ทั่วไป

ตื่นตาตื่นใจ! “สุโขทัย”เปิดอุทยานประวัติศาสตร์ฯย้อนรอยพิธีจองเปรียง-ต้นกำเนิดลอยกระทง

Manager Online
เผยแพร่ 09 พ.ย. 2562 เวลา 00.18 น. • MGR Online

สุโขทัย – นักท่องเที่ยวประทับใจกันบาง..กรุงสุโขทัย เปิดอุทยานประวัติศาสตร์ฯ ย้อนรอย “พิธีจองเปรียง-ต้นกำเนิดลอยกระทง” ที่โด่งดังตามบันทึกในหลักศิลาจารึกหลักที่ 1 มาจนถึงทุกวันนี้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เทศกาลลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ ประจำปี 2562 ที่จังหวัดสุโขทัย จัดขึ้น ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มาตั้งแต่ 2 พ.ย.ยาวไปจนถึง 11 พ.ย.นี้ ยังคงมุ่งเน้นนำเสนอเอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรมธรรมไทยผสานกับความทันสมัย ได้อย่างยิ่งใหญ่สมกับเป็น 1 ใน 10 เทศกาลและงานเฉลิมฉลองที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของโลก ผ่านกิจกรรมภายในงานกว่า 20 กิจกรรม

โดย 1 ในกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากผู้คนที่เดินทางไปร่วมงานอย่างคับคั่งทุกคืนคือ การแสดงพิธีจองเปรียง หรือต้นกำเนิดงานลอยกระทง พร้อมกับการแสดงการเล่นพลุไฟต่างๆ ทั่วท้องฟ้าในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ณ สระตระพังตระกวน วัดสระศรี ที่มีการแสดงและการเล่นพลุไฟทุกคืนในเวลา 22.00 น. ไปจนถึง 11 พ.ย. และคืนสุดท้ายของงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ ยังได้ชมพิธีลอยพระประทีปพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานุวงศ์ ลอยเป็นปฐมฤกษ์ ในงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ สุโขทัย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สำหรับ “พิธีจองเปรียง”นั้น ในสมัยพระร่วงเจ้า พระมโหสถ พราหมณ์ บิดาของนางนพมาศได้นำนางนพมาศไปถวายตัวพระร่วงเจ้า และเมื่อถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองว่าเป็นเวลาเสด็จประพาสลำน้ำตามพระราชพิธีจองเปรียงในเวลากลางคืน และได้ให้บรรดาพระสนมนางในทั้งหลาย ตกแต่งกระทงประดับดอกไม้ธูปเทียน นำไปลอยน้ำหน้าพระที่นั่ง

คราวนั้นท้าวศรีจุฬาลักษณ์ หรือนางนพมาศ พระสนมเอกพระร่วงเจ้าก็ได้คิดประดิษฐ์กระทงเป็นรูปดอกบัวกมุทขึ้น ด้วยเห็นว่าเป็นดอกบัวพิเศษ ที่บานในเวลากลางคืนเพียงปีละครั้งในวันดังกล่าว สมควรทำเป็นกระทงแต่งประทีป ลอยไปถวายสักการะรอยพระพุทธบาท

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ซึ่งเมื่อพระร่วงเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็น ก็รับสั่งถามถึงความหมาย นางก็ได้ทูลอธิบายจนเป็นที่พอพระราชหฤทัย พระองค์จึงมีพระราชดำรัสว่า “แต่นี้สืบไปเบื้องหน้าโดยลำดับ กษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์ วันเพ็ญเดือน 12 ให้นำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว (ขึ้นเป็นครั้งแรก) เพื่อนำไปลอยอุทิศสักการะบูชาพระพุทธบาทนัมมทานที ตราบเท่ากัลปาวสาน”

ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นโคมลอยรูปดอกบัวปรากฏมาจนปัจจุบัน แต่ได้มีการเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ว่า “ลอยกระทงทรงประทีป” และนำมาลอยในแม่น้ำลำคลอง เพื่อเป็นการขอโทษแก่แม่น้ำที่เราใช้อาบและดื่ม ที่ให้ประโยชน์กับตัวเรา ซึ่งอาจจะทำไม่ดีกับแม่น้ำได้ จึงได้ลอยกระทงเพื่อขอขมาโทษกับแม่น้ำเพียงปีละครั้ง ในคืนวันเพ็ญเดือน 12 พร้อมการจุดพลุไฟที่ยิ่งใหญ่

ตามข้อความในหลักศิลาจารึกหลักที่ 1 ที่ว่า “ผู้คนเบียดเสียดมาดูท่านเผาเทียน ท่านเล่นไฟ เมืองสุโขทัยนี้ดังจักแตก”

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 5
  • *~Noy~*
    ขอเชิญชวนมาเที่ยวงานลอยกระทงสุโขทัย ยินดีต้อนรับค่ะ และอย่าลืมแวะชิมก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยด้วยนะคะ
    09 พ.ย. 2562 เวลา 02.39 น.
  • smartman
    คิดถึงนะ..ไม่ได้ไปลอยหลายปีแล้ว..สาวๆที่เคยเที่ยวนั่งชมจันทร์ด้วยกันป่านนี้คงมีลูกสองลูกสามแก่ๆกันหมดแล้ว..
    09 พ.ย. 2562 เวลา 02.13 น.
  • ประทับใจทุกครั้งที่ได้ไปงานลอยกระทง
    09 พ.ย. 2562 เวลา 02.09 น.
  • หาคนไปลอยด้วย😍
    09 พ.ย. 2562 เวลา 02.53 น.
  • ❥𝑻𝒂𝒔𝒔𝒂𝒏𝒆𝒆(Ant)🍀
    ไม่มีโอกาสเลยสักครั้งอ่า😭😭😭
    09 พ.ย. 2562 เวลา 02.36 น.
ดูทั้งหมด