เหตุผลที่ทำให้คนเราควรเรื่องมากก่อนรับปากใคร
.
ในฐานะวิทยากวน
ไม่เพียงแต่ ต้องออกแบบการบรรยาย อบรม เสวนาให้สนุกสนานและได้ความคิดความรู้อันเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วม
ยิ่งไปกว่านั้น คือการพิจารณาว่า
งานแบบใดที่ควรค่าแก่การทุ่มเทและลงแรงไปช่วยเหลือ
.
เคยเจอมาแล้ว ตอนเช้า บังคับเด็กนักเรียนมาร่วมกิจกรรมเป็นคันรถ
แต่ออกแบบกิจกรรมไม่ดีพอ ตอนบ่ายเด็กนักเรียนหาย ไม่มีนักเรียนมาฟังบรรยาย ทีมผู้จัดบอกว่า หากไม่มีนักเรียนมานั่งฟัง ทางสต๊าฟจะนั่งฟังกันเอง
.
บางครั้งนัดเด็กนักเรียนมาออกค่ายเรียนรู้การอ่านการเขียน นัดนักเรียนตีห้าที่โรงเรียน เพราะว่าจะออกรถให้ล้อหมุนตอนหกโมง เด็กนักเรียนก็ตื่นตั้งตั้งแต่ตีสี่ตีห้าเพื่อมาให้ทัน
รถอาจจะออกได้ตามเวลา หรือช้าไปบ้างเล็กน้อย แต่ปัญหาคือ
เมื่อถึงเวลาบรรยาย ตอนบ่ายๆ เด็กนักเรียนทั้งค่ายก็เริ่มง่วงหลับคอพับคออ่อน
พอไปสอบถามว่า แล้วทำไมต้องนัดกันเช้าขนาดนั้น มาเข้าค่าย ออกรถจากโรงเรียนแปดเก้าโมงก็ยังทัน ทางผู้จัดบอกว่า อยากพานักเรียนแวะเที่ยววัดระหว่างทางเสียก่อน
.
เคยเจอมาแล้ว ห้องประชุมสวยงามดี เก้าอี้พร้อม แต่เครื่องเสียงดังครึ่งเดียวของห้องประชุม บรรยายไปนักเรียนอีกครึ่งนึงต้องเงี่ยหูฟัง
.
เสียดายว่าผู้จัดมักดูแลการเดินทางดี มีรถรับส่ง ดูแลอาหารการกินอย่างดี กับข้าวหลายสิบอย่าง เรียกว่าต้องได้กินอาหารชั้นดีของจังหวัด ขนมนมเนยของฝากติดไม้ติดมือ คือให้ความสำคัญกับสิ่งละอันพันละน้อยมากมาก
แต่ละเลยสิ่งที่สำคัญที่สุดของการบรรยายคือ เครื่องเสียง
งานนึงรู้ล่วงหน้าว่าจะมีนักศึกษามาฟังพันกว่าคน
จึงแจ้งผู้จัดไปว่าช่วยพิถีพิถัน เครื่องเสียงให้ดีๆ
ไปถึงเวที เครื่องเสียงนี่ชัดแจ่ม ไมค์โครโฟนพร้อมพรั่ง
พอนักศึกษาเข้ามาเต็มหอประชุม แอร์ก็เริ่มเสีย
.
สิ่งเหล่านี้แม้คิดว่าไม่เกี่ยวอะไรกับ เนื้อหาที่จะนำไปบรรยาย
แต่ถามหน่อยว่า มันสำคัญขนาดไหน ในเมื่อคนฟังร้อนและขาดอากาศหายใจ
จึงไม่ใช่เรื่องที่จะไม่สนใจกันได้อีกต่อไป
.
