“พิธา” ร่วมวงเสวนาเผยข้อมูลงบปี 64 ไม่ตอบสนองวิกฤต ลั่น “ก้าวไกล” พร้อมทำหน้าที่เต็มที่เพื่อให้เกิดการแก้ไข
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ศูนย์การค้าเดอะไบรท์ พระราม 2 กรรมาธิการสวัสดิการสังคมจัดเสวนาอนาคตสวัสดิการไทย ฝ่าวิกฤตโควิด-19 โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลและนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. เขตบางขุนเทียนพรรคก้าวไกล ร่วมวงเสวนา
โดยในช่วงต้นของการเสวนา ได้มีการพูดคุยกันถึงร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาวาระ 2 ในชั้นกรรมาธิการ ว่าไม่ได้สะท้อนความต้องการทั้งทางด้านสาธารณสุข หรือกระทั่งความต้องการของประชาชนทางด้านเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านมา
นายพิธาได้กล่าวถึงปัญหาที่ตนมีความกังวลเป็นพิเศษในสถานการณ์วันนี้ คือความเหลื่อมล้ำและความยากลำบากของประชาชนที่ตนได้พบเจอมาในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ระหว่างการลงพื้นที่พบปะประชาชนหลายพื้นที่ หลังจากนั้นเมื่อสภาผู้แทนราษฎรเปิดสมัยประชุมอีกครั้ง ตนมีความคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการที่เห็นหัวประชาชนออกมาบ้าง แต่ในกรณีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ที่ตนได้เห็น ไม่ได้สะท้อนถึงมาตรการที่จะนำไปสู่การมุ่งแก้ปัญหาเหล่านี้เลย เช่น งบประมาณของกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นในวันที่คนกำลังตกงานจำนวนมหาศาล งบประมาณหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นในวันที่คนหลุดจากระบบประกันสังคมเป็นจำนวนนับแสนคน งบประมาณสวัสดิการสำหรับเด็กอายุ 0-6 ขวบก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น ราวกับว่าประเทศไทยไม่ได้ผ่านวิกฤตโควิด-19 มาเลย และถ้าเราไปดูงบประมาณด้านสวัสดิการตลอดเวลาที่ผ่านมา เราจะพบได้ว่าข้าราชการ 2 ล้านคนได้สวัสดิการ 4 แสนล้านบาท ประชาชน 66 ล้านได้ 2 แสนล้านบาท มากกว่าคนไทยทั้งประเทศสองเท่า สิ่งเหล่านี้เป็นช่องว่างทางสังคมที่หนักมาก วิกฤตโควิด-19 เป็นเหมือนมหาพายุที่ไปเปิดสิ่งที่อยู่ใต้พรมเป็นเวลานานให้เปิดเผยออกมา และการจัดทำงบประมาณของประเทศเราก็ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้เลย
นายพิธา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี นี่ยังเป็นแค่ร่างงบประมาณในรอบแรก รัฐบาลต้องกลับไปใช้เวลา 2-3 เดือนในการแก้ไข ซึ่งก็หวังว่าจะเกิดการแก้ไขให้ตอบโจทย์แรงงานนอกระบบที่เป็นกลุ่มเปราะบางนี้ และ ส.ส.