ในช่วงเวลาเร่งรีบออกไปทำงานหรือเรียนในทุก ๆ วันของคนกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร แน่นอนว่าเรา ๆ ท่าน ๆ ต้องพบเจอกับสภาพรถไฟฟ้าปลากระป๋อง เบียดเสียดอัดแน่นไปด้วยผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายครั้ง "เพื่อนร่วมทาง" บางประเภทก็ทำให้รู้สึกเซ็ง เอือมระอา จนอยากจะพูดเตือนต่อหน้า แต่สุดท้ายก็ได้แต่เก็บความคิดนั้นไว้ในใจเพราะไม่อยากมีเรื่องมีราว
เอาเป็นว่าอย่าทำแบบนี้ไม่ว่ากับใครเข้าใจไหม ถือว่าขอเถอะนะคะ
1. ยืนขวางหน้าประตูทางเข้า-ออกเป็นผีเจ้าที่
หลายครั้งเลยที่ "จะเดินออกก็ออกไม่ได้" เพียงเพราะติดคุณผีเจ้าที่หน้าประตูภายในโบกี้โดยสาร ทราบค่ะว่ายังไม่ถึงสถานีที่คุณพี่ต้องการจะลง แต่ขอความกรุณาช่วยก้าวเท้าออกไปยืนรอนอกประตูสักประเดี๋ยวเพื่อเปิดทางให้คนข้างในได้ทยอยออกมาก่อน จากนั้นแล้วคุณพี่ค่อยเดินกลับเข้าไปในขบวนรถอีกครั้ง มันก็ไม่ได้ทำให้คุณพี่เสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขตรถไฟฟ้าแต่อย่างใดนะคะ
เห็นใจคนที่ต่อแถวยืนรออยู่ตรงชานชาลาด้วยค่ะ ขอบพระคุณ…
2. สะพายเป้ด้านหลัง
ถึงจะมีประกาศแจ้ง “ขอความกรุณาไม่สะพายเป้ด้านหลังขณะมีผู้โดยสารหนาแน่น” อยู่เป็นระยะ ๆ กระนั้นก็ยังมีบางคนหาได้แคร์ไม่ ยืนยุกยิกหันซ้ายทีขวาทีจนเป้ด้านหลังไปกระแทกตัวหรือทิ่มหน้าผู้โดยสารคนนั้นทีคนนี้ที ทำไมนะ? ทำไมเขาถึงไม่ยอมย้ายเป้มาสะพายไว้ด้านหน้า แนบไว้กับลำตัว เพื่อที่จะได้ควบคุมระยะห่างของเป้ได้ง่าย หรือจะถือไว้ในมือ เพื่อไม่ให้เป้เขาปะทะกับคนอื่น พอออกจากขบวนรถแล้วค่อยสะพายหลังตามปกติ
3. คุยโทรศัพท์เสียงดัง
ไม่ได้หวังสูงถึงขนาดจะให้เงียบกริบจนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจพัดหวีดหวิวผ่านขนจมูกแบบรถไฟที่ญี่ปุ่นหรอกนะคะ เข้าใจว่าบางคนมีธุระปะปังที่ต้องเร่งสะสาง แต่บางคนคือคุยแบบเสียงดังม้ากกกก ดังจนนึกว่ามัคนายกวัดดังมาเอง
4. ใส่หูฟังชนิดตัดขาดโลกภายนอก
ใส่หูฟังเปิดเพลงเสียงดังเผื่อแผ่คนทั้งขบวนว่าหนักแล้ว เจอบางคนใส่หูฟังแบบอินเอียร์ (In-ear) รุ่นตัดขาดจากทุกสรรพสิ่ง ละทิ้งโลกตรงหน้าทั้งใบ เพื่อนร่วมทางพูดขอทางออกให้ช่วยหลบหน่อยก็ไม่ได้ยิน ยืนนิ่งไม่ไหวติงเป็นก้อนหินละเมอ ถึงจิตจะหลุดไปอยู่ในโลกอีกใบแต่อย่าลืมว่ากายหยาบของเรายังอยู่ในพื้นที่สาธารณะนะคะ
