ทั่วไป

วิถีใหม่ต้องปรับตัว!นายจ้างส่งสัญญาณปริญญาตรีล้าสมัยเสี่ยงตกงานเพิ่ม

Manager Online
เผยแพร่ 26 พ.ค. 2563 เวลา 02.34 น. • MGR Online

สภาองค์กรนายจ้างเตือนตลาดแรงงานเตรียมเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่รับวิถีใหม่หรือ New Normal จากผลกระทบโควิด-19 จับตาตลาดแรงงานใหม่ 6.34 แสนคนที่63.2%จบปริญญาตรีในสาขาที่ล้าสมัยไม่ตรงกับความต้องการของตลาดเสี่ยงตกงานมากขึ้น เช่นเดียวกับแรงงานสูงวัยเป็นเป้าให้ยื่นสมัครใจออกพุ่ง หลังธุรกิจต้องลดขนาดองค์กรลง แรงงาน Gen Z จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่า จากผลกระทบไวรัสโควิด-19 จะทำให้เกิดความปรกติใหม่หรือวิถีใหม่( New Normal ) รูปแบบการ ดำเนินชีวิต, การทำธุรกิจ, การจ้างงานจะแตกต่างไปจากเดิมโดยเฉพาะตลาดแรงงานจะเปลี่ยนไปซึ่งเกี่ยวข้องกับสถานประกอบการ ผู้ใช้แรงงาน ภาครัฐ ที่ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ โดยเฉพาะความท้าทายของแรงงานใหม่ที่พึ่งจบการศึกษาในแต่ละปีที่มีประมาณ 6.342 แสนคนส่วนใหญ่จบปริญญาตรีในสาขาที่ตลาดไม่ต้องการจะหางานยากขึ้นมากกว่าเดิม แม้แต่แรงงานที่กลับเข้าไปทำงานใหม่หรือทำงานอยู่แล้วล้วนมีความเสี่ยงจำเป็นที่จะต้องมีการปรับพฤติกรรมตลอดจนพัฒนาทักษะให้สามารถตอบโจทย์กับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้ได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

" ถือเป็นความเสี่ยงของแรงงานที่จะมีมากขึ้น ดังนั้นในเรื่องของการศึกษาต้องเร่งปรับให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด ขณะที่แรงงานทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นแรงงานใหม่ แรงงานวัยตอนต้น แรงงานสูงวัยและแรงงานทุกกลุ่มสาขาอาชีพจะต้องมีขีดความสามารถให้สามารถก้าวผ่าน ช่วงรอยต่อของการฟื้นตัวจากการบอบช้ำทางเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 ไปสู่เศรษฐกิจใหม่ซึ่งแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงให้ได้"นายธนิตกล่าว

ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานบนบริบทของ New Normal ที่สำคัญได้แก่ 1. Business Downsize หรือการลดขนาดองค์กรให้เล็กลง( โดยใช้เทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้นและลดจำนวนแรงงานในสถานประกอบการเป็นทางเดินของธุรกิจที่เป็นวิถีใหม่ ประกอบกับภัยคุกคามการจ้างงานจากการเร่งตัวของ เทคโนโลยีก้าวหน้าในรูปแบบต่าง ๆ อย่างรวดเร็วหรือ Disruptive Technology จะเข้ามาแทนที่การใช้แรงงานมนุษย์เช่น หุ่นยนต์ ระบบเอไอ ฯลฯ

  1. Labour Demand Changing หรือตลาดแรงงานจะเปลี่ยนไปนายจ้างจะคัดกรองคนที่กลับเข้าทำงานแม้แต่คนที่ทำงานอยู่แล้วอาจถูกลดขนาดภายใต้โครงการสมัครใจลาออกในรูปแบบต่างๆ โดยแรงงานสูงวัยจะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงมากขึ้น

  2. New Job Challenge ตลาดแรงงานใหม่ภายใต้แพลตฟอร์มดิจิทัล ทำให้มีอาชีพใหม่ที่ธุรกิจต่างๆ จะเริ่มลดขนาดองค์กรด้วยการกระจายตำแหน่งงานไปให้ฟรีแลนซ์และเอาท์ซอร์ซซึ่งไม่ต้องมีสำนักงานในลักษณะ“non-office worker” เช่น งานการตลาด, งานบัญชี, งานบริการลูกค้า, งานปฏิบัติการ, งานที่เกี่ยวกับคลังสินค้าและโลจิสติกส์ ฯลฯ

  3. Worth Returned Conceptual หรือแนวคิดความคุ้มค่าและมีค่าต่อองค์กร ผู้ที่จะอยู่ในตำแหน่งงานได้อย่าง

มั่นคงจนถึงวัยเกษียณจะต้องมีการปรับทัศนคติใหม่นอกจากการเพิ่มผลิตภาพของตนเองที่ต้องยกระดับให้มี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ความคุ้มค่าและคุณค่าต่อองค์กร ในอนาคตขนาดขององค์กรจะเล็กลงหลายตำแหน่งงานจะหายไป

