ไอที ธุรกิจ

อากาศร้อน อย่าโทษดวงอาทิตย์ แล้วเราจะโทษอะไรได้บ้าง ลองอ่านในบทความนี้

Thaiware
อัพเดต 22 เม.ย. 2562 เวลา 05.00 น. • เผยแพร่ 22 เม.ย. 2562 เวลา 05.00 น. • เคนชิน
หลายคนคงบ่นว่า ทำไมอากาศมันร้อนรุนแรงโหดร้ายขนาดนี้ เรามาดูสาเหตุของเรื่องนี้กัน

อัตราการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลก เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเทียบกับเมื่อ 50 ปีก่อน และการที่โลกอบอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น และนักวิทยาศาสตร์สรุปว่า เราไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวัฏจักรตามธรรมชาติเพียงอย่างเดียว เพราะมันมีผลกระทบจากก๊าซเรือนกระจก หรือ Greenhouse Gases (GHGs) ที่ถูกปล่อยออกมาโดยกิจกรรมของมนุษย์เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

โดยสภาพที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ก๊าซเรือกระจก ทั้ง คาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon dioxide), มีเทน (Methane) และ ไนตรัสออกไซด์ (Nitrous oxide) ขึ้นสู่จุดสูงสุดในช่วงระยะ 800,000 ปีที่ผ่านมา และความสามารถในการเก็บกักความร้อนของก๊าซเหล่านี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลกในหลายๆ ทาง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อากาศร้อน อย่าโทษดวงอาทิตย์ แล้วเราจะโทษอะไรได้บ้าง ลองอ่านในบทความนี้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

บทสรุปของ IPCC

เพื่อหาบทสรุปในแง่วิทยาศาสตร์ ของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก รวมถึงการหาทางออกว่าเราจะช่วยโลกได้อย่างไร ทำให้ในปี 1988 องค์การสหประชาชาติได้ตั้งกลุ่มที่มีชื่อเรียกว่า Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) โดยคณะทำงานจะมีการประชุมร่วมกันในทุกๆ 2-3 ปี เพื่อสรุปผลการค้นพบและเขียนรายงานสรุปความเคลื่อนไหวล่าสุดของ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกหรือ Climate Change ซึ่งเป็นรายงานที่แสดงให้เห็นถึงข้อตกลง และข้อสรุปที่ชุมชนนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำเห็นฟ้องต้องกัน

โดยข้อสรุปอันดับแรกของ IPCC คือ ก๊าซเรือนกระจกหลายๆ ตัวมีส่วนสำคัญทำให้เกิดปัญหาโลกร้อน และมนุษย์ปลดปล่อยก๊าซเหล่านี้ในหลายๆ รูปแบบ โดยส่วนใหญ่มาจากกระบวนการเผาไหม้เชื้อเพลิงในรถยนต์ รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้า โดยก๊าซที่มีส่วนสำคัญกับปัญหาโลกร้อนคือ คาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 โดยมีก๊าซรูปแบบอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบคือ ก๊าซมีเทน ที่มาจากพื้นที่ฝังกลบขยะ จากก๊าซธรรมชาติ และจากอุตสาหกรรมปิโตรเลียม รวมถึงการทำเกษตรกรรม (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก๊าซที่เกิดขึ้นในระบบย่อยอาหารของปศุสัตว์) ไนตรัสออกไซด์ จากปุ๋ย และก๊าซที่ใช้ในระบบทำความเย็น และกระบวนการทางอุตสาหกรรม รวมถึงการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ที่ทำหน้าที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้สถานการณ์โลกร้อนยิ่งเลวร้าย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คุณสมบัติของก๊าซต่างๆ

