29 มีนาคม 2019 เป็นวันที่สหราชอาณาจักรจะแยกตัวออกจากสมาชิกอียู หรือ Brexit หลังจากที่เมื่อมิถุนายน 2016 ประชาชนลงประชามติโหวตออกด้วยคะแนน 51.89% ต่อ 48.11% แต่การเจรจาต่อรองต่างๆ ของรัฐบาลยังไม่มีความคืบหน้าและชาวอังกฤษไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร
เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ต.ค. อีกประมาณ 6 เดือนก่อนจะถึงกำหนด ผู้ชุมนุมราว 670,000 คนรวมตัวกันที่กลางเมืองลอนดอนเพื่อเรียกร้องให้ลงประชามติ Brexit ใหม่ โดยบอกว่าเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีกำลังเจรจาด้วยข้อตกลงที่แย่กับอียู ประชาชนควรจะได้ลงมติครั้งสุดท้ายต่อผลการเจรจาของรัฐบาล
เดอะพีเพิลสโหวตมาร์ช (The People’s Vote march) นำโดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนหนุ่มสาวซึ่งเป็นผู้จัดการชุมนุมเริ่มเดินขบวนจากพาร์คเลนไปยังจัตุรัสรัฐสภา เดิมทีมีกำหนดการว่าจะเดินขบวนตอนเที่ยง แต่ต้องเลื่อนออกไปเป็นบ่ายโมงเพราะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก
นับเป็นการชุมนุมประท้วงคัดค้านนโยบายของรัฐบาลที่มีคนมาเข้าร่วมมากที่สุดตั้งแต่ปี 2003 ซึ่งตอนนั้นประชาชนมาชุมนุมคัดค้านการทำสงครามกับอิรัก จำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมเหนือความคาดหมายของทั้งผู้จัดและของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ในทวิตเตอร์ของผู้จัดการชุมนุมเขียนไว้ว่า “มี 670,000 คนที่เข้าร่วม #PeoplesVoteMarch เรียกร้อง #PeoplesVote กรณี Brexit”
คนที่เข้าร่วมชุมนุมมีหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว มีครอบครัวของคนหนุ่มสาวจำนวนมาก บางครอบครัวมีเด็กๆ ที่ห่มด้วยธงอียู และยังมีนักการเมือง กลุ่ม LGBT เจ้าของสุนัข เจ้าหน้าที่ของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ฯลฯ หลายคนถือป้ายที่เขียนขึ้นเองพร้อมข้อความทำนองว่า “Brexit ขโมยอนาคตของฉัน” “เราต้องการประเทศเรากลับคืนมา” และ “You Brexit, we fix it”
ซาดิก ข่าน (Sadiq Khan) ผู้ว่าการกรุงลอนดอนซึ่งเริ่มขบวนประท้วงก็อยู่ที่จัตุรัสรัฐสภาด้วย พร้อมกับตัวแทนจากพรรคการเมืองหลักๆ ร่วมกับคนดังอีกหลายคน เช่น สตีฟ คูแกน (Steve Coogan) เดลลา สมิธ (Delia Smith) และเดบอราห์ มีเดน (Deborah Meaden) นายกรัฐมนตรีคนแรกของสกอตแลนด์ นิโคลา สเตอร์เจียน ก็ส่งข้อความผ่านวิดีโอสนับสนุนการชุมนุมด้วย
ข่านกล่าวว่า “วันนี้จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในระบอบประชาธิปไตยของเรา ชั่วขณะที่ประชาชนหลายพันคน จากทุกมุมของประเทศนี้ ทุกภาคส่วนของสังคมนี้เข้ามาอยู่ที่ถนนนี้ มาทำให้เสียงของเราถูกรับฟัง”
