อุทธรณ์ยืนจำคุก 2 ชายชุดดำ คนละ 10 ปี ส่วน จ.3-5 ยกฟ้อง ให้ขังระหว่างฎีกา เหตุปะทะแยกคอกวัว 10 เม.ย. 2553
วันที่ 26 ก.พ. ที่ห้องพิจารณาคดี 709 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ อ.4022/2557 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกิตติศักดิ์ หรือ อ้วน สุ่มศรี ชาวกรุงเทพมหานคร, นายปรีชา หรือ ไก่เตี้ย อยู่เย็น ชาว จ.เชียงใหม่, นายรณฤทธิ์ หรือนะ สุริชา ชาว จ.อุบลราชธานี, นายชำนาญ หรือเล็ก ภาคีฉาย ชาวกรุงเทพมหานคร และนางปุนิกา หรืออร ชูศรี ชาวกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 8 ทวิ 55, 72, 78 และข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมือง ที่ชุมชน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 จำเลยทั้ง 5 กับพวกที่ยังหลบหนี และพวกที่ถึงแก่ความตายไปแล้ว ได้บังอาจร่วมกันกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน โดยร่วมกันพาอาวุธ เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด ที่สามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินให้เกิดความเสียหายได้ อาทิ เครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 ปืนเอ็ม 16 ปืนเอชเค 33 หรือ ปืนอาก้า ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไปตามบริเวณแยกคอกวัว ถ.ตะนาว ถ.ประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กทม. ซึ่งเป็นเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ทั้งในเวลาเกิดเหตุมีการชุมนุมกันของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งวัน เวลาเกิดเหตุ เจ้าพนักงานยึดได้อาวุธสงครามของกลาง กระทั่งวันที่ 11 ก.ย. 2557 เจ้าพนักงานติดตามจับกุมพวกจำเลยทั้ง 5 ส่งพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดี
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2560 พิพากษาว่า นายกิตติศักดิ์ จำเลยที่ 1 และนายปรีชา จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 8 ทวิ 55, 72,78 ให้จำคุกคนละ 8 ปี และฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง ที่ชุมชน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 2 ปี รวมจำคุกคนละ 10 ปี ส่วนจำเลยที่ 3-5 นั้น พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวจำเลยที่ 1-2 จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาศาล ส่วนจำเลยที่ 3-5 ได้รับการประกันตัวเดินทางมาศาล โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วให้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 10 ปี ยกฟ้องจำเลยที่ 3-5 แต่ให้ขังไว้ระหว่างฎีกา
คิดดี ทำดี มีน้ำใจ โทษน้อยจัง เทียบกับความเสียหายและผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ พฤติกรรมแบบนี้ น่าประหาร เพราะเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อสังคมไทย
26 ก.พ. 2563 เวลา 06.20 น.
Narong ตู่ เต้น เหวง กี้ร์ ช่วยไรได้บ้างครับ
พวกเขาน่าสงสาร ทำงานให้ แล้วมาทำเป็นไม่รู้จัก
โดนลอยแพอีกชุดแล้ว ฮือๆๆ
26 ก.พ. 2563 เวลา 06.28 น.
สบายใจ บอกแล้ว อย่าไป ประท้วง ใครจะช่วยคุณ.พอ ถึงเวลานี้
26 ก.พ. 2563 เวลา 06.18 น.
GREE'36 พอแล้วไอ้เหลืองไอ้แดงโง่ฉิบหายดูไอ้พวก สส.ที่พาพวกแกลงถนนมีใครติดคุกบ้างมันเล่นละครให้ดูอย่าโง่มากไปกว่านี้ครับพี่น้อง
26 ก.พ. 2563 เวลา 06.33 น.
Hang ไม่จริงชายชุดดำไม่มีจริง.... เหวงๆกล่าวไว้... สาด
26 ก.พ. 2563 เวลา 06.36 น.
ดูทั้งหมด