วันนี้( 26 พ.ค.63) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมวกลาโหม แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่าวิกฤตโควิดที่เรากำลังเผชิญอยู่นี้ได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ไม่เพียงเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุข แต่ยังเป็นวิกฤตที่รุนแรงมากที่ส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของประชาชน
ในด้านสาธารณสุข ประเทศไทยประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดได้ดีและรวดเร็ว หากเปรียบเทียบกับอีกหลายประเทศในโลก
ผมรู้สึกทึ่งกับบุคลากรทางด้านสาธารณสุข ทั้งแพทย์ พยาบาล พนักงานส่วนงานต่างๆในสถานพยาบาล อสม. ทั่วประเทศ รวมถึงบุคลากรในภาคส่วนอื่นๆอีกมากมายที่เกี่ยวข้อง แม้กระทั่งพนักงานทำความสะอาดในสถานที่ต่างๆทุกท่านล้วนเป็นบุคคลสำคัญ ตลอดจนการให้ความร่วมมือและการมีวินัยของคนไทยทุกคนทั้งการหมั่นล้างมืออยู่เสมอและการใส่หน้ากาก โดยไม่ต้องมีกฏหมายบังคับเหมือนในบางประเทศ แต่คนไทยทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันจนเราประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ นี่เป็นสิ่งที่พวกเรา ควรภูมิใจในความสำเร็จของประเทศไทยของเรา
อย่างไรก็ตามยังมีอีกหนึ่งวิกฤตที่อยู่ตรงหน้าเราตอนนี้ นั่นคือวิกฤตในเรื่องของการขาดรายได้ หาเลี้ยงปากท้องของพี่น้องประชาชน ดังนั้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยจัดการกับวิกฤตเรื่องปากท้อง ผมได้เดินทางไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ด้วยตัวของผมเองในช่วง 2 ถึง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เน้นสมาคมที่เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็กและคนทำมาหากินทั่วประเทศเป็นสมาคมที่ผมอาจจะไม่มีโอกาสได้พบปะมาก่อน แต่ผมรู้ว่าเป็นภาคธุรกิจที่เจ็บปวดมากที่สุดจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น
การที่ผมไปพบสมาคมภาคธุรกิจต่างๆด้วยตัวเอง โดยขอให้ทุกท่านเล่าความเดือดร้อน รวมทั้งแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆให้ผมทราบ เพราะผมต้องการรับฟังโดยตรง เพื่อเข้าใจความเดือดร้อนที่แท้จริงที่เกิดขึ้น โดยเป้าหมายของผมคือ หาวิธีแก้ปัญหาตรงหน้าที่จะสามารถทำได้ทันทีเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะสั้นก่อน ซึ่งผมก็ได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่างมากจากสมาคมต่างๆ การไปพบสมาคมภาคธุรกิจ ยังทำให้ผมได้รับกำลังใจกลับมาด้วย เมื่อผมได้เห็นว่ามีผู้มีความรู้ความสามารถมากมาย ที่เชี่ยวชาญและรู้ชัดว่า ต้องทำอย่างไรกับภาคธุรกิจของตัวเอง และสิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้น คือเค้าเหล่านั้นมีความรักความห่วงใยประเทศ เค้าไม่เพียง “ขอ” ความช่วยเหลือให้กับภาคธุรกิจของตัวเอง แต่เค้ายังได้นำเสนอสิ่งที่จะดีสำหรับประเทศชาติด้วย
วันนี้ ผมขอรายงานผลที่ได้จากการไปพบปะหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ มีหลายอย่างที่ผมได้สั่งการให้เกิดขึ้นแล้วและอีกหลายอย่างที่ผมตัดสินใจแล้วว่า จะผลักดันให้เกิดขึ้น
