โซเชียลมีเดียก็เหมือนดาบสองคม มีทั้งข้อดี แต่ก็นำพาสิ่งเลวร้ายมาให้มากมาย ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับเราว่าจะใช้มันยังไง ใช้ให้ดีก็เกิดประโยชน์ ถ้าใช้ไม่เป็นก็ทำให้เกิดโทษ เกิดผลเสียขึ้นกับตัวเองและคนรอบข้างอีกมากมาย
ถ้าจะบอกว่าโซเชียลมีเดียคือโลกเสมือนจริงก็คงไม่ผิดนัก เพราะในโลกนั้น เราจะทำอะไรก็ได้ เพียงแค่จรดนิ้วลงไป เราสามารถมีตัวตนในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งอาจจะเหมือนหรือแตกต่างชีวิตจริงไปเลยก็ได้ เป็นตัวตนที่ถูกสร้างขึ้นแบบไม่ต้องมีถูกผิด ไม่ต้องมีหลักฐานอ้างอิง ไม่ต้องมีที่มาที่ไป สุดท้ายก็กลายเป็นตัวตนปลอม ๆ ในโลกปลอม ๆ ที่เรียกว่าโซเชียลมีเดีย
บางคนไม่มีตัวตนในโลกแห่งความจริง แต่เป็น Someone ในโซเชียลมีเดีย โพสต์อะไรไปใคร ๆ ก็สนใจ กดไลก์ กดแชร์ เมนต์ตอบโต้กันรัว ๆ ซึ่งการที่คน ๆ หนึ่งหลงใหลคลั่งไคล้ในโลกเสมือนจริงแบบนี้ จนกลายเป็นความเคยชินแบบไม่รู้ตัว ก็จะยิ่งทำให้ตีตัวออกห่างจากโลกแห่งความจริงมากขึ้นเท่านั้น
และการที่เราอยู่ห่างจากโลกจริง ๆ มากเท่าไหร่ โซเชียลมีเดียก็จะยิ่งมีผลต่อความคิดความอ่านของเรามากเท่านั้น จนดูเหมือนว่าทุกอย่างในโซเชียลมีเดียจะดูโอเวอร์ ดูเกินจริงไปซะหมด เรียกว่าบรรทัดฐานของทุกอย่างจะถูกเขยิบขึ้นไปอีกเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความทุกข์ก็ตาม เช่น ในโลกจริงแค่ได้กลับบ้านเร็วหน่อยเราก็มีความสุขแล้ว แต่ในโซเชียลมีเดีย ต้องไปเที่ยวต่างประเทศถึงจะเป็นความสุข กลายเป็นว่าทุกคนในโลกปลอม ๆ แห่งนี้ พร้อมใจกันสร้างบรรทัดฐานแห่งความแฮปปี้ในอีกรูปแบบขึ้นมา
แต่ลืมไปหรือเปล่าว่าโลกเสมือนยังไงก็ไม่ใช่โลกจริง บางคนใช้เวลาอยู่ในโลกนั้นมากกว่าโลกเราจริง ๆ เสียอีก ผลสุดท้ายก็หลงใหลได้ปลื้มไปกับอะไรปลอม ๆ จนลืมไม่สนใจว่าเรื่องที่อยู่ในโซเชียลเป็นความจริงสักกี่เปอร์เซ็นต์ อาจไม่ถึง 50% หรือไม่มีความจริงอยู่เลยก็ได้
ทีนี้ก็อยู่ที่เราแล้วแหละว่าจะ “เชื่อ” หรือ “ไม่เชื่อ” จะเอาสิ่งที่เห็นบนโลกโซเชียลมาเป็นบรรทัดฐานในการใช้ชีวิตของเราต่อไปหรือไม่ จะเชื่อไปซะหมดโดยไม่ไตร่ตรอง ไม่คิดอะไรเลยหรือไม่
เพราะอย่างที่รู้กันว่าโลกโซเชียลใบนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถ้ารู้จักใช้ก็เกิดประโยชน์มากมาย แต่ถ้าดักดานเชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตาก็อาจมีภัยมาถึงตัวได้เหมือนกัน
อย่างการหลอกเอาเงินในโลกโซเชียล เป็นเรื่องที่เราได้ยินข่าวกันบ่อยจนคิดว่าโดนหลอกได้ไงวะ แต่ก็ยังมีข่าวประเภทนี้ออกมาให้ได้ยินไม่เว้นแต่ละวัน ปลอมว่าเป็นญาติ เป็นเพื่อนมายืมเงินบ้าง ปลอมโปร์ไฟล์มาคุยแล้วขอให้โอนเงินบ้าง และอีกสารพัดวิธีที่มิจฉาชีพแฝงตัวในโลกโซเชียลเหล่านี้จะทำ ซึ่งทางที่จะทำให้ไม่โดนหลอกก็ง่าย ๆ คือไม่เชื่อ ก็แค่นั้นเอง
รู้แบบนี้แล้ว สิ่งที่เราทำได้เวลาใช้โซเชียลมีเดียก็คือเชื่อให้น้อยลง ดูแล้วอย่าเพิ่งเชื่อ เรียกว่าปักใจไม่เชื่อไว้ก่อนเลย แล้วค่อยมาพิสูจน์กันอีกทีว่าจริงหรือไม่ อย่าเชื่อแค่เพราะหมอคนนั้นว่างั้น อาจารย์คนนี้ว่างี้ คนพวกนี้เป็นหมอ เป็นอาจารย์กันจริง ๆ หรือเปล่าไม่มีใครรู้
ทุกวันนี้มีข้อมูลข่าวสารมากมายเหลือเกินบนโลกออนไลน์ เพราะฉะนั้นคงไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่าโซเชียลมีเดียก็คือโลกเสมือนจริงที่ไม่มีอะไรจริง..
N' N ใครเขียนเนี่ย มันใช่เหลือเกิน
25 ก.พ. 2562 เวลา 17.03 น.
AUT บางคนรวยได้เพราะโซเชียล มันไม่ใช่โลกเสมือนจริง มันคือสื่อ สื่อที่ทุกคนสามารถเป็นผู้ส่งสารได้ ไม่เหมือน TV วิทยุ
ถ้าใช้้เป็น สามารถสร้างรายได้ ได้มหาศาล
26 ก.พ. 2562 เวลา 00.52 น.
Sorn เตือนสติได้ดีมากๆ
25 ก.พ. 2562 เวลา 23.44 น.
ใช่เลย หลงไหลสิ่งหลอกๆ จินตนาการสุดขอบโลก..
26 ก.พ. 2562 เวลา 00.01 น.
หมูมาอยู่กับพระ คนตอ้งมีบทเรียนถ้าไม่มีก็โง่ตายน่ะซิ่
26 ก.พ. 2562 เวลา 00.01 น.
ดูทั้งหมด