ความน่าเหนื่อยหน่ายใจของช่วงที่ฝนตกแบบคาดเดาไม่ได้ก็คือราวตากผ้าที่เกือบจะแห้งดีซะแล้ว โดนน้ำฝนอาบลงมาจนชุ่มอีก นอกจากจะเสียเวลาต้องมานั่งซักผ้าใหม่ทั้งหมดแล้ว อีกหนึ่งปัญหาก็คือเรื่องของกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ที่ติดผ้ามาด้วย จนบางครั้งเราก็นึกสงสัยว่าผ้าก็เพิ่งเอาออกมาจากเครื่องหมาด ๆ ทำไมถึงจะยังเหม็นตุ ๆ อยู่ล่ะ
'เรื่องใกล้ใกล้ตัว' ประจำสัปดาห์นี้เลยอยากชวนทุกคนมาเปิดหาสาเหตุของกลิ่นอับที่ว่า รวมไปถึงวิธีการแก้และหลีกเลี่ยง เพื่อเสื้อผ้าที่หอม ใส่แล้วมั่นใจ พร้อมสร้างโมเมนต์ดี ๆ ในแต่ละวัน
ต้นตอของกลิ่นอับคือแบคทีเรีย
ทำความเข้าใจถึงต้นทางของกลิ่นกันก่อนว่าที่เสื้อผ้าเหม็นอับเป็นเพราะการสะสมตัวของแบคทีเรียที่เกาะตัวอยู่ตามใยผ้า ซึ่งเกิดจากเหงื่อ สิ่งสกปรกที่เราเผชิญในแต่ละวัน หรือภาวะอับชื้นของผ้าที่ตากแล้วไม่แห้งดี วิธีกำจัดเจ้าแบคทีเรียเหล่านี้ก็คือการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้าเข้าไปซักล้างให้หมดจด และผึ่งเอาไว้ในที่ ๆ มีแดดและอากาศที่ถ่ายเทสะดวก ขั้นตอนการตากผ้าเลยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่จะช่วยเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหากลิ่นในด่านแรก ๆ
กลิ่นอับจากเครื่องซักผ้าที่สกปรก
อีกหนึ่งสาเหตุที่คนมักจะคิดไม่ค่อยถึงก็คือเจ้าเครื่องซักผ้าที่เราใช้อยู่เป็นประจำนี่ล่ะ เมื่อเวลาผ่านไปภายในเครื่องก็จะเกิดการหมักหมมของผงซักฟอกเอย น้ำยาปรับผ้านุ่มเอย ซึ่งหากไม่เคยได้ทำความสะอาดตัวเครื่องเลย สิ่งเหล่านี้นี่ล่ะที่จะแปลงร่างและบทบาทกลายเป็นจุดรวมตัวของแบคทีเรียซะเอง เพราะฉะนั้นการล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
ผ้าเหม็น ทำยังไงดี?
วิธีที่ค้นเจอบนอินเตอร์เนตรวมกับเคล็ดลับที่ทางผู้เขียนเคยลองทำจะมีอยู่ประมาณนี้ค่ะ
1. ซักผ้าด้วยน้ำร้อน
เช็กฉลากบนเสื้อผ้าแต่ละชิ้นว่าสามารถซักในน้ำร้อนได้ไหม ถ้าระบุไว้ว่าได้ ให้ลองเอาผ้าที่เหม็นเปรี้ยวไปซักด้วยน้ำร้อนสัก 1-2 ครั้ง หรือถ้าบ้านไหนไม่ได้มีก๊อกน้ำร้อนเชื่อมต่อกับเครื่องซักผ้า สามารถนำผ้าไปแช่น้ำร้อนก่อนสัก 10-15 นาทีแล้วค่อยนำไปซักตามปกติได้เช่นกัน
2. ลดปริมาณผงซักฟอก
ยิ่งใส่ผงซักฟอกเยอะ ไม่ได้หมายความว่าผ้าจะยิ่งสะอาด ในทางกลับกัน หากปริมาณของผลิตภัณฑ์เยอะเกินไปอาจทำให้ตกค้างในเนื้อผ้ากลายเป็นคราบ เมื่อน้ำไม่สามารถชะล้างออกได้หมด ก็ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับในที่สุด ลองสังเกตว่าปกติที่ใช้ถูกต้องตามสัดส่วนแล้วหรือไม่ แล้วปรับปริมาณผงซักฟอกให้พอดีกับจำนวนผ้าที่ซักให้เหมาะสมกันมากยิ่งขึ้น เพื่อผ้าที่หอมฟุ้ง ไม่เหม็นอับ
3. ใช้เบกกิ้งโซดา ฆ่ากลิ่น!
