พล.อ.ต.สุพิจจารณ์ ธรรมวาทะเสรี ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการทางอวกาศกองทัพอากาศ แถลงข่าวการเตรียมปล่อยดาวเทียม “นภา-1 (NAPA-1)” ดาวเทียมดวงแรกของกองทัพอากาศ ที่จะถูงยิงขึ้นไปเพื่อปฏิบัติภารกิจเฝ้าระวังทางอวกาศ และงานป้องกันและช่วยเหลือประชาชนด้านภัยพิบัติธรรมชาติ และความมั่นคง
ทอ.เตรียมยิงดาวเทียม “นภา-1” ขึ้นอวกาศ 19 มิ.ย.นี้
กองทัพอากาศ เตรียมยิงดาวเทียมดวงแรก "นภา1" ขึ้นอวกาศ 19 มิ.ย. ใช้งานความมั่นคง ดับไฟป่า จัดการน้ำ
“นภา-1” คือชื่อของดาวเทียมเพื่อความมั่นคงดวงแรกของกองทัพอากาศ มีกำหนดยิงขึ้นสู่อวกาศจากฐานยิงที่เฟรนช์เกียนา (French Guiana) ดินแดนของสาธารณรัฐฝรั่งเศส ที่ตั้งอยู่ทางตอนบนของทวีปอเมริกาใต้ ในวันที่ 19 มิ.ย. 63 นี้ เวลา 08.51 น. ตามเวลาประเทศไทย
ล่าสุด กองทัพอากาศได้รับแจ้งจาก บริษัท Arianespace ผู้รับผิดชอบการยิงจรวด VEGA นำส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศในครั้งนี้ว่าสภาพอากาศบริเวณฐานปล่อยจรวดในวันดังกล่าวไม่เอื้ออำนวย จึงขอเลื่อนกำหนดการยิงนำส่งดาวเทียม “นภา-1” ออกไปจนกว่าสภาพอากาศจะมีความเหมาะสม โดยคาดว่าเร็วที่สุดจะยิงส่งขึ้นอวกาศได้ในวันที่ 21 มิ.ย. 63
ดาวเทียม นภา-1 นี้ สร้างโดยบริษัท Innovative Solutions In Space (ISIS) ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในการออกแบบ และสร้างดาวเทียมขนาดเล็ก การพัฒนาระบบสถานีภาคพื้น
ดาวเทียมนภา-1 เป็นดาวเทียม Nano Satellite รูปแบบคิวบ์แซต (CubeSat) ขนาด 6U (10 ซม. X 20 ซม. X 30 ซม.) จะส่งขึ้นสู่วงโคจรแบบ Low Earth Orbit ที่ความสูงประมาณ 500 กิโลเมตรจากพื้นโลก มีวงโคจรแบบสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ (Sun Synchronous) นำส่งโดยจรวด VEGA ของบริษัท แอเรียนสเปซ (Ariane Space) ของฝรั่งเศส
โดยจรวด VEGA นั้นเป็นจรวดนำส่งดาวเทียมขนาดเล็กที่จะเน้นการปล่อยดาวเทียมสำรวจโลก และดาวเทียมสำหรับใช้ในด้านวิทยาศาสตร์
พล.อ.ต.สุพิจจารณ์ ระบุว่า การยิงดาวเทียมนภา-1 เกิดขึ้นโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ เนื่องจากในปัจจุบัน หลายประเทศได้มีการพัฒนา และแสวงหาการใช้ประโยชน์จากกิจการอวกาศ ซึ่งเป็นผลประโยชน์ที่มีมูลค่ามหาศาล และผลประโยขน์แห่งชาติจากกิจการอวกาศของประเทศไทยก็มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงเช่นกัน
จากการศึกษาของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ในปี 2562 พบว่า มูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมของอุตสาหกรรมอวกาศของไทยมีรายได้อยู่ที่ 5.6 หมื่นล้านบาท ทำให้เกิดการจ้างงานได้ 1.6 ล้านคน สร้างมูลค่าทางสังคมกว่า 5.8 พันล้านบาท และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 2.9 หมื่นล้านบาท โดยประกอบด้วย ส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น การขนส่งทางอวกาศ ระบบรับสัญญาณภาคพื้นดิน ฯลฯ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้สูงสุดถึง 42%
ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 60 กำหนดหน้าที่ของรัฐไว้ว่า “รัฐต้องรักษาไว้ซึ่งคลื่นความถี่ และสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมอันเป็นสมบัติของชาติเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ และประชาชน” ตลอดจนยุทธศาสตร์ชาติก็ได้กำหนดประเด็นเกี่ยวกับความมั่นคงทางอวกาศด้วยเช่นกัน
ด้วยความสำคัญด้านความมั่นคงและภัยคุกคามทางอวกาศที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต กองทัพอากาศจึงได้กำหนดยุทธศาสตร์กองทัพอากาศ 20 ปี และกำหนดให้มิติอวกาศเป็นหนึ่งในมิติหลักในการปฏิบัติภารกิจ และได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการทางอวกาศกองทัพอากาศเมื่อเดือนตุลาคม 2562 เพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งชาติในอวกาศ และการปฏิบัติการทางอวกาศทั้งปวงเพื่อความมั่นคงของประเทศ
เทคโนโลยีอวกาศสามารถตอบสนองในการพัฒนาประเทศได้หลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ การพยากรณ์อากาศ การวางผังเมือง การช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย การสื่อสารและโทรคมนาคม รวมถึงการใช้ดาวเทียมเพื่อความมั่นคงในการลาดตระเวนเฝ้าระวังบริเวณพื้นที่ชายแดน เป้าหมายของการใช้ นภา-1 จึงได้แก่
การเฝ้าระวังทางอวกาศ (Space Situational Awareness – SSA)
เพื่อค้นหา ติดตาม และพิสูจน์ทราบภัยคุกคามจากอวกาศที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ด้านอวกาศของประเทศ เช่น ดาวเทียมของต่างชาติเข้ามาใช้วงโคจรดาวเทียมค้างฟ้าที่ประเทศไทยได้สิทธิอยู่, การชนดาวเทียมของไทยโดยวัตถุอวกาศ และเหตุการณ์ชิ้นส่วนจรวดหรือดาวเทียมตกใกล้ประเทศไทย เป็นต้น โดยใช้ระบบตรวจจับภาคพื้น (Ground-Based Sensors) กล้องโทรทรรศน์ที่ติดตั้งที่ ณ สถานีเฝ้าระวังทางอวกาศดอยอินทนท์ และสถานีเฝ้าระวังทางอวกาศสมุย พร้อมกับดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูล ณ ศูนย์ปฏิบัติการทางอวกาศกองทัพอากาศเพื่อประเมินสถานการณ์ภัยคุกคาม และแจ้งเตือนหน่วยต่าง ๆ ต่อไป
การข่าวกรอง การเฝ้าตรวจ และการลาดตระเวนทางอวกาศ (Space Intelligence Surveillance and Reconnaissance – Space ISR)
มีภารกิจด้านการข่าวกรอง การเฝ้าตรวจ และการลาดตระเวนทางอวกาศ (Space ISR) ที่จะสามารถสนับสนุนการปฏิบัติการทางอากาศของกองทัพอากาศได้ทั้ง ระดับยุทธศาสตร์ ระดับยุทธการ และระดับยุทธวิธี ทั้งในภารกิจการปฏิบัติการรบและการปฏิบัติการที่มิใช่การรบ โดยการใช้ภาพถ่ายหรือข้อมูลจากดาวเทียม แล้วดำเนินการปรับแก้และประมวลผลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
