ประกันสังคม ขอความร่วมมือนายจ้าง แจ้งเปลี่ยนข้อเท็จจริง หนังสือรับรองขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ในระบบ e-service บนหน้าเว็บ www.sso.go.th ด่วน!
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการที่ ประกันสังคม จ่ายสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย โดยให้นายจ้าง รีบดำเนินการยื่นหนังสือรับรองการขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงานเนื่องจากมี เหตุสุดวิสัย ให้แก่ ลูกจ้าง ผู้ประกันตน เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยรับเงินว่างงานฯ ต่อสำนักงานประกันสังคม
เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรควิด-19 ในประเทศไทยได้คลี่คลายลง รัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนคลาย ให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่าง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกของประชาชน และขับเคลื่อนกิจกรรมบางอย่าง ทำให้สถานประกอบการบางประเภทสามารถเปิดดำเนินการได้ จากผลสืบเนื่องดังกล่าว สำนักงานประกันสังคมขอความร่วมมือนายจ้าง แจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง ในเรื่องการหยุดงานของลูกจ้าง ผู้ประกันตน ในหนังสือรับรองการขอรับประโยชน์ในกรณีว่างงานเนื่องจาก มีเหตุสุดวิสัยต่อสำนักงานประกันสังคม ในกรณีดังนี้
- กรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงานก่อนวันที่รับรองไว้แล้ว ให้ยื่นหนังสือรับรองแจ้งวัน กลับเข้าทำงานของลูกจ้าง
- กรณียังไม่สามารถให้ลูกจ้างทำงานได้ และต้องให้ลูกจ้างหยุดงานต่อหลังจากคำสั่งรัฐ สั่งเปิดแล้ว ให้ยื่นหนังสือรับรองแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงตามที่นายจ้างมีคำสั่งให้ลูกจ้างหยุดงานจนถึงวันที่สิ้นสุดการหยุดงาน
- กรณีเปลี่ยนแปลงสาเหตุการหยุดงาน เนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยของลูกจ้างให้ยื่นหนังสือรับรองใหม่ โดยระบุสาเหตุการหยุดงาน วันที่เริ่มต้น และวันที่สิ้นสุด
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือให้ นายจ้างรีบดำเนินการภายใน 7 วัน นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยสามารถแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ใน ระบบ e-service บนเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th สำหรับนายจ้างที่ไม่ได้ยื่นผ่านระบบ e-service สามารถดาวโหลดแบบฟอร์มในแบบแจ้งการกลับเข้าทำงานของลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตน กรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัย ได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th เมนู ดาวน์โหลด เลือกแบบฟอร์มที่ต้องใช้กรณีว่างงาน โดยสามารถยื่นแบบได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง/จังหวัด/สาขา
อย่างไรก็ตาม ขอให้นายจ้างเห็นความสำคัญ หากไม่ดำเนินการแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง อาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนในกรณีอื่นๆ ได้
หลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33
การจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน มี หลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินเยียวยา ที่ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เป็นผู้ประกันตนมาแล้วมากกว่า 6 เดือน รวมถึงต้องได้รับการรับรองจากนายจ้างด้วย