หนึ่งในทริคที่เห็นว่ามีคนหยิบไปใช้ขจัดกลิ่นบนผ้าอย่างแพร่หลายก็คือการใช้เบกกิ้งโซดาในการกำจัดกลิ่นอับ วิธีการใช้ก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่โรยผงเบกกิ้งโซดาให้ทั่วทั้งด้านนอกและด้านในของเสื้อผ้าตัวนั้น ทิ้งเอาไว้ 1 คืน วันต่อมาใช้แปรงขนอ่อนปัดแล้วค่อยนำไปซัก หรือถ้าอยากประหยัดเวลา สามารถผสมเบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวงไปกับผงซักฟอกแล้วซักผ้าทีเดียวเลยก็ได้เช่นกัน
4. กำจัดเชื้อราด้วยมะนาวและเกลือ
ทริคสุดท้ายนี้มาจากเว็บไซต์ บ้านและสวน ซึ่งเป็นเคล็ดลับในการกำจัดเชื้อราที่ปรากฏตัวเป็นจุดดำ ๆ บนเสื้อผ้า และเป็นผลพวงที่มาจากความอับชื้น ให้ใช้มะนาวสดบีบลงไปตรงจุดที่มีเชื้อราจนชุ่มแล้วโรยเกลือตามลงไป จากนั้นเอานิ้วถู ๆ วน ๆ จนทั้งมะนาวกับเกลือซึมลงไปในผ้า แล้วนำไปซักตามปกติ ฤทธิ์ความเป็นกรดของมะนาวและความเป็นกลางของเกลือจะช่วยกำจัดเจ้าเชื้อราได้เป็นอย่างดี ต้องลอง!
หากใครมีเทคนิคส่วนตัวที่ใช้กันในบ้านที่ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในเสื้อผ้า สามารถมาแชร์เคล็ดลับกันได้ในช่องคอมเมนต์ แล้วพบกันใหม่ในคอลัมน์ 'เรื่องใกล้ใกล้ตัว' วันพุธหน้านะคะ
อ้างอิง
chaiwiwat น้ำส้มสายชูกลั่น 5% ไม่ใช่น้ำส้มสายชูเทียม
ใส่พร้อมผงซักฟอก 200cc รับรองว่า
กลิ่น เหม็นหาย และทำให้ผ้าฟูนุ่ม
10 พ.ย. 2564 เวลา 14.04 น.
MTB น้ำส้มสายชู
10 พ.ย. 2564 เวลา 02.59 น.
🍭phumnarish🍭 สุดท้าย ใช้น้ำยาซักผ้าดาวนี่สีเขียว สูตรตากในร่ม
10 พ.ย. 2564 เวลา 13.08 น.
ต้น🧿💯 ใช้เครื่องซักผ้าไฮเออร์ครับมีนวัตกรรมSelf-Cleaningระบบทำความสะอาดถังซัก ขจัดสิ่งสกปรกและแบคทีเรียทั้งภายในและภายนอกถังซักได้ถึง 99.9% ด้วยเทคโนโลยี Smart Ball ที่ผลิตจากวัสดุที่ป้องกันแบคทีเรียได้ถึง 99.9% ช่วยทำความสะอาดรอบตัวถังขณะซัก ขจัดคราบและสิ่งสกปรกที่ติดกับตัวถังเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน หมดปัญหาแบคทีเรียตกค้าง ป้องกันคราบสกปรกที่มองไม่เห็น เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีและปกป้องเสื้อผ้าของคนที่คุณรัก
#Haier
10 ส.ค. 2565 เวลา 10.51 น.
Panisa ใช้ไฮเตอร์ขวดเขียว ที่ฆ่าแบคทีเรียและกำจัดกลิ่นด้วยค่ะ ใช้แล้ดีค่ะ
02 ธ.ค. 2564 เวลา 22.42 น.
ดูทั้งหมด