ทั่วไป

“มิวเทอร์ม-เฟสเซนซ์” เครื่องวัดอุณหภูมิอัจฉริยะฝีมือคนไทย

Thai PBS
อัพเดต 04 มิ.ย. 2563 เวลา 08.00 น. • เผยแพร่ 04 มิ.ย. 2563 เวลา 08.05 น. • Thai PBS

วันนี้ (4 มิ.ย.2563) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค-สวทช.) ร่วมกับทีมวิจัยพัฒนา “มิวเทอร์ม-เฟสเซนซ์” (µTherm-FaceSense) เครื่องวัดอุณหภูมิอัจฉริยะโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีกล้องอินฟาเรดผนวกระบบตรวจจับใบหน้าบุคคลอัตโนมัติ (Face detection) โดยไม่มีข้อจำกัดแม้สวมหน้ากากอนามัย มีระบบประมวลผลที่รวดเร็วแม่นยำภายใน 0.1 วินาที สามารถตรวจวัดอุณหภูมิได้ครั้งละหลายคนพร้อมกันในระยะห่างสูงสุด 1.5 เมตร จึงช่วยลดระยะเวลารวมถึงลดความเสี่ยงจากความใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่และผู้รับการตรวจคัดกรอง พร้อมรองรับการเชื่อมต่อและจัดเก็บข้อมูลผ่านเครือข่ายการสื่อสารหลากหลาย

ภาพ : สวทช.
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ภาพ : สวทช.

“มิวเทอร์ม-เฟสเซนซ์” ได้รับการพัฒนาให้มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา รูปทรงทันสมัย ในราคาที่สนับสนุนให้ผู้ผลิตไทยเข้าถึงได้ หวังลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างประเทศ โดยสามารถติดตั้งใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล โรงเรียน เรือนจำ สถานีขนส่งสาธารณะ สถานีรถไฟฟ้า MRT / BTS ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงงานสัมมนา มหกรรมต่าง ๆ เป็นต้น

ภาพ : สวทช.
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ภาพ : สวทช.

นอกจากนี้ ยังได้ออกมาให้รองรับการเชื่อมต่อและจัดเก็บข้อมูลผ่านระบบ IoT ด้วยการสนับสนุนจาก กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ​ ปัจจุบัน “มิวเทอร์ม เฟสเซนซ์” อยู่ในขั้นตอนการทดสอบเพิ่มเติม ตามเกณฑ์ที่จะต้องผ่านการทดสอบขั้นพื้นฐาน ก่อนนำลงสนามใช้จริง 40 เครื่องเร็วๆ นี้ ​

ความโดดเด่นของ “มิวเทอร์ม-เฟสเซนซ์”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
  • ตรวจจับใบหน้าและวัดค่าอุณหภูมิถูกต้อง แม่นยำ ภายใน 0.1 วินาที
  • ตรวจวัดอุณหภูมิครั้งละหลายบุคคลพร้อมกัน ในระยะห่างสูงสุด 1.5 เมตร
  • ตรวจจับใบหน้าบุคคลอัตโนมัติ (Face detection) แม้สวมหน้ากากอนามัย
  • กำหนดค่าอุณหภูมิเฝ้าระวัง และ ค่าชดเชยสภาพแวดล้อมได้
  • รองรับการเชื่อมต่อและจับเก็บข้อมูลผ่านเครือข่าย Wi-Fi รวมถึงสาย LAN
  • รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์แสดงผลผ่าน HDMI
ภาพ : สวทช.

ภาพ : สวทช.

ประโยชน์ของเทคโนโลยี

  • เฝ้าระวังและลดความเสี่ยงการสูญเสียจากผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับภาวะอุณหภูมิของร่างกายที่ผิดปกติและการระบาดของโรคร้ายแรง
  • ใช้เป็นฐานข้อมูลอ้างอิงเพื่อออกประกาศการป้องกันและการดูแลเบื้องต้นเกี่ยวกับภาวะหรือโรคที่เกิดจากการเสียสมดุลของอุณหภูมิร่างกาย รวมถึงทำนายอุบัติการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
  • สร้างโอกาสในการเกิดธุรกิจใหม่ทั้งในฐานะผู้ผลิตและผู้ให้บริการ
  • สร้างจุดเด่นให้กับสถานที่ที่ใช้งานระบบเพื่อการเอาใจใส่ดูแลและป้องกันสุขภาพ
  • ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

 

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 14
  • กะเพา
    เงินทอนไม่มี ใครจะเอา
    04 มิ.ย. 2563 เวลา 10.25 น.
  • TP
    ขอแสดงความยินดีครับ ที่ใช้เงินกับการประดิษฐ์ของมีประโยชน์ เพื่อประชาชนแบบนี้ คุ้มค่าเงินที่กระทรวงจะลงทุนครับ โปรดตรวจสอบว่าใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพดี และติดตั้ง ทุกด่าน ที่คนเดินทางเข้าประเทศด่วนครับ
    04 มิ.ย. 2563 เวลา 09.17 น.
  • เยี่ยมมากครับ
    04 มิ.ย. 2563 เวลา 09.17 น.
  • BabyBoss
    เก่งค่ะ แต่มีอีกข้อที่ต้องระวังคือวัดไข้ไม่เจอ แต่อาการหนัก ต้องใช้ปรอท อมใต้ลิ้น หรอรักแร้ ถึงเจอมันก็มีนะคะ
    04 มิ.ย. 2563 เวลา 09.05 น.
  • ต้าว
    ถ้าดีก็เอามาใข้แม้มันจะช้าไป​ อย่าพึ่งพาแต่ต่างประเทศเหมือนพานาย้ายถิ่นฐานเมืองไทยเปนหงอยเลยผลิตไม่เปน​ มหาดก็อย่าผลาญแต่งบอบรมสัมนาวิธีทำต่างๆเปิดในยูทูปก็ได้​ กินเกินเหตุจริงๆ
    04 มิ.ย. 2563 เวลา 09.02 น.
ดูทั้งหมด