เปิดตัวอย่างเป็นทากการในไทยแล้วกับ Matebook X Pro โน้ตบุ๊กหรูสุดบาง มาพร้อมดีไซน์จอไร้ขอบ พร้อมกล้องซ่อนที่คีย์บอร์ด เน้นจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 43,990 บาท
ใครที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊กที่มีความบางเฉียบ แต่มีประสิทธิภาพในการใช้งานสูง Matebook X pro ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ จุดเด่นแรกที่สะดุดตาก็คือ ดีไซน์บางเฉียบด้วยขนาดหน้าจอ LTPS ขนาด 13.9 นิ้วในความละเอียดสูงถึง 3K (3,000 x 2,000 พิกเซล) เรียกว่าคมชัดสุดๆ แถมยังรองรับการสั่งงานด้วยการสัมผัสได้ถึง 10 จุดพร้อมกัน หน้าจอ Fullview แบบไร้ขอบ ด้วยสัดส่วนพื้นที่จอถึง 91% เรียกว่ามากที่สุดในกลุ่มโน้ตบุ๊ก จึงทำให้แสดงผลภาพได้มากขึ้น โดยสัดส่วนภาพจะอยู่ที่ 3:2 ให้ความสว่างสูงสุด 450 nits
ตัวเครื่องนั้นใช้การออกแบบด้วยยูนิบอดี้คือผลิตจากโลหะชิ้นเดียว จึงทำให้ตัวเครื่องไร้รอยต่อ ขอบเครื่องเป็นแบบไดมอนด์คัทช่วยให้จับกระชับมือเวลาพับเครื่องถือไปมา แถมยังทำผิวสัมผัสเป็นแบบเนื้อทรายช่วยให้รอยนิ้วมือไม่ติดกับตัวเครื่อง จนต้องทำความสะอาดบ่อยๆ ส่วนความบางอยู่ที่ 14.6 มิลลิเมตร น้ำหนักรวมอยู่ที่ 1.3 กิโลกรัมเท่านั้นจึงทำให้พกพาสะดวก ถือมือเดียวก็ยังสบายๆ
ตัวแป้นพิมพ์เป็นขนาดมาตรฐาน กดง่ายนุ่มมือ ตอบสนองไว พร้อมไฟแบล็คไลท์ในตัว ช่วยให้พิมพ์งานสะดวกขึ้นในที่มืด ใครที่ซุ่มซ่ามตัวนี้มีเทคโนโลยีกันน้ำหกใส่ด้วย ส่วนตัว Touchpad ที่ให้มานั้นเรียกว่ามีขนาดใหญ่กว่าโน้ตบุ๊กทั่วไป ช่วยให้สั่งงานได้สะดวกขึ้นสำหรับคนที่ไม่ชอบใช้งานเม้าส์ ด้านซ้ายขวาของคีย์บอร์ดจะเป็นลำโพงซึ่งให้มาถึง 4 ตัวให้เสียงดีทีเดียว แถมยังเอาใจคอหนังด้วยการรองรับเทคโนโลยี Dolby Atmos ด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีการฝังไมโครโฟน 4 ตัวรอบเครื่องช่วยให้รับเสียงได้ 360 องศาซึ่งมีประโยชน์มาเวลาวิดีโอคอลหรือประชุมงาน
ส่วนนวัตกรรมใหม่ที่ใส่เข้ามาก็มีหลายอย่างค่ะ เริ่มจากกล้องที่ย้ายจากหน้าจอไปซ่อนตัวอยู่ที่คีย์บอร์ดระหว่างปุ่ม F6 และ F7 โดยกล้องตัวนี้จะมีความละเอียด 1 ล้านพิกเซล เวลาจะใช้งานก็กดให้เด้งขึ้นมา ใช้เสร็จแล้วก็กดให้ซ่อนไว้แบบเดิม ข้อดีของกล้องแบบนี้ก็คือเรื่องความปลอดภัย เพราะถ้าเราโอนแฮกกล้องก็ไม่สามารถส่องดูเราได้