ของพรรคก้าวไกลก็จะทำงานอย่างเต็มที่ในการผลักดันให้เกิดการแก้ไข ให้งบประมาณนี้สอดคล้องกับความเป็นจริง เป็นงบประมาณที่เห็นหัวประชาชน ใช้สร้างงานสำหรับคนที่จะตกงานอีก 8 ล้านคน ให้เป็นงบประมาณสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยและที่กำลังจะจบต้องออกมาทำงาน ในฐานะที่เป็นผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะเป็นน้องอายุ 2 ขวบ จนถึงคุณป้าอายุ 86 ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องไปพูดในสภา ไปจี้ในกรรมาธิการ ให้รัฐราชการไทยตื่นได้แล้ว ให้ตอบสนองความเจ็บปวด ความท้าทาย ทำให้ประชาชนกับมามีความหวังอีกครั้ง คนที่ตกงาน 8 ล้านคนต้องมีงานทำ น้องๆที่กำลังจะจบออกมาอีก 5 แสนคนต้องมีงานทำ คนที่เป็นผู้สูงอายุจะต้องได้เบี้ยบำนาญที่อย่างน้อยจะต้องดีเท่ากับข้าราชการ ไม่ใช่ให้ข้าราชการ 2 ล้านคนมาทำนาบนหลังผู้สูงอายุในประเทศไทยที่ได้ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยและช่วยพัฒนาแผ่นดินมา
“นี่แค่เรื่องในระยะสั้นที่พวกเราเห็น มันเป็นเรื่องความมั่นคงของคนทั้งประเทศ ถ้าพวกท่านมั่นคงคนที่เหลือก็จะมั่นคง เพราะนี่คือความมั่นคงทางสาธารณสุข คนหนึ่งป่วย ต่อให้เขาจะยากจนแค่ไหนมันก็มีโอกาสมาถึงคนชนชั้นกลาง-ชนชั้นบน เพราะฉะนั้นมันถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมาเปลี่ยนประเทศไทย เปลี่ยนวิธีคิด เราต้องกลับหัวคิดเพื่อที่จะพิชิตโควิดและความท้าทายทางเศรษฐกิจต่อไป” นายพิธา กล่าว
Ouay ไม่เคยมีประสบการณ์ผ่านงาน
โปรเจ๊กใหญ่ๆอย่าสะเออะดีกว่า
รู้ว่ามีความคิดแต่ควรประมาณตน
งานระดับนี้เราต้องการคนมีประสบการณ์
ครับไม่ใช่ไร้เดียงสาทางความคิดก็สักแต่ว่า
11 ก.ค. 2563 เวลา 17.14 น.
Pimworrachat คนในระบบภาษี เขาทำงานแลกรายได้ เขาสร้างธุรกิจเองจนสำเร็จ จะไม่ให้เค้าได้กินได้แ..ดกอะไรเลยหรอคะ... เอาเงินไปเทให้เด็ก คนชรา ผู้พิการ/ผู้ด้อยโอกาส คนว่างงาน คือให้ก็ดีค่ะ แต่ก็ให้ตามสมควรจะดีกว่ามั้ย เรียกร้องนั่นนี่ อ้างประชาชน งั้นก็ไปปล้นคนรวยไปแจกคนจนให้หมดประเทศค่ะ โรบินฮู้ดสร้างภาพ...!!!
11 ก.ค. 2563 เวลา 17.31 น.
Nutchimaru สวัสดิการ ข้าราชการ ก็น้อยมากอยู่แล้วนะ
ข้าราชการ 2 ล้านคน รวมที่เกษียร หรือยัง?
ส่วน ปชช 66 ล้านคน รวมถึง ขรก และ ขรก เกษียรด้วยมั้ย?
66 ล้าน คน ถ้ามีประกันสังคม รัฐก็ไม่ต้องจ่ายป่ะครับ
บางบริษัทก็ให้ประกันสุขภาพ รัฐจะต้องจ่ายทำไม
ถ้าต่อไปสวัสดิการ ขรก น้อยๆ ใครจะไปทำงานให้คุณครับ คนที่ทำ ขรก ก็ทำเพราะอยากได้สวัสดิการ ความมั่นคงทั้งนั้น
งบที่ตอบโจทก์โควิดคือ? ดูแค่ % ที่เพิ่มลด เนื้อหางบ ไม่เห็นเอามาตีแผ่
11 ก.ค. 2563 เวลา 17.25 น.
noom52 อ้างชื่อกรรมาธิการจัดเสวนาแต่จริงๆคือเอาคนของพรรคทั้งนั้นออกมาหาเสียงทางอ้อม หน้าด้านจริงๆที่อ้างกรรมาธิการแต่กลับไม่กล้าใช้ชื่อพรรคจัดงานเสวนา
11 ก.ค. 2563 เวลา 18.20 น.
ปลาเงิน วันนี้คุณซ้อมเมียแล้วหรือยังครับก่อนออกมาพูดเนี้ย
11 ก.ค. 2563 เวลา 17.20 น.
ดูทั้งหมด