เปิดแผนการจับกุมผอ.โรงเรียน โจรปล้นร้านทองลพบุรี จู่โจมชาร์จตัวขณะขับบีเอ็มไปสอน ไม่ขัดขืน เจ้าตัวสารภาพเบื่อชีวิต ต้องการความท้าทาย ตื่นเต้น รู้ตัวในที่สุดจะโดนจับ หลังจากตำรวจได้ควบคุมตัวคนร้ายที่ลงมือโหดปล้นทองและยิงจนมีผู้เสียชีวิต 3 ศพได้แล้ว คือ "นายประสิทธิชัย เขาแก้ว" อายุ 38 ปี และเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี
มีรายงานว่า เบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ได้สั่งการ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.อ.วิจักษ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกองปราบฯ สืบสวนสอบสวนแกะรอยผู้ต้องหารายนี้ จนกระทั่งประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ชุดคลี่คลายคดีกองปราบฯ ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่าคนร้ายที่น่าจะก่อเหตุดังกล่าวน่าจะเป็น นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ อายุ 38 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนโพธิ์ชัยสิงห์บุรี จึงพิสูจน์ทราบพร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานโดยใช้เวลาสืบสวนประมาณ 7 วัน ก็พบว่ามีหลักฐานหลายอย่างโดยเฉพาะอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเกี่ยวพันกับ นายประสิทธิชัย พร้อมกับหลักฐานอื่นๆ เชื่อมโยงว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว จึงได้ประสานให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาลอาญา กระทั่งศาลออกหมายจับให้เมื่อค่ำวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อทราบตัวผู้ก่อเหตุแน่ชัดประกอบกับศาลออกหมายจับแล้ว พล.ต.ต.จิรภพ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิจักษ์ นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.สนับสนุน บก.ป. หรือ ชุดปฏิบัติการพิเศษ "หนุมาน" กองปราบฯ ตามแกะรอยจนทราบที่กบดานของผู้ต้องหารายนี้จนทราบว่ามีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี และจะขับรถไปสอนหนังสือที่โรงเรียนโพธิ์ชัยสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี
ดังนั้น ในช่วงเช้าของวันที่ 22 ม.ค. 63 ชุดปฏิบัติการ กก.สนับสนุน บก.ป. จึงจัดกำลังพร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเห็นนายประสิทธิชัย กำลังขับรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่นซีรีย์ 5 สีดำ หมายเลขทะเบียน 7กณ493 กทม. จึงได้ขับรถสะกดรอยติดตามนายประสิทธิชัย ไปจนถึงบริเวณทางหลวงสาย 311 ต.ท่าวุ้ง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี จึงแสดงตัวพร้อมอาวุธหนักครบมือบุกจู่โจมชาร์จจับกุม
โดยระระหว่างที่เข้าจับกุมนั้นนายประสิทธิชัย ไม่มีท่าทีขัดขืนหรือต่อสู้เจ้าหน้าที่เพราะตั้งตัวไม่ติด ทั้งนี้ จากการตรวจค้นภายในรถไม่พบอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ แต่พบกระสุนปืนขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นขนาดเดียวกันกับที่ก่อเหตุ อยู่ภายในรถจำนวนหลายนัด จึงได้ทำการยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี เพื่อทำการสอบสวน
มีรายงานด้วยว่า จากการสอบสวน นายประสิทธิชัย ให้การรับสารภาพว่าสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเพราะรู้สึกเบื่อกับชีวิต ต้องการหาความท้าทาย ตื่นเต้น ชีวิตจะได้มีสีสัน
นอกจากนี้ยังรู้ตัวดีว่าหลังก่อเหตุจะถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้อยู่แล้ว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นเป็นปืนยี่ห้อ ซีแซต รุ่น เอสพี 01 ซึ่งเป็นปืนของพ่อที่เป็นอดีตตำรวจ หลังจากก่อเหตุเสร็จก็นำไปคืนพ่อเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฟีโน่ สีแดง รุ่นปี 2008 เป็นรถจักรยานยนต์ของพ่อตา ซึ่งตนเองก็ยืมมาเพื่อใช้ในการก่อเหตุด้วยเช่นกัน และขณะนี้รถคันดังกล่าวตนได้นำไปคืนให้กับพ่อตาแล้ว
อย่างไรก็ตามแม้คำให้การของผู้ต้องหาจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีแต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การในบางส่วน และจะทำการเค้นสอบอย่าละเอียดอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ก่อนจะเตรียมนำตัวไปแถลงที่ สตช. ต่อไป
CO Carbonmonoxide อยากตื่นเต้น ขับรถลงเหวสิ ไม่ลำบากคนอื่น
22 ม.ค. 2563 เวลา 11.22 น.
Akaradech Na Tumban มีคนชีวิตเส้งเคร้ง กว่ามึงอีกเยอะ แต่เขาไม่คิดจะฆ่า จะปล้นคนอื่นเขา มึงเลวเองแหละ
22 ม.ค. 2563 เวลา 11.20 น.
""""""" EAK""""""" ทำไมไม่ยิงคนที่บ้านตัวเอง จะได้มี สีสัน
22 ม.ค. 2563 เวลา 11.29 น.
Jaeb ขอให้ตื่นเต้นที่สุดเลยนะตอนเข้าคุก รับน้องให้ดีเลยนะ
22 ม.ค. 2563 เวลา 11.26 น.
Jaeb ชีวิตแกโคตรดีกว่าคนอีกหลายล้านคนเลยนะ
22 ม.ค. 2563 เวลา 11.24 น.
ดูทั้งหมด