5. เล่นมือถือ ตอบแช็ทขณะลงบันไดในสถานี
ถ้าไม่สนใจเรื่องเกะกะขวางทางคนอื่น อย่างน้อย ๆ ก็คำนึงถึงความปลอดภัยในสวัสดิภาพร่างกายของตัวเองบ้างก็ดีนะคะ เพราะบันไดสถานีรถไฟฟ้าเนี่ยมันทั้งสูง ทั้งหลายขั้นระดับน้อง ๆ บันไดทางขึ้นดอยสุเทพขนาดนั้น กลิ้งโคโล่ตกลงมาทีมีหวังได้แอดมิทโรงพยาบาลกันยาวล่ะค่ะ
6. ล้วงหาบัตรรถไฟฟ้าอยู่นั่นเวลาจะออกจากสถานี
รู้อยู่แล้วว่าจะออกก็เตรียมบัตรรถไฟฟ้าไว้ในมือให้พร้อมเลยสิจ๊ะ จะมายืนล้วง ๆ ควัก ๆ หงึก ๆ หงัก ๆ สาละวนหาบัตรฯ ให้เสียเวลาเพื่อนร่วมทางที่ยืนต่อแถวยาวทำไมกัน หรือบางครั้งหากลืมเตรียมตัวล่วงหน้าด้วยเหตุสุดวิสัย ยืนล้วงหาพักนึงแล้วยังไม่เจอ ก็คงต้องยอมสละตัวออกจากแถวเพื่อไปจัดการหาบัตรฯ ให้เจอเสียก่อน หากพบบัตรฯ แล้วจึงค่อยเดินไปต่อท้ายแถวตามมารยาท
Sky2365 อีกข้อ นั่งที่คนแก่ พิการ ท้อง เด็ก นั่งปุ๊บหลับปั้บ แต่ถึงสถานที่ลงตื่นปั้บเลย อัจรรย์ มาก
23 ก.พ. 2563 เวลา 22.59 น.
@ir_Chatmanee คนผมยาวเวลาจะหันซ้ายขวาช่วยระวังปลายผมไปโดนหน้าคนอื่นด้วยค่ะ เคยโดนผมฝาดมันเจ็บนะ
23 ก.พ. 2563 เวลา 22.58 น.
Nett W นึ่คือสถานะการณ์จริง ภาวนาขอให้คนที่ทำสิ่งเหล่านนั่นอ่านข่าวนี้ แล้วปรับเปลี่ยน มีอีกเรืองคือ มีโทรศัพท์เข้า หรือนึกได้กระทันหันว่าต้องโทรศัพท์ด่วนหาใครแล้วยืนโทรกลางทางตรงนั้นเลย กลางบันได กลางทางเข้า/ออก เครื่องตรวจบัตร โลกใบนี้มีแต่ฉันกับคนในโทรศัพท์
23 ก.พ. 2563 เวลา 22.31 น.
aoyy17 จริงแทบทุกข้อ 555
23 ก.พ. 2563 เวลา 22.54 น.
ตาริน ในทุกข้อ มีข้อสะพายเป้ นั่นแหละจริง..นอกนั้นก็คิดเอาเอง...เพราะเราขึ้นสะพานตากสิน-สะพานควายประจำๆ
...แต่ว่า..เรื่องเดินทางไวใน กทม..มันไวที่สุดแล้ว
...แต่คนแน่นชนิดฟิชเจอรริ่งกันได้ อันนี้จริง
แน่นแบบตัวชายหญิงแนบกันสนิท.
...วันๆเดินทาง..ก็ต้องพยายามไม่มองใคร..ไม่คิดอะไรๆ..ยืนบนรถและรีบลงหาย..ลืมๆทุกๆที่เจอในรถ..และค่อยกับมาเบียดกันใหม่
..คิดว่ารถไฟฟ้าคือสถานที่ ที่คู่รักจะกอดกันแนบแน่นโดยไม่ต้องกลัวใครมองได้ดีที่สุด..เหมาะกับคู่รัก..ที่ต้องแอบซ่อนความรู้สึก..เชิญมาสารภาพรักในนี้.กอดได้สบายใจ
23 ก.พ. 2563 เวลา 22.31 น.
ดูทั้งหมด