หลังจากที่พิจารณาแล้วว่า หากเมื่อใดเราเป็นแค่ปลายน้ำ
ถ้าต้นน้ำส่งน้ำดีๆมาคนปลายน้ำก็ย่อมสบาย จะต้ม จะปั่น จะพลิกแพลงเช่นไรก็แสนสนุก แต่ถ้าต้นน้ำ กับกลางน้ำส่งน้ำเน่าน้ำเสียมา ปลายทางก็ยากจะแก้ไข
ถ้าคิดว่าไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่ใช่หน้าที่ของเราคือบรรยาย คิดง่ายๆแบบนี้พอทำงานแล้วทำยาก แถมยังได้ผลน้อย เป็นผลเสียต่อการจัดงานในท้ายที่สุด
จะคิดแค่ว่าก็แหมทำงานของเราให้ดี ทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ อย่าไปเรื่องมากเรื่องมายกับหน้าที่ของคนอื่น
พอว่าไปถึงต้นน้ำ ก็นึกไปถึงต้นทางเลยว่างานที่จัดนั้นมีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่
เราเป็นจิ๊กซอว์ตัวไหนในการประสบความสำเร็จของงาน
อยากจะคิดว่า ไม่ต้องไปหนักใจสนใจว่าใครจัด ใครจ้างคงไม่ได้
สมมุติว่าจ้างเราไปเล่นดนตรีร้องเพลง นอกจากรู้ว่าแสดงที่ไหนวันไหน
ก็ควรจะรู้ไหมว่า งานร้องเพลงนี่เขาจัดขึ้นมามีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่
แค่สนุกสนานเพลิดเพลินหรือว่าหาทุน หรือเป็นกิจกรรมทางการเมือง ขับเคลื่อนมวลชน
เพราะถ้าจ้างเราไปร้องเพลงหาทุน แต่จัดแล้วขาดทุน จริงอยู่เราได้สตังค์ค่าตัวมา แต่เจตนาที่จะช่วยงานหาทุน ก็ไม่บรรลุ
ต่อให้คนมาฟังชอบเพลงขนาดไหน มีแม่ยกมาคล้องพวงมาลัย แต่พอเสร็จแล้วคนจัดขาดทุน มันก็ไม่เป็นผลดี ไม่เกิดผลบุญ
การมองในรายละเอียดจึงเข้ามามีบทบาทต่อการรับงาน
อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ต้นตอ สาเหตุ อาจไม่ได้รับการแก้ไข หากเราช่วยเหลือใครโดยไม่ดูที่มาที่ไป
ลองคิดว่า โรงเรียนแห่งหนึ่งให้ไปช่วยบรรยายให้เด็กนักเรียนอยากเรียนต่อที่โรงเรียนเดิม แต่เราไม่รู้ปัญหาที่แท้จริงว่า ทำไมเด็กถึงอยากออกไปอยู่ที่อื่น ต่อให้เราบรรยายสนุกสนานปานใด ยิ่งเด็กต้องถูกกรอบความคิดของเราเข้ามาแทรก อนาคตเขาอาจเลือกเส้นทางผิดพลาดก็ได้
สิ่งที่ต้องทำกว่านั้นก็คือ ให้โรงเรียนมองปัญหาให้ออกต่างหากว่า ทำไมเด็กถึงไม่อยากเรียน
คนที่น่าจะฟังบรรยายควรเป็นครูหรือผู้อำนวยการมากกว่าเด็กเสียอีก
.
งานวันภาษาไทยในโรงเรียนมีกิจกรรมมากมาย แต่ส่วนใหญ่มักเป็นการให้เด็กมาแต่งตัวเป็นตัวละครในวรรณคดี นอกจากเด็กไม่ได้ความรู้ความรักต่อภาษาไทยเพิ่ม เด็กอาจจะกลายเป็นคนชอบแต่งตัว บ้าแฟชั่นและชอบประกวดประชันการแต่งตัว แทนที่จะประชันกลอนสดซึ่งจะช่วยทำให้ภาษาดีขึ้น
.
