หลายคนอาจเคยเห็นตอม่อร้างๆ ริมถนนวิภาวดี-รังสิต แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ ‘โครงการโฮปเวลล์’ ที่ตอนหลังถูกล้อเลียนว่าเป็น hope fails หรือ hopeless แต่นึกไม่ออกหน้าตาของมันเป็นอย่างไร
และเชื่อว่า หลายคนก็น่าจะเคยได้ยินการเชื่อมโยงโครงการนี้เข้ากับนักการเมืองชื่อดังจำนวนหนึ่ง ทั้งมนตรี พงษ์พานิช, สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ไปจนถึงสุเทพ เทือกสุบรรณ
The MATTER จะขอพาทุกคนนั่งไทม์แมชชีนกลับไปดูกันว่า ตอม่อร้างๆ ที่เห็น เคยเป็นความหวังอันสุกสกาวของคนกรุงเทพฯ ในยุคหนึ่งได้อย่างไร ก่อนที่ฝันนั้นจะสิ้นสุดลงในเวลาไม่นาน พร้อมกับคำเรียกขานตามหน้าสื่อ เรื่อง ‘ค่าโง่หมื่นล้าน' ในเวลาต่อมา
ภาพร่างโครงการโฮปเวลล์ (ที่มาภาพ: เว็บไซต์สนุก)
โครงการโฮปเวลล์ ความจริงแล้วเป็นภาษาปาก ที่เรียกกันจากชื่อบริษัท Hopewell ที่ได้รับงานนี้ แต่ชื่อโครงการจริงๆ ก็คือ ‘โครงการระบบการขนส่งทางรถไฟและถนนยกระดับในเขตกรุงเทพมหานคร’ ลักษณะของโครงการก็คือ การสร้างทางยกระดับ 3 ชั้นคร่อมไปบนทางรถไฟ ชั้นบนสุดเป็นทางด่วน ชั้นกลางเป็นทางรถไฟชุมชน และชั้นล่างเป็นทางรถไฟเดิมของ รฟท. เพื่อลดจุดตัดระหว่างถนนกับทางรถไฟ แก้ปัญหาจราจรติดขัด มีระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้งบในการก่อสร้างราว 8 หมื่นล้านบาท
แบ่งเป็น
ช่วงที่ 1 ยมราช-ดอนเมือง ระยะทาง 18.8 กิโลเมตร (กำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2538) ช่วงที่ 2 ยมราช-หัวลำโพง-หัวหมาก และ มักกะสัน-แม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทาง 18.5 กิโลเมตร (กำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2539) ช่วงที่ 3 ดอนเมือง-รังสิต ระยะทาง 7 กิโลเมตร (กำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2540) ช่วงที่ 4 หัวลำโพง-วงเวียนใหญ่ และ ยมราช-บางกอกน้อย ระยะทาง 6.7 กิโลเมตร (กำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2541) ช่วงที่ 5 วงเวียนใหญ่-โพธินิมิตร และ ตลิ่งชัน-บางกอกน้อย ระยะทาง 9.1 กิโลเมตร (กำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2542) ข้อดีของโครงการนี้ก็คือ บริษัท โฮปเวลล์ ประเทศไทย จำกัด ของกอร์ดอน วู นักธุรกิจชาวฮ่องกง จะเป็นผู้ออกแบบและจ่ายเงินลงทุนเองทั้งหมด กำหนดเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 8 ปี นับจากเริ่มต้นสัญญาสัมปทานปลายปี 2534 (อายุสัมปทานทั้งหมด 30 ปี) นอกจากนี้ ยังมีสัญญาว่าจะจ่ายค่าตอบแทนให้ทางการไทยเป็นเงินรวมกว่า 5.38 หมื่นล้านบาท แลกกับการที่บริษัทโฮปเวลล์ฯ จะได้รายได้จากค่าโดยสารรถไฟชุมชนและค่าทางด่วน, หาประโยชน์จากที่ดิน รฟท. กว่า 2 พันไร่, ได้รับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI และได้รับการยกเว้นภาษี สำหรับดอกเบี้ยและเงินกู้ระยะยาว ฯลฯ
ฟังดูดีใช่ไหม? เอกชนลงทุนและได้ผลประโยชน์ตอบแทนแบบสมน้ำสมเนื้อ ภาครัฐก็ได้เงินหลายหมื่นล้านบาท แถมยังได้แก้ไขปัญหาจราจร
แต่ภาพฝันในเวลานั้นก็กลายเป็นแค่ฟองสบู่ที่แตกไปในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อทางการไทยเวนคืนที่ดินก่อสร้างส่งมอบให้ล่าช้า ขณะที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวจนบริษัทโฮปเวลล์ฯ เริ่มประสบปัญหาสภาพคล่อง จนโครงการเดินหน้าแบบติดๆ ขัดๆ ล่าช้ากว่าที่ควรเป็นอย่างมาก
ก่อนจะพบจุดอ่อนสำคัญภายหลัง ว่ามีการร่างสัญญาสัมปทานให้ภาครัฐเสียเปรียบ คือ ภาครัฐบอกเลิกสัญญาไม่ได้..แต่เอกชนทำได้ จนกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้ต้องเสีย ‘ค่าโง่’ ให้บริษัทโฮปเวลล์ฯ ในเวลาต่อมาถึงกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท !
จนถึงตอนที่ถูกยกเลิกสัญญา โครงการโฮปเวลล์ก็สร้างไปได้เพียง 13.7% เท่านั้น (ที่มาภาพ: ไทยรัฐ)
อย่างที่ไล่มาข้างต้น คือการก่อสร้างโครงการโฮปเวลล์ ทั้ง 5 ช่วง ควรจะแล้วเสร็จภายในปี 2542 แต่จนใกล้ถึงเด๊ดไลน์ก็ปรากฎว่า การก่อสร้างมีความคืบหน้าเพียง 13.7% เท่านั้น เป็นเหตุให้รัฐบาลไทยในขณะนั้น ต้องยกเลิกสัญญาสัมปทานในที่สุด
ซึ่งวันที่ยกเลิกสัญญาสัมปทาน คือวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2541
สำหรับรายชื่อนักการเมือง 3 คนที่มักถูกเอ่ยถึงเมื่อกล่าวถึงโครงการโฮปเวลล์
ในปี 2555 ซากโครงการโฮปเวลล์บริเวณหน้าวัดเสมียนนารีก็พังลงมา (ที่มาภาพ: ไทยรัฐ)
หลังรัฐบาลบอกเลิกสัญญาสัมปทาน บริษัทโฮปเวลล์ก็ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกระทรวงคมนาคมและ รฟท. ต่อคณะอนุญาโตตุลาการ ที่ชี้ขาดในปี 2551 ให้ทางการไทยต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยปีละ 7.5% (รวมเป็นเงินกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท) จากการบอกเลิกสัญญาไม่เป็นธรรม
กลายเป็น ‘ค่าโง่โฮปเวลล์’ บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์แทบจะทุกฉบับ !
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐไทยก็ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ที่มีคำตัดสินออกมาในปี 2557 ให้ยกเลิกคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าว ด้วยเหตุผลทางเทคนิคกฎหมาย เพราะบริษัทโฮปเวลล์ฯ ยื่นฟ้องต่อคณะอนุญาโตตุลาการ ช้ากว่าที่กฎหมายกำหนด คือรัฐบาลไทยบอกเลิกสัญญาสัมปทาน ช่วงต้นปี 2541 มีเวลาในการยื่นฟ้องต่อคณะอนุญาโตตุลาการตามกฎหมาย คือภายใน 5 ปี หรือต้องไม่เกินต้นปี 2546 แต่บริษัทโฮปเวลล์ฯ ยื่นฟ้องช่วงปลายปี 2547
จึงน่าสนใจว่า ศาลปกครองสูงสุดจะอ่านคำตัดสิน ‘คดีค่าโง่โฮปเวลล์’ ไปในทางใดกันแน่ แต่ที่แน่ๆ นี่คือ final judgement จริงๆ อุทธรณ์หรือฎีกาไม่ได้แล้ว
จะต้องใช้เงินภาษีนับหมื่นล้านบาทไปจ่ายค่าโง่โครงการที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือที่สุดแล้วบริษัทโฮปเวลล์ฯ จะแพ้ฟาล์ว ไม่ได้เงินไปแม้แต่บาทเดียว - อีกไม่นานจะได้รู้ผลกันแล้ว
อ้างอิงข้อมูลจาก
- ไทยรัฐ [1] [2] ย้อนทามไลน์โครงการ และภาพประกอบ
- สนุกดอทคอม ภาพประกอบ
- วิกิพีเดีย รายละเอียดทั่วไปของโครงการ
- คมชัดลึก รายละเอียดการก่อสร้าง 5 ช่วงของโครงการ
- สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สรุปมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด
ค่าโง่หรือฮั้วกันกินจนพุงปลิ้นกันแน่
21 เม.ย. 2562 เวลา 15.03 น.
kris ais โครงการที่ฉาวที่สุดในยุคน้าชาติ
21 เม.ย. 2562 เวลา 14.59 น.
tawechai.n เอาเงินใครจ่าย มันไม่โง่หรอกไอ้พวกทำโครงการ
21 เม.ย. 2562 เวลา 14.56 น.
eka ใครเป็นรัฐบาลละ เอารายชื่อมาเลย
21 เม.ย. 2562 เวลา 14.58 น.
Cdr.Kitti42 ไปเก็บกับคนที่ทำสัญญาดิคับ
21 เม.ย. 2562 เวลา 15.01 น.
ดูทั้งหมด