นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เตือนว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 เป็นความท้าทายครั้งใหญ่สุดสำหรับโลก ตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 มันอาจนำไปสู่ภาวะถดถอย ที่ไม่มีครั้งใดในอดีตเทียบเท่า โดยคำเตือนของกูเตอร์เรส มีขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ที่น่ากลัวเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการต่าง ๆ ที่แต่ละประเทศนำมาต่อสู้เพื่อหยุดยั้งไวรัสร้าย
จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะทั่วโลก ขณะนี้ อยู่ที่มากกว่า 860,000 ราย และเสียชีวิตแล้วมากกว่า 42,000 ราย ตัวเลขผู้เสียชีวิตในสหรัฐประเทศเดียวขณะนี้ อยู่ที่มากกว่า 4,000 ราย สูงกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดเมื่อปลายปีที่แล้ว
มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ ในสหรัฐ แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตในสหรัฐเพิ่มอีก 865 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และติดเชื้อรวมทั่วประเทศกว่า 189,000 ราย โดยประมาณ 3 ใน 4 ของชาวอเมริกันขณะนี้ อยู่ภายใต้มาตรการ “ล็อคดาวน์” หรือ “ปิดเมือง” ขณะที่ รัฐต่าง ๆ ของสหรัฐใช้มาตรการเข้มข้นในการทำสงครามกับไวรัส ศัตรูที่มองไม่เห็น
ขณะเดียวกัน สเปน มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดรองจากอิตาลีเท่านั้น ก็เสียชีวิตเพิ่มอีก 849 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถิติรายวันที่สูงที่สุดในวันเดียว ส่วนในสหราชอาณาจักร มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 1,789 ราย เพิ่มขึ้นอีก 381 ราย ซึ่งในกลุ่มผู้เสียชีวิต มีเด็กชายวัย 13 ขวบรวมอยู่ด้วย
นายกูเตอร์เรส กล่าวที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในนิวยอร์ก ระหว่างการรายงานเกี่ยวกับความเป็นไปได้ถึงผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัส ระบุว่า การะบาดของไวรัสโควิด-19 กำลังโจมตีสังคมทะลุทะลวงถึงแก่นใน โดยอ้างถึงชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คน หลายประเทศทั่วโลกใช้มาตรการต่าง ๆ ซึ่งรวมทั้งการควบคุมการเคลื่อนไหวของประชาชน และปิดห้างร้านธุรกิจ เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส
รายงานของยูเอ็น ประเมินว่า จะมีผู้ตกลงถึง 25 ล้านคนทั่วโลก จากผลพวงของไวรัส อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ด้วยว่า กระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั่วโลกจะลดลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์
“โควิด-19 ถือเป็นบททดสอบที่หนักหนาสาหัสที่สุดที่พวกเราต้องเผชิญร่วมกัน ตั้งแต่ก่อตั้งสหประชาชาติมา” กูเตอร์เรสกล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันทันทีเพื่อยุติการระบาดของไวรัสร้าย
กูเตอร์เรส ยังเรียกร้องให้ประเทศอุตสาหกรรม ช่วยประเทศด้อยพัฒนา มิเช่นนั้นต้อง “เผชิญหน้ากับฝันร้ายจากการระบาดของไวรัสร้ายไม่ต่างจากไฟไหม้ป่า”
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ธนาคารโลก เตือนว่า ดูเหมือนว่า “เศรษฐกิจต้องพบเจอกับความเจ็บปวดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกประเทศ” และภาคครัวเรือนที่พึ่งพาอุตสาหกรรม มีความเสี่ยงสูงกว่าที่จะได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส
wee ถ้าโควิด เป็นเชื้อร้ายทำลายชาวโลก ดังนั้นชาวโลกควรปรองดอง ผนึกกำลัง สร้างฝันสามัคคี โอบอุ้ม โอบกอด ประคับประคองให้โลกปลอดภัย อาจเป็นนิมิตใหม่ ที่ทำให้ชาว โลกเรารักกันทุกชาติศาสนา แบบเอื้ออาทร ซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือเผื่อแผ่ ให้ทุกชีวิตในโลก เดินไปได้อย่างสุขสมบูรณ์
01 เม.ย. 2563 เวลา 11.00 น.
เอกชน ไชยพรรค ชี้ไปที่หลักล้านเลยดีกว่า เพราะยังเจออาฟเตอร์ช็อคอีกรอบ
01 เม.ย. 2563 เวลา 10.14 น.
นนท์ทวี_FE1505 เพราะมนุษย์อย่างเราๆทำลายโลกใบนี้มากเกินไป โลกใบนี้เลยทำลายมนุษย์อย่างเรากลับคืนหรือนี่เป็นการเตื่อนจากโลกใบนี้
01 เม.ย. 2563 เวลา 09.58 น.
pop อาวุธของยูเอสเอ ที่ยังไม่ได้ออกมาใช้
- ฝนพิษ มันจะใช้เครื่องบินรบปล่อยฝนพิษทั่วโลก นําจืดจะเป็นพิษทั้งโลก ประชาชนจะขาดนําตายหมด
01 เม.ย. 2563 เวลา 09.52 น.
pop รุ้จัก ยูเอสเอ น้อยไป มันมียิ่งกว่านี้อีก มันยังไม่เอาออกมาใช้ ใครไปแทรกแซงเมกา หรือ ไปต่อกรกับประเทศนี้ต้องเจอหายนะหมด
-มันมีปืนเลเซอร้อนแรงสูง สามารถยิงข้ามโลกได้ สดุทุกอย่างที่โดนแสงนี้ต้องละลายหด
-เครื่องความถี่ เสียงแหลม เปิดดังทั่วโลก ประชาชนทุกคนบนโลก หูแตก สมองแตกตายหมด และอื่นๆ เด่วมาบอกเรื่อย มันยาวขี้เกียจพิม
01 เม.ย. 2563 เวลา 09.49 น.
ดูทั้งหมด