อย่างแรกผมได้สั่งการในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะเป็นนโยบายกำหนดโควต้าของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างที่ตั้งไว้แล้ว ต้องไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมไปถึงผู้ประกอบการเล็กๆในท้องถิ่นต่างๆ ทั้งนี้พิจารณาให้อยู่ในกรอบของข้อกฏหมาย นั่นหมายความว่า เงินจะถูกกระจายออกไปเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจรากหญ้า ผู้ประกอบการขนาดเล็ก และกลุ่ม SME ทั่วประเทศ โดยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานรับรองตามกฎหมาย โดยจะต้องจัดทำบัญชีผลิตภัณฑ์ขึ้นทะเบียนให้ทราบล่วงหน้า เพื่อพิจารณา อย่างเช่น การขึ้นบัญชีนวตกรรม ที่ดำเนินการมาแล้ว และเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ผมสั่งการนี้ เกิดขึ้นจริง ผมจะติดตามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง โดยผมได้สั่งการให้หน่วยงานภาครัฐทำรายงานให้ผมรับทราบตอนสิ้นปี
นอกจากนั้นผมอยากขอความร่วมมือจากบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ หากท่านต้องซื้อของ หรือใช้บริการอะไร ขอให้ท่านช่วยกันสั่งซื้อของ และใช้บริการจากผู้ประกอบการ SME ในประเทศของเรา เนื่องจากกลุ่ม SME ได้สร้างงานสร้างอาชีพให้กับพี่น้องมากกว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ และเป็นฟันเฟืองที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย
ประการที่ 2 ผลจากการหารือกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ผมได้รับทราบว่า สถานที่ค้าขายต่างๆ รวมทั้งศูนย์การค้า ห้างร้าน ต่างต้องการให้รีบเปิดสถานที่ค้าขายโดยเร็วที่สุด เพื่อกลับมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง โดยตัวแทนของภาคธุรกิจได้เล่าถึงวิธีการ และความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดที่ ห้างร้านต่างๆ ได้เตรียมการกันไว้อย่างเข้มงวด ทำให้ผมสบายใจในระดับหนึ่ง และทำให้ผมได้สั่งการ เริ่มเปิดห้างร้านต่างๆ ได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมขอขอบคุณสำหรับการลงทุนและความเข้มงวด ที่ทุกคนพยายามช่วยกันดูแลรักษาสุขอนามัยให้ได้อย่างเหมาะสม
ประการที่ 3 ในส่วนของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งได้บอกกับผมชัดเจนว่าต้องการให้นักท่องเที่ยวกลับมาโดยเร็ว ประเด็นนี้ ผมอยากบอกกับทุกคนว่าผมรับทราบ และเข้าใจความต้องการของท่าน ซึ่งผมจะดำเนินการตามที่ท่านเสนอ เมื่อผมเห็นว่า ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดโควิด ลดลงไปอยู่ในระดับที่เราจะยอมรับความเสี่ยงนั้นได้ เพราะสิ่งที่เราต้องระมัดระวังอย่างมากก็คือ ถ้าเราเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยได้เร็วเกินไป หากนำเชื้อโควิดเข้ามาด้วย ทุกอย่างที่เราทำมาได้ดีทั้งหมดจะเสียเปล่า แล้วเราจะต้องกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ ปิดทุกอย่างอีกครั้ง ซึ่งนั่นจะเป็นหายนะอย่างแท้จริงสำหรับทุกคนในประเทศ นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หาจุดสมดุลของการดูแลเรื่องสาธารณสุข และการช่วยเหลือเรื่องการทำมาหากินของประชาชน ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่า ผมนึกถึงพี่น้องนับล้านๆ คนที่ต้องพึ่งพา หารายได้จากธุรกิจท่องเที่ยว อยู่ตลอด
ประการที่ 4 ผมได้สั่งการและสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐพิจารณาการใช้งบประมาณที่มีอยู่แล้วสำหรับการจัดประชุมสัมมนา ขอให้ออกไปใช้สถานที่ หรือโรงแรมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ผมหวังว่านี่จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยผมได้กำชับด้วยว่า ขอให้เลือกใช้โรงแรมที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย
ประการที่ 5 จากการหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้ผมได้รับทราบว่า มีแรงงานในบางภาคธุรกิจ และในบางพื้นที่ ซึ่งนายจ้างจำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราว แต่แรงงานกลับไม่ได้รับเงินชดเชยประกันสังคม อาจจะด้วยปัญหาความไม่ชัดเจนในวิธีการพิจารณาและวิธีปฏิบัติ เมื่อทราบข้อเท็จจริง และพิจารณาเหตุผลต่างๆ แล้ว ผมเห็นด้วยว่าเป็นประเด็นที่ต้องรีบแก้ไข ผมจึงได้สั่งการ และขณะนี้ได้ดำเนินการให้มีความชัดเจนแล้ว ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และแรงงานก็ได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคม
ประการที่ 6 ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือกับสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ผมได้รับทราบถึงสิ่งที่เกษตรกรกังวลใจมากที่สุด มากกว่าโควิด นั่นคือ ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ ผมจึงได้สั่งการไปแล้วว่าให้หาวิธีการรับมือกับสถานการณ์น้ำในช่วงนี้ก่อน โดยทันที อะไรที่ทำแล้วจะช่วยได้บ้าง ก็ขอให้ทำไปก่อน ซึ่งผมขอแจ้งให้ทราบว่า จากข้อมูลและข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์จากสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ขณะนี้ตัวแทนชาวนาและเกษตรกรกำลังจัดทำแผนปฏิบัติที่ตรงจุด ซึ่งจะนำเสนอให้ผมพิจารณาเร็วๆ นี้ และผมจะมารายงานให้ทุกท่านทราบในโอกาสต่อไป
ประการที่ 7 จากที่ผมได้ไปพบและหารือกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลและข้อเสนอแนะที่สำคัญให้ผมทราบ เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาในระยะยาวของภาคการประมง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อกฏหมายที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของการประกอบอาชีพ ซึ่งผมเห็นด้วยในหลายเรื่อง แต่ด้วยมีความซับซ้อนอยู่หลายประเด็น ผมจึงสั่งการให้ตั้งทีมทำงานขึ้นมา เพื่อช่วยกันคิดวิธีแก้ปัญหา แล้วรายงานให้ผมทราบโดยตรง สิ่งสำคัญที่สุด คือ ผมจะเชิญตัวแทนจากสมาคมประมง ทั้งประมงพาณิชย์ และ ประมงพื้นบ้าน เข้ามานั่งเป็นทีมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐด้วย เพื่อให้เราได้ยินเสียงจากคนที่ทำมาหากินอยู่ในอาชีพจริงๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทำให้เราหาวิธีแก้ไขปัญหา ได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด และรวดเร็ว
นี่เป็นส่วนหนึ่ง บางเรื่องที่ผมได้สั่งการไปแล้ว และเริ่มเกิดการปฏิบัติแล้ว ในระดับนโยบายและสั่งการ แก้ไขปัญหา หาวิธีการที่เหมาะสมโดยยึดกฎหมายเป็นหลัก ทั้ง กฎหมายสากล และ กฎหมายในประเทศ
สุดท้ายนี้ ผมอยากพูดอีกเรื่องหนึ่งว่าการเดินทางไปพบปะสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้ผมได้พบกับบุคคลที่น่าประทับใจหลายท่าน ซึ่งผมขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมากที่เป็นส่วนสำคัญของทีมประเทศไทยของเรา สิ่งที่ผมอยากจะขอบคุณเป็นพิเศษก็คือการที่ท่านทั้งหลายไม่เพียงมีความห่วงใยในภาคธุรกิจของตัวเอง แต่ทุกท่านยังมีความห่วงใยต่อประเทศด้วย นี่คือหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของคนไทย และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยของเราให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเข้มแข็งต่อไป
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
! ตุ่ม ปราโมทย์ ลุงตู่ทำดี อยู่ไปนานๆเลย
26 พ.ค. 2563 เวลา 16.21 น.
จะทำอะไรก็รีบทำซะ..ใกล้ล้ะ...
26 พ.ค. 2563 เวลา 14.51 น.
WeeJa ไอ้สัส...ไอ้ทหารกองทัพไทยหน้าตัวเมีย
ไอ้ทหารไทยหน้าด้าน
26 พ.ค. 2563 เวลา 14.22 น.
pop เราชาวคนเสื้อแดงขอยอมแพ้ และขอโทษคนเสื้อเหลืองทุกคนที่ทําไม่ดีต่อประเทศชาติ
26 พ.ค. 2563 เวลา 14.22 น.
🍃 ถุยน้ำลาย ไอ้บ้าอำนาจ อยู่กับอีเอ๋โรคจิตได้
26 พ.ค. 2563 เวลา 13.57 น.
ดูทั้งหมด