หากเราคิดจะช่วยขอทาน ด้วยความสงสาร
ในตัวอย่างโฆษณา มีคนเอาเงินให้ขอทานแล้ว เด็กขอทานได้กลายเป็นเด็กนักเรียน เพราะได้เงินจากการขอทานเป็นทุนการศึกษา
แต่ ในชีวิตจริงๆ หากขอทานเอาเด็กมาขอทานด้วย แล้วได้เงินมากขึ้น เขาอาจจะเอาลูกออกจากโรงเรียนมาขอทานเพิ่มก็เป็นได้
เราต้องมองทั้งระบบ ต้องคิดทั้งกระบวนการ
.
การรักษาพยาบาลก็เช่นกัน
เราเจ็บหู หมออาจจะตรวจจมูก เพราะมันเชื่อมโยงกัน
ไม่ใช่ว่าเจ็บหูแล้วต้องใช้ยาหยอดหูเสมอไป
ต้องหาให้รู้ว่าเจ็บหูเพราะอะไร
งานที่มองที่มาที่ไป จึงเป็นงานอันยุ่งยากและซับซ้อนขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเราเลือกแล้ว
เราก็ต้องออกแบบชีวิต
ไม่ให้ทำงานที่ผิดๆ ยิ่งช่วยยิ่งยุ่ง ยิ่งช่วยยิ่งยาก
มันอาจจะดูเป็นคนเรื่องมากและเข้าใจยาก
แต่เราคิดว่าควรตั้งอกตั้งใจติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกต้อง
แล้วเม็ดที่สองที่สามที่ตามมา หลับตาติดก็ยังได้
แต่งานจำนวนมาก หลับหูหลับตาติดกระดุมเม็ดแรกมา
แล้วค่อยหาคนติดกระดุมเม็ดที่เหลือ ซึ่งปัญหาก็จะตามมา ไม่จบไม่สิ้น
บางทีไปต่อไม่ได้ต้องฉีกเสื้อผ้ากันเลยทีเดียว
ต่อ...ต่อไป ชอบอ่านบทความ ชอบบทกวีที่พี่ศุ บุญเลี้ยงเขียน
แต่ผิดหวังที่พี่ศุ บุญเลี้ยง สนับสนุนคนกลุ่มคนที่ดูหมิ่น เหยียดหยามและชิงชังมีอคติกับสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยที่ควรจะเห็นหรือไม่เห็นด้วยในเรื่องโน้น เรื่องนี้ที่เป็นเรื่องของการเมืองวิพากษ์ วิจารณ์ว่านโยบายนี้ดี ชอบ สนับสนุน เป็นเรื่องๆไป
แต่นี่เล่นชื่นชม ชื่นชอบในสิ่งที่พวกชิงชังสถาบันกษัตริย์ทำแถมส่งเสริมสนับสนุนในเรื่องที่คนที่คิดได้ไม่ควรสนับสนุนอีก....เฮ้ออออ
18 ธ.ค. 2562 เวลา 10.52 น.
ภูวดล ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกด้วยการสนับสนุนโจรคอรัปชั่นปล้นชาติมุ่งล้มล้างสถาบัน มันคือการพังชาติตัวเองให้ย่อยยับ
18 ธ.ค. 2562 เวลา 11.43 น.
ch.chaiya เป็นหนอนหนังสือ แต่ไม่เคยคิดจะอ่านหนังสือของ ศุ ไม่มีบุญ เลย
19 ธ.ค. 2562 เวลา 01.08 น.
เคยชื่นชอบคุณศุ บุญเลี้ยงมานานมาก ตั้งแต่วงเฉลียง มาจนถึงผลงานเดี่ยว มาถึงตอนนี้เสียความรู้สึกมากเลยครับ
19 ธ.ค. 2562 เวลา 11.17 น.
wirat เออแฮะ มีแต่คอมเมนท์อะคติ
อย่าหวั่นไหวครับ. ติดตามตลอด
22 ธ.ค. 2562 เวลา 16.06 น.
ดูทั้งหมด