TFM เข้าเทรดวันแรกทำราคาเปิดการซื้อขายที่ 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 2.2 บาท หรือ 16.30% จากราคาไอพีโอที่ 13.50 บาท โดยกางแผนสร้างการเติบโตในต่างประเทศ วางเป้าหมายดันสัดส่วนรายได้ 3 ปีจากนี้ไปสู่ระดับ 25% พร้อมเดินหน้าสร้างรายได้รวมสู่ระดับ 8 พันล้านบาทใน 5 ปี
นายบรรลือศักร โสรัจจกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ TFM ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ต้องขอบขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนใจ TFM สะท้อนจากผลงานในรอบ 20 ปี ที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และแผนงานในอนาคตใน 3-5 ปีขยายต่างประเทศต่อเนื่อง
ทั้งนี้หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทมีแผนสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อปักธงสู่ผู้นำในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เศรษฐกิจ โดยในปี 2564-2566 คาดจะใช้เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ จำนวน 1,177.4 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) การขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินโดนีเซีย โดยบริษัทย่อย TUKL มีแผนที่จะลงทุนในสายการผลิตอาหารสัตว์น้ำเพิ่มเติมอีก 2สายการผลิต ซึ่งจะเป็นผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 36,000ตันต่อปี คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 250ล้านบาท ภายในปี 2566
2) ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน จำนวนไม่เกิน 250 – 350ล้านบาท ภายในเดือนมีนาคม 2565เพื่อให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) หลัง IPO ไม่เกิน 0.3 เท่า ระยะยาวกำหนดไม่เกิน 1 เท่า และ 3.) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ TFM มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง รวมกันเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าอัตรา 50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม หลังจากการหักทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามข้อบังคับของบริษัทฯ และตามกฎหมายแล้ว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปี 2564 คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก โดยคาดภาพรวมทั้งปี 2564 จะมีรายได้เติบโต 15-20%มาที่ระดับ 4,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในแง่ของกำไรปีนี้คาดว่าจะลดลงจะลดลงจากปีก่อน เพราะต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น แต่บริษัทไม่ได้ขึ้นราคาขายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลเริ่มคลายล็อกดาวน์ราคาสัตว์น้ำเพื่อขึ้นต่อเนื่อง จึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อผู้เลี้ยงจะเริ่มลงทุนกุ้งและปลาใหม่ ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทในช่วงไตรมาส 1/64
ดังนั้นจึงคาดว่าผลประกอบการปี 2565 จะกลับมาในทิศทางที่ดีโดยวางเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 5,000 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้จากประเทศอินโดนีเซีย และประเทศปากีสถานแบบเต็มปี ซึ่งบริษัทวางเป้า 3 ปีจากนี้จะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 25% จากเดิมที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 3% ขณะที่ในประเทศไทยยังคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดย บริษัทมุ่งมั่นสร้างการเติบโตในต่างประเทศ ผ่านโมเดลทางธุรกิจที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ ได้แก่ 1. การเซ็นสัญญาความร่วมมือทางเทคนิคและอนุญาตให้ AVANTI Feeds Limited (AVANTI) ผู้ผลิตอาหารกุ้งรายใหญ่ของประเทศอินเดีย ใช้ชื่อทางการค้า (Trade Name) และสูตรการผลิตสินค้าของ TFM สำหรับการจำหน่ายอาหารกุ้งในประเทศอินเดีย 2. ร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner) ในการจัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินโดนีเซีย ชื่อว่า บริษัท พีที ไทยยูเนี่ยน คาริสม่า เลสทารี จำกัด (TUKL) โดยมีพันธมิตรทางธุรกิจ
2 กลุ่ม คือ PT MSK ซึ่งเป็นพันธมิตรท้องถิ่น ที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจแปรรูปอาหารแช่แข็งรายใหญ่ในประเทศอินโดนีเซีย และกลุ่ม AVANTIโดย TFM, PT MSK และกลุ่ม AVANTI มีสัดส่วนการถือหุ้นใน TUKL 65%, 25% และ 10% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ TUKL ตามลำดับ