ด้วยขีดความสามารถของดาวเทียม “นภา 1” ที่สามารถถ่ายภาพพื้นโลกจากอวกาศและเข้าถึงพื้นที่ปฏิบัติการได้ทั่วประเทศไทย ทำให้สามารถตอบสนองภารกิจการปฏิบัติการทางอากาศและอวกาศ การลาดตระเวนและเฝ้าตรวจตามแนวชายแดน การสนับสนุนการพัฒนาประเทศ การบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนจะเป็นรากฐานอันสำคัญในการพัฒนาสร้างอุตสาหกรรมอวกาศภายในประเทศไทยได้อีกด้วย
ในด้านความมั่นคงนั้น ดาวเทียม “นภา 1” จะสามารถนำมาบูรณาการข้อมูลภาพถ่ายทางอวกาศร่วมกับระบบตรวจจับอื่น ๆ ของกองทัพอากาศเพื่อสร้างให้เกิดการตระหนักรู้ในสถานการณ์ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว แล้วนำมาวิเคราะห์ด้วยการดึงสีของภาพ เพื่อสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ แนวการไหลของน้ำ การกัดเซาะชายฝั่ง จุดความร้อนที่มีโอกาสเกิดไฟป่า แนวผักตบชวา นำมากลั่นกรอง สร้างข้อมูลสารสนเทศ เพื่อวางแผนป้องกันการเกิดภัยพิบัติ และการตัดสินใจในการช่วยเหลือเยียวยาของกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับดาวเทียม นภา-1 พล.อ.ต.สุพิจจารณ์ บอกว่า มีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 3 ปี แต่หากประสบพายุสุริยะ ก็อาจทำให้อายุการใช้งานลดน้อยลง
นอกจากนี้ ปลายปี 2563 นี้ จะมีการยิงส่งดาวเทียม นภา-2 (NAPA-2) ขึ้นสู่อวกาศ โดยจะเป็นรุ่นที่กล้องสเปกตรัลที่ใช้แยก และดึงสีสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ทอ. ยังมีแผนสร้างดาวเทียมเอง โดยมีการส่งบุคลากรไปเรียนรู้การออกแบบการสร้าง เพราะวัสดุอุปกรณ์การสร้างหากซื้อมาจากต่างประเทศตลอดจะใช้ต้นทุนมาก
“หากเราสามารถสร้างเองได้ ก็จะเป็นการประหยัดงบประมาณ และเราสามารถออกแบบดาวเทียมได้ตรงตามความต้องการของเรา ที่สำคัญ จะเกิดการสร้างงานภายในประเทศ ทำให้คนของเรามีความรู้ มีรายได้ ไม่อย่างนั้นเราต้องพึ่งพาเขาตลอด”
พล.อ.ต.สุพิจจารณ์ ยืนยันว่า การยิงส่งดาวเทียม นภา-1 ขึ้นไปอวกาศนั้น มีจุดประสงค์หลักเพื่อรักษาความมั่นคงภายในประเทศ ไม่ใช่เพื่อการรบหรือสอดส่องติดตามใคร ใช้เพื่อพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเกษตรกรรม ป่าไม้ ทรัพยากระรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ชลประทาน ฯลฯ
ทั้งนี้ ผอ.ศูนย์เสริมว่า ดาวเทียมนภา-1 จะไม่ได้ขึ้นไปทำงานซ้ำซ้อนกับดาวเทียมอื่น เช่น ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA อย่างแน่นอน