ในกรณีที่เป็นผู้ประกันตนในมาตรา 39 และมาตรา 40 จะไม่สามารถรับผลประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากการแพร่ระบาด COVID-19 ได้ รวมถึงผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่เป็นผู้ประกันตนมาแล้ว “ไม่ถึง 6 เดือน” หรือที่ยังมีงานทำปกติ ก็จะไม่ได้รับสิทธิ์นี้เช่นกัน
สำหรับกรณีที่ผู้ประกันตนได้รับเงินเยียวยาล่าช้าว่า อาจเป็นเพราะผู้ประกันตนยื่นขอสิทธิซ้ำหลายครั้ง หรือกรอกข้อมูลผิด และนายจ้างไม่ได้รับรองลูกจ้าง ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคมได้เริ่มจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.63 จนถึงปัจจุบัน
ประกันสังคมขยายเวลาให้ลูกจ้างลงทะเบียนรับเงินเยียวยาได้ภายใน 2 ปี
กรณีตกหล่น หรือ หลงลืม เพื่อไม่ให้ลูกจ้างเสียสิทธิ์ แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ ตกงาน ว่างงาน ลงทะเบียนแล้วยังไม่ได้เงินเยียวยา ประสบปัญหาข้อมูลตกหล่น หรือกระบวนการและขั้นตอนการลงทะเบียน เอกสารประกอบ รวมถึงการพิสูจน์สิทธิต่างๆ
นายจักษ์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่จะได้รับเงินเยียวยาประกันสังคม จากสำนักงานประกันสังคม กรณีนายจ้าง หรือรัฐบาล สั่งให้หยุดงาน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. - 31 ส.ค. 63 และ นายจ้างไม่ได้จ่ายค่าจ้าง ให้มารับเงินจาก ประกันสังคมได้ แต่ต้องหยุดงานรวมกันไม่เกิน 90 วัน ทั้งนี้ ผู้ได้รับผลกระทบมีสิทธิ์ยื่นขอรับการเยียวยาได้ภายใน 2 ปี เป็นการเปิดกว้างกรณีตกหล่น หรือหลงลืม เพื่อไม่ให้ลูกจ้างเสียสิทธิ์รับเงินเยียวยา
กรณีถูกเลิกจ้าง และไม่มีความผิด จะได้รับเงินเยียวยา จากสำนักงานประกันสังคม ร้อยละ 70 เป็นเวลา 200 วัน ให้ไปแจ้งที่กรมการจัดหางานว่าว่างงาน ก่อนจะมาแจ้งรับเงินเยียวยา
กรณีชราภาพ ต้องอายุ 55 ปีขึ้นไป ลาออก หรือสิ้นสุดจากผู้ประกันตน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม หากออกจากงาน จะได้รับเงินที่ถูกหักร้อยละ 3 ต่อเดือนที่สะสมไว้ หากส่งน้อยกว่า 180 งวด(15 ปี) จะได้จากนายจ้างอีกร้อยละ 3 รวมเป็นร้อยละ 6 บวกกับดอกเบี้ย กรณีส่งมากกว่า 12 เดือน แต่ไม่เกิน 180 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จเป็นเงินก้อนครั้งเดียว และหากส่งมากกว่า 180 เดือน(15ปี)ขึ้นไป จะได้รับเป็นบำนาญรายเดือนจนกระทั่งเสียชีวิตจากข้อมูลมีผู้ลงทะเบียน ตั้งแต่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 1.2 ล้านคน ได้รับการเยียวยาไปแล้วกว่า 1 ล้านคน วงเงินประมาณ 6,562 ล้านบาท อยู่ระหว่างการดำเนินการ 88,548 คน และอยู่ระหว่างรอนายจ้างรับรองอีกประมาณ 18,000 คน
🍄Tai@leo🐇🐅.... เป็นความล้มเหลียวของระบบประกันสังคมเป็นอย่างมาก พนักงานเงินเดือนเท่ากันส่งวันเดียวกัน คนได้เป็นหมื่นอีกคนได้ไม่กี่พันทั้งๆที่บริษัทเดียวกันเงินเดือนเท่ากัน คุณเอาหัวแม่ตีนทำงานกันเหลอ
31 พ.ค. 2563 เวลา 15.56 น.
เงินชราภาพไม่เห็นออกมาพูดว่าสุดท้ายจะคืนไม่คืน
31 พ.ค. 2563 เวลา 07.29 น.
wan หมดงานนี้กูจะขอยกเลิก ประกันสังคม ขอเงินคืน ตามสิทธิ์ ไม่มี
ประโยชน์ จะส่งต่อ ทำไม เลิกๆๆๆๆ
31 พ.ค. 2563 เวลา 05.20 น.
PandetWongaiyarathat รับรองไปสามรอบ ปกส.ก็ยังบอกไม่ได้ยืนยัน ห่วยแตก
31 พ.ค. 2563 เวลา 04.17 น.
NETIMONGKOLROGN NAT. มาเฟีย ในคราบของหน่วยงานที่ถูกกฎหมาย
31 พ.ค. 2563 เวลา 04.14 น.
ดูทั้งหมด