ทั่วไป

5 อันดับปัญหาเด็กไทย

กรุงเทพธุรกิจ
เผยแพร่ 20 ส.ค. 2562 เวลา 14.45 น.

นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันเด็กและเยาวชนมีแนวโน้มต้องการรับความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตในส่วนของการให้บริการสายด่วนสุขภาพจิตพบว่า กลุ่มเยาวชนโทรเข้ามาปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตมากยิ่งขึ้น โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 พบว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่โทรเข้ามาปรึกษาทั้งหมด เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ 11-25 ปี และ 5 อันดับปัญหาที่พบมาก คือ ความเครียด หรือความวิตกกังวล ปัญหาจิตเวช ปัญหาความรัก ปัญหาซึมเศร้า และปัญหาครอบครัว ที่อาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์หรือเหตุการณ์ที่เป็นอันตราย

ทั้งนี้ เพื่อตระหนักถึงสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา จึงได้มีการดำเนินการพัฒนาด้านสุขภาพจิตในโรงเรียนแบบบูรณาการ โดยการสำรวจข้อมูล และ Focus Group สะท้อนถึงผลการดำเนินงานสุขภาพจิตในโรงเรียนที่ผ่านมา และเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของจิตแพทย์ นักจิตวิทยา รวมทั้งผู้ปฎิบัติงานด้านสุขภาพจิตในโรงเรียน เพื่อร่วมกันวางแผนพัฒนาด้านสุขภาพจิต นำไปสู่การยกร่างแนวทางการดำเนินงานสุขภาพจิตในโรงเรียนแบบบูรณาการ ควบคู่กับการพัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับการช่วยเหลือสุขภาพจิตของนักเรียนกับสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับจิตแพทย์และทีมสุขภาพจิตในแต่ละพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่งผลต่อการดำเนินงานสุขภาพจิตในโรงเรียนได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรมได้มากยิ่งขึ้น เพื่อดูแลส่งเสริมให้นักเรียนมีพัฒนาการและมีสุขภาพจิตที่ดี ซึ่งถือเป็นพื้นฐานความพร้อมสู่การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพและดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

"สพฐ.จะต้องส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบแนะแนว ครูจะต้องรู้ข้อมูลของเด็กนักเรียนในชั้นเรียนของตัวเองทุกคน เรื่องนี้นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) ได้เน้นย้ำและให้ความสำคัญมาก เพราะหลายคนอาจจะเห็นเป็นเรื่องเล็กและมองข้าม แต่เรื่องนี้สำคัญมาก ดังนั้นจึงต้องสร้างความตระหนักให้กับคุณครูทุกคน โดยเฉพาะครูแนะแนว" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 28
  • ครูป๊อป 🎓
    ผู้ปกครองเด็กเครียดเพราะปัญหาเศรษฐกิจ กับ การเมืองครับ ทำให้หุ้นตก ดอกเบี้ยต่ำ ไม่มีการลงทุน โรงงานย้านฐานการผลิต ไม่มีงาน หรือมีงานก็เงินน้อย ไม่มีโอที ผลผลิตทางการเกษตรราคาตกต่ำ จึงมีผลกระทบทำให้เด็กๆเครียดตามครับ และมีตัวอย่างเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี ใช้อารมณ์ ใช้อำนาจ ใช้กำลัง ใช้วาจาไม่สุภาพในการแก้ปัญหา ให้เด็กดูเป็นข่าวอยู่ทุกวันตลอดระยะเวลานานครับ เด็กๆจึงซึมซับวิธีการเอามาใช้กับ เพื่อนหรือรุ่นน้องใน รร. ด้วยวุฒิภาวะของเด็ก เข้าใจว่านั่นเป็นตัวอย่างที่ทำได้ และครูก็ไม่มีอำนาจในการลงโทษ
    21 ส.ค. 2562 เวลา 02.01 น.
  • ปัญหาหลักผู้ใหญ่ในประเทศไทย บอกเด็กว่าโตขึ้นจะไม่โกง แต่ตัวเองกลับทำตรงกันข้ามตามที่บอกเด็ก คือตัวเองโกง
    21 ส.ค. 2562 เวลา 01.59 น.
  • slmssk
    เหมือนอ่านหนังสือ1หน้าเช่นเดิม ไม่มีนโยบายเชิงปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม ไม่มีอะไรที่จะเกิดการพัฒนา มีแต่ออกมาพูดกันวันๆ ตั้งแต่หัวใรกระทรวง ถีงหางตามเขตพื้นที่
    21 ส.ค. 2562 เวลา 01.57 น.
  • Nong
    ปัญหานี้ยิ่งใหญ่มากนะ เพราะเขาต้องโตขึ้นเป็นคนของชาติต่อไป มีแต่ข่าวที่ไม่ดีเยอะมาก เช่นตีฟันแทงกัน ข่มขืน มั่วยา ปล้นโขมย คดโกง บางรายอายุยังไม่ถึง 18 ด้วยซ้ำ เพราะขาดศิลธรรมในตัว พ่อแม่ไม่มีเวลาสั่งสอนเพราะต้องทำงานเอาไปฝากปู่ย่าตายายเลี้ยงบ้าง เด็กขาดการอบรมที่ดีขาดความอบอุ่น ก็น่าจะมีหมอจิตแพทย์และพระเข้าไปสอนใน รร.เลย อาทิตย์ละสองครั้งน่าจะดีเป็นวิชาแบบเรียนไปด้วยเลย ไม่ใช่ให้นั่งแต่ท่องสูตรคูณอยู่นั่นแหละ มีประชุมเรียกผู้ปกครองมาอบรมเดือนละครั้งพร้อมเด็กไปด้วยเลย
    21 ส.ค. 2562 เวลา 01.55 น.
  • By Jen
    ลดภาระงานครูซิ
    21 ส.ค. 2562 เวลา 01.52 น.
ดูทั้งหมด