เรื่องที่สองก็คือ ปุ่ม Power ซึ่งฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย ทำให้เวลากดเปิดเครื่องก็เป็นการยืนยันตัวตนเราไปพร้อมกันเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปิดเครื่อง ใส่รหัสผ่านถึงจะใช้งานได้ ซึ่งหัวเว่ยเคลมว่าสแกนได้เร็วมากด้วยเทคโนโลยี Rapid Log-in 2.0 ถ้าเป็นสแกนนิ้วปลุกจาก Sleep จะใช้เวลาล็อกอินแค่ 1.6 วินาทีเท่านั้น แต่ถ้าเป็นการกดเปิดเครื่องจะล็อกอินในเวลาแค่ 7.6 วินาทีเท่านั้น เรียกว่าเร็วมากเลยล่ะ
มาดูเรื่องของพอร์ตการเชื่อมต่อกันบ้าง จะมีพอร์ต Thunder Bolt 3 มาให้ 2 พอร์ตซึ่งความเร็วในการรับส่งไฟล์นั้นสูงกว่า USB-C สามารถต่อจอ 4K ได้, USB มาตรฐาน 1 พอร์ตและช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องราวๆ 12 ชั่วโมง ซึ่งตัวที่ชาร์จที่ให้มานั้นจะมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พร้อมเทคโนโลยี Quick Charge ชาร์จ 30 นาทีมีแบตใช้งานได้อีก 6 ชั่วโมง นอกจากนั้นที่ชาร์จตัวนี้ยังเอาไปใช้กับสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยได้อีก เรียกว่าพกตัวเดียวจบ ชาร์จได้ทั้งคอมและมือถือ
ส่วนใครที่ใช้สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยนั้นก็สามรถใช้งานฟีเจอร์ HUAWEI Share 2.0 ช่วยโอนข้อมูลระหว่างมือถือกับคอมพิวเตอร์ได้เร็วขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องต่อสาย
มาดูเรื่องของสเปคกันบ้าง ในไทยจะวางขาย 2 รุ่นคือ Core i5 และ Core i7 เจน 8 จากค่ายอินเทล
- Core i5 , Ram 8GB, SSD ความจุ 256 GB และการ์ดจอ Intel UHD 620 ราคาขายอยู่ที่ 43,990 บาท
- Core i7, Ram 16 GB, SSD ความจุ 512 GB และการ์ดจอแยก MX150 จาก NVIDIA 58,990 บาททั้งสองรุ่นนี้จะเริ่มวางขาย 21 ธันวาคมนี้ ผ่าน HUAWEI Experience Store ทั่วประเทศ โดยจะได้ของแถมเป็นกระเป๋าสะพายหลังและเม้าส์ไร้สาย พิเศษวำหรับใครที่ซื้อที่ช็อปใหม่ ที่พารากอนจะได้เคสหนังแท้ลายพิเศษด้วย ส่วนปีหน้าเราจะได้เห็นโมเดลอื่นๆของ Matebook เข้ามาวางขายในไทยให้ครอบคลุมทุกความต้องการใช้เงานเลยค่ะ
al far อัลฟา farook ไม่ได้กินตังกูฮ่าๆ เกิน 1 หมื่น กูไม่มีปัญญาซื้อ ถึงมีตังก็จะเก็บไว้แดกข้าว แล้วใช้คอมกากๆ ก็พอ
18 ธ.ค. 2561 เวลา 14.32 น.
S. MATEBOOK VS MACBOOK
ชื่อก็ลอก
ดีไซน์ก็ลอก
พรีเซนเทชั่นก็ลอก
ฟอนท์ก็ลอก
นี่มัน MACBOOK คนจนชัดๆ
19 ธ.ค. 2561 เวลา 07.03 น.
R.KerePark Copy and paste Macbook
18 ธ.ค. 2561 เวลา 14.32 น.
TPAEF สาย copy จบข่าว
19 ธ.ค. 2561 เวลา 04.10 น.
arex ถ้ารุ่น i5 ได้การ์ดจอ MX150 จะดีมากเลย
19 ธ.ค. 2561 เวลา 01.50 น.
ดูทั้งหมด