“ทอ. เน้นความมั่นคงของประชาชนและสาธารณภัย ดังนั้นซอฟต์แวร์ระบบต่าง ๆ ของดาวเทียมจะมีความแตกต่างกัน แต่ไม่ได้แยกกันทำงาน เนื่งจากดาวเทียมจะมีการเคลื่อนที่ตลอดเวลา ไม่สามารถเคลื่อนผ่านจุดเดิมได้ใน 1 ต้องรอการโคจรครบรอบ การมีดาวเทียมหลายตัวจะช่วยให้ไม่เราต้องรออีกวันในกรณีที่ต้องการข้อมูลจากพื้นที่ที่ดาวเทียมของเราเคลื่อนผ่านไปแล้ว เรามองดาวเทียมเป็นระบบตรวจจับ ปฏิบัติงานได้รวดเร็ว สั่งการได้เร็ว ภารกิจเร็วกว่า”
สำหรับโครงการพัฒนาการปฏิบัติการในห้วงอวกาศของกองทัพ ข้อมูลจากเอกสาร สมุดปกขาวกองทัพอากาศ พ.ศ.2563 (RTAF White Paper 2020) ซึ่งเป็นเอกสารเปิดเผยต่อสาธารณชน ระบุว่า มีอยู่ 4 ระยะ ได้แก่
ปีงบประมาณ 2564 โครงการพัฒนาการปฏิบัติการในห้วงอวกาศ (ระยะที่ 1)
ปีงบประมาณ 2565 โครงการพัฒนาการปฏิบัติการในห้วงอวกาศ (ระยะที่ 2)
ปีงบประมาณ 2567 โครงการพัฒนาการปฏิบัติการในห้วงอวกาศ (ระยะที่ 3)
ปีงบประมาณ 2570 โครงการพัฒนาการปฏิบัติการในห้วงอวกาศ (ระยะที่ 4)
โดยโครงการทั้งหมดเป็นไปเพื่อการพัฒนากิจการด้านอวกาศ และความมั่นคงทางอวกาศเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการในมิติอื่น ๆ ของกองทัพอากาศ ได้แก่ มิติอากาศ และมิติทางไซเบอร์ และพัฒนาขีดความสามารถด้านการปฏิบัติการในห้วงอวกาศ ด้านการสังเกตการณ์ห้วงอวกาศ การตรวจการณ์จากอวกาศ และการสื่อสารและโทรคมนาคมด้วยระบบดาวเทียม
ในโครงการระยะที่ 1 มีความต้องการ ดาวเทียม Micro Satellite จำนวน 2 ดวง พร้อมอุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ และสถานีภาคพื้นรับสัญญาณ โดยมีการส่งบุคลากรไปรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการพัฒนารวมทั้งการใช้งานที่เหมาะสมให้แก่ประเทศไทย
โครการระยะที่ 2 มีความต้องการ กล้องโทรทัศน์ 1 ระบบ พร้อมสถานีภาคพื้น รวมทั้งระบบการตรวจจับ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของกองทัพอากาศ
ระยะที่ 3 และระยะที่ 4 มีความต้องการ Micro หรือ Mini Satellite สำหรับการตรวจการณ์ รวมทั้งการสื่อสารและโทรคมนาคมด้วยระบบดาวเทียม
สำหรับงบประมาณโครงการระยะที่ 1 อยู่ที่ 1.47 พันล้านบาท ส่วนระยะที่ 2, 3, 4 วงเงินตามกรอบงบประมาณที่ได้รับ
เทียบชัด ๆ ภาพถ่ายดาวเทียมที่ชี้ว่าโควิด-19 อาจระบาดในอู่ฮั่นเร็วกว่าที่จีนประกาศ
54@ฝันดี@45 เย้ๆๆ..เท่ห์จังมีดาวเทียมเป็นของตัวเองแล้ว#แม้ว่าหน้าตาจะแปลกๆ เหมือนโกไลตันไปบ้างแต่ก็ยังดีที่ไทยพัฒนา
18 มิ.ย. 2563 เวลา 03.18 น.
รักษ์ ใช้เงินงบเยอะ แต่ใช้งานได้3ปีกว่า คุ้มมั้ยเนี่ย
18 มิ.ย. 2563 เวลา 12.09 น.
Pilot guide เท่าไหร่ครับ
18 มิ.ย. 2563 เวลา 03.29 น.
Gu Ju มีไว้เพื่อปกป้องอำนาจของทหารไทยเผด็จการ
เรื่องอื่น ทหารไทยปล่อยให้ทรุดโทรม เพราะไม่ใช่หน้าที่ของทหาร
5 ปีที่ผ่านมาพิสูจน์การกระทำของทหารไทยเผด็จการ
18 มิ.ย. 2563 เวลา 04.16 น.
ดูทั้งหมด