ทำอย่างไรไม่ให้กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องถูกออกจากงานซึ่งจากนี้ไปจะเห็นการเร่งตัวของ “New Normal

Early Retire”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
  1. First Labour Aged Demand หรือโอกาสของแรงงานวัยตอนต้นเพราะพลวัตรตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลง

อย่างสิ้นเชิง แรงงานใหม่ต้องสามารถตอบโจทย์สภาวะแวดล้อมธุรกิจการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมือนเดิมวัย

แรงงานตอนต้นยังมีความต้องการสูงแม้ที่ผ่านมาแรงงานอายุ 18-29 ปี ความต้องการจ้างงานติดลบประมาณ-14.6% ก็ตาม

  1. Digital Platform Direction จะเป็นทิศทางเดินของธุรกิจทั้งภาคผลิต, ภาคบริการ, ค้าส่ง-ค้าปลีก,

โลจิสติกส์ ฯลฯ เป็นจุดแข็งของแรงงานตอนต้นที่มาจากกลุ่มเจเนเรชั่นซีหรือ Gen Z มีความคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีทำให้

สามารถปรับตัวได้เร็วกว่ากลุ่มวัยอื่น

7. Skill Change หรือการเปลี่ยนแปลงของทักษะใหม่ ซึ่งตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานที่ไม่เหมือนเดิมแม้แต่แรงงานวัยตอนต้นล้วนมีความเสี่ยงสะท้อนจากแรงงานจบใหม่ระดับอุดมศึกษามีการว่างงานสูงสัดส่วนถึง 29.5% ของผู้ว่างงานทั้งหมด ขณะเดียวกันแรงงานใหม่ที่เข้าสู่ตลาดแรงงานส่วนใหญ่ 63.2% จบปริญญาตรีในสาขาที่ล้าสมัยไม่ตรงกับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะการด้อยคุณภาพของแรงงานใหม่

" เราจะมาหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็วๆ คงเป็นไปไม่ได้เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นแบบ “U-Shaped Discovery” ซึ่งเศรษฐกิจจะค่อยๆฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ด้านนายจ้างจะคัดกรองคนที่จะกลับเข้ามาทำงานตำแหน่งที่ไม่จำเป็นจะไม่เก็บไว้ ธุรกิจส่วนใหญ่จะลดขนาด เพราะดีมานด์ของตลาดยังไม่กลับมา ตลาดแรงงานจะเป็นของนายจ้างเนื่องจากตำแหน่งงานที่จะจ้างน้อยกว่าคนที่ต้องการทำงาน มนุษย์เงินเดือนหลังยุค POST COVID-19 จึงต้องปรับตัวครั้งใหญ่ "นายธนิตกล่าว

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 7
  • มงคล
    ดี จะได้ไม่ต้องเรียนถึงปริญญาตรี เรียนเอาแค่สายอาชีพ ป.ว.ส ก็พอ
    26 พ.ค. 2563 เวลา 03.26 น.
  • Pokky
    ค่าเรียนต่อ ป.โท มันแพง พ่อแม่ส่งลูกถึง ป.ตรี ก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด ยังจะมาบอกว่าวุฒิไม่พอเสี่ยงตกงาน พวกเถ้าแก่ที่รวยล้นฟ้าทุกวันนี้มันมาแค่เสื่อผืนหมอนใบ ร่ำรวยจนส่งต่อให้ลูกหลานบริหาร เอาแค่ ป.ตรีก็พอมั้งท่าน ทำงานไปเดี๋ยวมันก็เก่งเอง ยกเว้นพวกหมอ พวกครูบาอาจารย์ ที่ต้องถนัดวิชาการ ของท่านพวกอุตสาหกรรม ค้าขาย ไม่ต้องถึงขั้นสูงนักหรอกครับ ป.ตรีก็พอ
    26 พ.ค. 2563 เวลา 03.27 น.
  • Niranchai To
    รอดูกันไปครับ คุณค่าของคนไม่ใช่จะต้องมองเป็นผลลัพธ์ทางการเงินไปทั้งหมด แต่ต้องดูผลลัพธ์ทางอ้อมด้วยที่จะมีมาให้องค์กรก้าวหน้า
    26 พ.ค. 2563 เวลา 03.37 น.
  • เรียนได้เปิดสอนตามจำนวนที่ขาดแคลนตามวิชาไม่ใช่ผลิตจนล้นตลาด กยศ.ให้กู้จะได้เงินคืนหมดก็หางานให้ด้วยจะได้ไม่ต้องฟ้องศาลเพราะกู้เรียน
    27 พ.ค. 2563 เวลา 03.43 น.
  • สุพธริกา
    ตอนนี้คัดเอาแต่คนมีคุณภาพเข้าทำงานอาจจะไม่เกี่ยงอายุด้วย เด็กฝากเด็กเส้นตายเรียบไม่รับเข้ามาให้เปลืองเงิน
    26 พ.ค. 2563 เวลา 05.07 น.
ดูทั้งหมด