- กลุ่มอาหารเสี่ยงน้อย มี 2 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 7 ได้แก่ ข้าวราดผัดกะเพราหมู/ไก่ และข้าวไข่เจียว
ของว่างหรือขนม
- กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง มี 8 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 40 ได้แก่ ไส้กรอกทอด คอหมูย่าง ทอดมันปลากราย ขนมกุยช่าย เปาะเปี๊ยะทอด ไก่ทอด ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน และลูกชิ้นปิ้ง
- กลุ่มอาหารเสี่ยงปานกลาง มี 6 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 30 ได้แก่ หมูปิ้ง ไส้กรอกอีสาน ไก่ย่าง ปลาหมึกย่าง ขนมจีบ และกล้วยทอด
- กลุ่มอาหารเสี่ยงต่ำ มี 6 ชนิด คิดเป็นร้อยละ 30 ได้แก่ ข้าวเหนียวสังขยา ขนมครก สาคูไส้หมู กล้วยบวชชี ตะโก้สาคู และซาลาเปาไส้หมู
การบริโภคโซเดียมในปริมาณมากเกินไปเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมตัวเองด้วยการบอกผู้ค้าว่า ขอรสอ่อน และลดการซดน้ำแกง ก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ หรือควรทำอาหารรับประทานเองอย่างน้อยให้ได้วันละมื้อ โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นของสด และลดการบริโภคอาหารแปรรูปที่มีโซเดียมแฝง เพื่อสุขภาพที่ดี
ขณะที่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้แนะนำให้คนไทยลดบริโภคเค็มหรือโซเดียมลดลง เพราะนำไปสู่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง ซึ่งหากบริโภคติดต่อกันนาน ๆ เข้าจะทำให้เกิดความเคยชินต่อรสเค็ม และจะยิ่งบริโภคอาหารโซเดียมสูงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก kapook.com และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
❤ Sandy ❤ กินให้มันพอดี แล้วออกกำลัง อย่าไปจริงจังกับชีวิตมาก ร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา คนเราอยู่เฉยๆ ก็ตายได้ สาธุ
21 ก.ย 2562 เวลา 04.58 น.
Q(︶︿︶)U╭∩╮I ของโปรดทั้งนั้นเลย
21 ก.ย 2562 เวลา 04.27 น.
กาญจนา ของทุกอย่างให้โทษและให้คุณอยู่ที่คนบริโภค
21 ก.ย 2562 เวลา 04.42 น.
milin456 ท่ากินแร้วตายก็ให้มันตายไป เพราะคนเราอยู่เฉยๆก็ตายได้เช่นกัน
21 ก.ย 2562 เวลา 05.46 น.
PP SKY ข้อมูลมั่วมากค่ะ จริงๆมันขึ้นอยู่กับการปรุง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับชื่ออาหาร ตลกกับข้อมูล ผัดกระเพราเป็นกับข้าวมีความเสี่ยงสูงและพอเป็นราดข้าวมีความเสี่ยงต่ำ ทุกอย่างมันอยู่กับการปรุง โซเดียมได้มาจากวัตถุดิบที่เดิมมากน้อยขอยืนยันว่าไม่ใช่มาจากชื่ออาหาร แบบนี้ก็เอามีเขียนคอลัมน์ ทำให้คนอ่านสับสน ยังไม่ผ่านนะไปเรียนมาใหม่ค่อยมาเขียน
22 ก.ย 2562 เวลา 00.10 น.
ดูทั้งหมด