ขสมก.แจงขึ้นค่ารถเมล์ไม่กระทบประชาชน

รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เผยการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารทั้งระบบไม่กระทบประชาชน ขณะที่ผลสำรวจความต้องการผู้โดยสารส่วนใหญ่ต้องการการบริการที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม ไม่ติดใจเรื่องค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้น

รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ นายประยูร ช่วยแก้ว เปิดเผยถึงการปรับขึ้นค่าโดยสารรถโดยสารสาธารณะซึ่งมีผลวันนี้(22เม.ย.)ว่า จากปัญหาที่ทางขสมก.ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น อีกทั้งไม่ได้ขึ้นค่าโดยสารมานานถึง 7 ปีแล้ว จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นค่าโดยสารดังกล่าวขณะเดียวกันในการขึ้นค่าโดยสารครั้งนี้ เป็นตามมติของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 อนุมัติให้มีการปรับปรุงอัตราค่าโดยสารทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศที่วิ่งให้บริการในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเนื่องจากที่ผ่านมาได้จัดเก็บค่าโดยสารอัตราต่ำกว่าทุน อีกทั้งอัตราค่าโดยสารที่ปรับขึ้นก็เป็นไปตามผลการศึกษาของTDRI ที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางว่าจ้างให้ทำการศึกษา ไม่ได้ขึ้นราคาตามปัจจัยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ขสมก.จึงแบ่งการขึ้นค่าโดยสารเป็นสองระยะคือ อัตราค่าโดยสารระยะที่ 1 ซึ่งจะต่ำกว่าอัตราค่าโดยสารตามมติ คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2562 - 21 เมษายน 2563 โดยมีราคาดังนี้- รถโดยสารธรรมดาจาก 06.50 บาท ปรับเป็น 8 บาท- รถโดยสารปรับอากาศครีม-น้ำเงินจาก 10-18 บาท ปรับเป็น 12-20 บาท- รถโดยสารปรับอากาศยูโรทู จาก 11-23 บาท ปรับเป็น 13-25 บาท- รถโดยสารปรับอากาศใหม่ จาก 11-23 บาท ปรับเป็น 15,20,25 บาท ส่วนการปรับอัตราค่าโดยสารระยะที่2 จะเริ่มปรับตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2563 มีราคาดังนี้- รถโดยสารธรรมดาจาก 8 บาท ปรับเป็น 10 บาท- ปรับอากาศครีม-น้ำเงินจาก 12-20 บาท ปรับเป็น 13 -21 บาท- รถโดยสารปรับอากาศยูโรทู จาก 13-25 บาท ปรับเป็น 14-26 บาท- รถโดยสารปรับอากาศใหม่ ราคาเท่ากับรอบแรก15,20,25รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ.ยืนยันว่า การปรับค่าโดยสารมีข้อดีเพราะจะเป็นการสร้างแรงจูงใจสำหรับรถร่วม ขสมก. ที่ต้องการปรับขึ้นราคาที่ต้องจัดหารถที่มีคุณภาพมาให้บริการเพราะหากเป็นรถใหม่จะเก็บค่าโดยสารเพิ่มได้ และจากการสำรวจความเห็นของผู้โดยสาร ขสมก. พบว่าส่วนใหญ่ไม่มีใครติดใจเรื่องขึ้นค่าโดยสารเพราะเป็นเงินไม่มาก แต่ส่วนใหญ่ต้องการบริการที่ดีขึ้นมากกว่าเดิมขณะนี้ ขสมก.เริ่มใช้รถเมล์ใหม่ออกมาให้บริการแล้ว 489 คัน และจะจัดซื้อรถเมล์ใหม่เพิ่มอีกถ้าแผนฟื้นฟูผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และยอมรับว่าการขึ้นราคาครั้งนี้จะสามารรถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของ ขสมก.ได้ดีขึ้น