“การโกหก ไม่จริงใจ และการหลอกลวงในการทำประชามติได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว และชัดเจนว่าเจตจำนงของประชาชนกำลังเปลี่ยนไป ไม่มีใครโหวตออกจากอียูเพื่อให้ตัวเองจนลง ไม่มีใครโหวตเพื่อให้ชีวิตของลูกหลานยากลำบากขึ้น ไม่มีใครโหวตเพื่อเห็นระบบประกันสุขภาพถูกทำลาย และไม่มีใครโหวตให้รัฐบาลสร้างเรื่องยุ่งเหยิงขึ้น”
การเจรจาต่างๆ และแผนการดำเนินการของรัฐบาลต่อการแยกตัวออกจากอียูยังไม่มีข้อยุติ ทั้งที่จะเกิดขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ ก็ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ประชาชนออกมาชุมนุม
ลอร์ด อโดนิส (Lord Adonis) สมาชิกพรรคแรงงาน นักรณรงค์ของ People’s Vote กล่าวว่าการเจรจาต่อรองเรื่อง Brexit ที่เกิดขึ้นตลอดในสัปดาห์นี้แสดงให้เห็นว่าข้อตกลงที่ดีที่สุดที่มีในตอนนี้จะส่งผลเสียต่ออังกฤษอย่างไร
วินซ์ เคเบิล หัวหน้าพรรคลิเบอรัลเดโมแครตกล่าวว่า การเดินขบวนแสดงให้เห็นว่าประชาชนชาวอังกฤษเริ่มตระหนักแล้วว่า นักการเมืองไม่สามารถปกป้องงาน ความเป็นอยู่ และอนาคตของลูกหลานของพวกเขาได้จากกระบวนการ Brexit
วันเดียวกันนี้กลุ่มที่สนับสนุน Brexit (pro-Brexit) ชุมนุมกันที่แฮโรเกตประมาณ 1,200 คน ซึ่งนำโดยไนเจล ฟาราจ อดีตหัวหน้าพรรค UKIP ซึ่งจัดโดยกลุ่มที่ชื่อว่า “ออกแปลว่าออก” (Leave Means Leave)
ฟาราจกล่าวว่ามีข้อมูลที่บ่งบอกว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่โหวตให้อยู่ บอกว่าเราเป็นประชาธิปไตยและคิดว่ารัฐบาลควรจะทำตามแผน สิ่งที่เราอยากจะบอกก็คือ “ทำตามแผน ตามสัญญาที่ให้ไว้กับเรา เมื่อคุณบอกว่าถ้าเราโหวตออกแล้วมันจะเป็นแบบนั้น มันก็ต้องเป็นไปตามนั้น”
ที่มาภาพ: NIKLAS HALLE’N / AFP
ที่มา:
^_^ แบตดีไฟแรง ไม่น่าเลย...ต้นแบบประชาธิปไตยแท้ๆแต่ผลลงคะแนนออกมากลับมาเรียกร้องขอลงคะแนนใหม่.เฮ้อมาจะระบาดมาถึงบ้านเราปะเนี่ย...ใก้ลเลือกตั้งแระด้วย..
21 ต.ค. 2561 เวลา 07.33 น.
Pruek อิจฉาจัง มีสิทธิเรียกร้องตามสิทธิพลเมือง
บางประเทศออกมานั่งรวมกันเกิน5คนมันก็ล๊อคคอแล้ว
อย่างว่านะ ประเทศเขาเจริญแล้วทางความคิด ทั้งฝั่งรัฐบาล ทั้งฝั่งผู้ประท้วง
21 ต.ค. 2561 เวลา 09.15 น.
Rangsan Krab ประชามติแล้วก็ประชามติใหม่แล้วก็ประชามติใหม่ๆๆๆๆ ไม่มีวันจบสิ้นจนกระทั้งข้นแค้นลำบากแสนสาหัสจึงปรองดองกันได้
21 ต.ค. 2561 เวลา 08.17 น.
โอ 55555 กำลังดูว่าประชาธิปไตยที่ท่านแนะนำกัน แต่ดูๆตอนนี้ท่านเดินตามการเมืองแบบเอเชียตะออกเฉียงใต้นะครับ
21 ต.ค. 2561 เวลา 09.26 น.
ดูทั้งหมด