และร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศปากีสถาน คือ AMG-Thaiunion Feedmill (Private) Limited (AMG-TFM) เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศปากีสถาน โดยร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner) คือ กลุ่ม AMG ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจอาหารสัตว์น้ำรายสำคัญในประเทศปากีสถาน ซึ่ง TFM และกลุ่ม AMG ถือหุ้น 51% และ 49% ตามลำดับ
โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 AMG-TFM มีกำลังการผลิตอาหารปลา เท่ากับ 7,000 ตันต่อปี และมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 15,000 ตันต่อปี ภายในปี 2564 ทั้งนี้ AMG-TFM ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้และมีกำไรสุทธิแล้วตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 และ 3. การส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ประเทศศรีลังกา มาเลเซีย บังคลาเทศ พม่า ปากีสถาน และสาธารณรัฐมัลดีฟส์ เป็นต้น
สำหรับการเติบโตของตลาดในประเทศ บริษัทมีแผนพัฒนาและขยายไปยังธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเป็นการรักษาความสามารถในการแข่งขันในฐานะผู้นำของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารปลากะพงแบบเม็ดสำเร็จรูปแทนการใช้เหยื่อสดเป็นรายแรกๆ ของประเทศไทย ตลอดจนการเป็นผู้นำในการผลิตและจำหน่ายอาหารปลากะพงยักษ์ ปัจจุบัน ได้มีการออกแบรนด์สินค้ากลุ่ม Fighting Brand เพื่อมุ่งเน้นการทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ตามปริมาณการขายอาหารปลาในประเทศที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการมุ่งเน้นการทำตลาดอาหารปลาอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น รวมถึงอยู่ระหว่างวิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น ปู และปลาสลิด เป็นต้น โดยบริษัทฯ คาดว่าจะมีโอกาสเติบโตในธุรกิจอาหารสัตว์เศรษฐกิจเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในกับภูมิภาคเอเชียในอนาคต
“บริษัทวางเป้า 5 ปีนับจากนี้จะมีรายได้ 8,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยยังมองหาโอกาสการเข้าซื้อกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตให้กับบริษัทอีกด้วย โดยในปี 65 ตั้งงบลงทุน 200 ล้านบาท เพื่อรองรับการปรับปรุงกำลังการผลิต และระบบไอที”นายบรรลือศักร
นายพิเชษฐ สิทธิอํานวย กรรมการผู้อํานวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ หรือ TFM มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 20ปี รวมถึงมีความพร้อมทางด้านบุคลากร แหล่งเงินทุน และการเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อใช้พัฒนาความสามารถในการแข่งขันและยกระดับอุตสาหกรรมโดยรวม
ส่งผลให้ TFM มีความสามารถในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดี มีความสม่ำเสมอ มีประสิทธิผลต่ออัตราการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ รวมถึงสามารถผลิตสินค้าที่หลากหลายและครอบคลุมสำหรับการเพาะเลี้ยงตลอดวงจรชีวิตของสัตว์น้ำในราคาที่แข่งขันได้ ทำให้ผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าของบริษัทฯ ได้รับความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในวงกว้างมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ TFM อยู่ในสถานะที่มีความพร้อมสำหรับโอกาสในการเติบโตทั้งตลาดในประเทศ ผ่านการขยายธุรกิจอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์ประเภทอื่นๆ และตลาดต่างประเทศผ่านแนวทางต่างๆ เช่น การเข้าทำสัญญาความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น หรือการตั้งฐานการผลิตในต่างประเทศร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้ผลการดำเนินงานของ TFM เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ทั้งนี้ TFM ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างมาก และมั่นใจว่า TFM จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่มีคุณภาพ และได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักลงทุน
ʝʊռɢ_աɨռ ตอนดอย us$1,900 เมื่อ 7ปีก่อน
ก็พูดแบบเดียวกันนี้ว่าไป 2,000-2,500
28 พ.ค. 2563 เวลา 08.12 น.
white อเมกาเหลือที่ทำเงินพิมพ์ยูเอสได้ทางเดียวหาเงินจากนำมันไม่ได้แล้วจึงต้องทำให้โลกปั่นป่วนอ้างชุมนุมฮ่องกงกระทบจีนมีความเสี่ยงราคาทองขึ้น เลวจริงๆ คนไทยต้องระวังเศรษฐกิจจะไม่ดีอีกรอบ
31 พ.ค. 2563 เวลา 10.40 น.
เกี๋ยง88 ถือ เป็น การ หลอก ลง ทุน ไหม
ใคร มี อำ นาจ จับ ตา ดู หน่อย
06 มิ.ย. 2563 เวลา 08.41 น.
デチャ(諏訪) หลอกชาวบ้านได้สิความฝันของคนที่มันอ่อนไปทุกส่วน วันดีคืนดีจีนเทขายทองคำออกมา มึงจะว่าอย่างไร นี่เขาจ้องอะไรอยู่ถ้ามึงไม่รู้อย่ามาหลอกชาวบ้าน
16 พ.ค. 2563 เวลา 05.51 น.
Zara Srison ล่อใจโจรถึงได้ตั้งราคาซะแพงลิบลิ่ว..
20 พ.ค. 2563 เวลา 20.20 น.
ดูทั้งหมด