ก๊าซเรือนกระจกแต่ละชนิด ก็มีความสามารถในการเก็บกักความร้อนที่แตกต่างกันไป ก๊าซบางชนิดนั้นเก็บความร้อนได้มากกว่า คาร์บอนไดออกไซด์ ตัวอย่างเช่น โมเลกุลของก๊าซมีเธนนั้นไม่สามารถคงอยู่ในชั้นบรรยากาศได้ยาวนานเท่าโมเลกุลของคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ก๊าซมีเธนนั้นก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และก๊าซไนตรัสออกไซด์ นั้นก็มีความสามารถในการเก็บกักความร้อนได้ดีกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ ถึง 264 เท่า

ในส่วนของก๊าซอื่นๆ อย่าง คลอโรฟลูออโรคาร์บอน หรือ CFCs ที่ถูกห้ามการใช้งานในหลายภูมิภาคของโลก เพราะว่ามันทำลายชั้นโอโซนของโลก และมันมีความสามารถในการเก็บกักความร้อนได้สูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ ถึง 1,000 เท่า แต่ด้วยความที่อัตราการปลดปล่อยของ CFCs นั้นต่ำกว่าคาร์บอนไดออกไซด์มากๆ ทำให้มันไม่ค่อยส่งผลกระทบกับปัญหาโลกร้อนสักเท่าไหร่

และเมื่อก๊าซที่พวกเราปลดปล่อยขึ้นไปนั้นได้ทำหน้าที่เก็บกักความร้อนในชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดสภาวะ เรือนกระจก หรือ Greenhouse effect โดยก๊าซเหล่านี้ยอมให้แสงอาทิตย์ส่องผ่านลงมายังพื้นโลก แต่มันเก็บกักความร้อนที่แผ่ออกมาจากผิวโลก ไม่ถูกปลดปล่อยออกไปในอวกาศ เหมือนเช่นผนังกระจกใสในโรงเรือนที่ใช้ปลูกพืช และยิ่งมีก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศมากเท่าไหร่ ผลกระทบก็ยิ่งรุนแรง และแน่นอนว่าโลกยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ

อากาศร้อน อย่าโทษดวงอาทิตย์ แล้วเราจะโทษอะไรได้บ้าง ลองอ่านในบทความนี้

การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง

แม้จะมีความพยายามในระดับโลกเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญคือ ความตกลงปารีส (Paris climate agreement) ที่เกิดขึ้นในปี 2015 ที่เป็นความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อกำหนดมาตรการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ แต่อย่างไรก็ดี การปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการปลดปล่อยสูงสุดในปี 2018

ผู้คนโดยส่วนใหญ่คิดว่า ภาวะโลกร้อน (Global warming) และ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก (Climate change) นั้นเป็นสิ่งเดียวกัน แต่นักวิทยาศาสตร์นิยมเลือกใช้คำว่า Climate change เมื่ออธิบายการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนในขณะนี้ ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศ และระบบภูมิอากาศของโลก และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกนั้น ไม่ได้ส่งผลเพียงแค่ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับสภาพอากาศที่มีความสำคัญ ทำให้เกิดการลดลงของจำนวนประชากรสัตว์ป่า และการเปลี่ยนแปลงสภาพถิ่นที่อยู่ของพวกมัน ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และทำให้เกิดผลกระทบต่างๆ อีกมากมาย

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 7
  • Nickiiiii
    โทษที่เกิดมาบนโลกใบนี้ไงสัด
    22 เม.ย. 2562 เวลา 12.38 น.
  • GreenPower Thailand
    ทุกคนสร้างเหตุ ทุกคนก็รับผลของการสร้าง กระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ย่อมมีผลไปกระทบกับสิ่งอื่นๆ
    22 เม.ย. 2562 เวลา 11.19 น.
  • ร้อนเพราะเราทุกคน
    22 เม.ย. 2562 เวลา 09.00 น.
  • มนุษย์คือผู้ที่เปลี่ยนแปลงขึ้นมาทั้งนั้น.
    22 เม.ย. 2562 เวลา 08.59 น.
  • VEnChris✨
    สมน้ำหน้าตัวเองมั้ยละ เรา😢😢
    22 เม.ย. 2562 เวลา 08.40 น.
ดูทั้งหมด