หลังจีนเปิดตลาดอนุญาตให้นำเข้ารังนกได้ ประมาณ 5,000 หยวนต่อคนต่อเดือน หรือคิดเป็นเงินไทย 24,000 บาทต่อคนต่อเดือน
นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างออกกฎกระทรวง เพื่อรองรับการผลิตรังนกบ้านเพื่อส่งออก เนื่องจากที่ผ่านมารังนกที่ส่งออกยังเป็นรังนกถ้ำ เนื่องจากผลผลิตรังนกบ้านยังติดอุปสรรคจากการบังคับใช้กฏหมาย ตามกฏกระทรวงให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 ที่ออกตามความใน พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ทำให้เสียเปรียบในการทำการค้าระหว่างประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย
นายนิวัต ระบุว่า ปัจจุบันคนจีนนิยมบริโภครังนก เฉลี่ยปีละ 140 ล้านขวดต่อปี คิดเป็นมูลค่า 95,000 ล้านบาท ขณะที่ไทยสามารถส่งออกรังนกไปจีนได้ 110 ล้านบาท หรือ 180 ล้านขวด และปัจจุบันคนจีนต้องการรังนกจากไทยเพิ่มขึ้น
หากมีการออกกฏกระทรวงดังกล่าว มั่นใจว่าจะะเพิ่มยอดส่งออกรังนกได้ 10,000 ล้านบาท นอกจากนี้จีนยังเปิดช่องทางการขายรังนกบรรจุขวดผ่านตลาดออนไลน์ บนเว็บไซต์ทีมอล แพลตฟอร์มของอาลีบาบา ซึ่งมีผู้ประกอบการผลิตรังนกไทยอยู่ในทีมอลแล้วจำนวน 3 ราย
ก่อนหน้านี้ที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากบ้านรังนกนางแอ่นในเขตเทศบาลตำบลมาบอำมฤต พร้อมผู้นำชุมชน แพทย์ตำบล และชาวบ้านกว่า 200 คน รวมตัวกันเรียกร้องให้ภาครัฐแก้ปัญหานายทุนดัดแปลงต่อเติมอาคารเพื่อเลี้ยงนกนางแอ่น เนื่องจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้อาคารดังกล่าว โดยเฉพาะเด็กและคนแก่เดือดร้อนจากมลพิษที่เกิดขึ้น ทั้งมูลนก เสียง กลิ่น ขนนก จนบางคนเกิดอาการภูมิแพ้และเป็นโรคผิวหนัง
