6 โทษทางกฎหมาย “ทิ้งขยะไม่ถูกที่” สูงสุดโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

            ปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยส่วนใหญ่เกิดจากการทิ้งขยะไม่เป็นที่ หรือการกำจัดขยะที่ไม่ถูกวิธี ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิต แน่นอนว่ามนุษย์อย่างเราๆ นี่แหละที่เป็นคนลงมือทำ เพราะอาจจะคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นแค่ขยะ ไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญอะไร แต่ในความเป็นจริงนั้นรู้หรือไม่ว่าทุกครั้งที่เราทิ้งขยะไม่ถูกที่ล้วนมีความผิด ถูกจับ ถูกปรับได้!!ด้วยความห่วงใยจากกองปราบปรามจึงได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องของขยะในประเทศไทย รวมถึง 6 โทษทางกฎหมายกรณีที่เราทิ้งขยะไม่ถูกที่ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

            เรื่องของขยะในประเทศไทย
            รายงานจากกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ประเทศไทยสร้างขยะต่อปีมากถึง 14 ล้านตัน และด้วยความสามารถในการจัดเก็บขยะไม่ถึงร้อยละ 70 ของขยะที่เกิดขึ้น จึงทำให้มีขยะมูลฝอยตกค้างตามสถานที่ต่างๆ เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ - พืช ส่งผลเสียต่อระบบนิเวศ เมื่อเรากินสัตว์น้ำหรือพืชผักที่มีสารพิษตกค้างเข้าไปในร่างกาย สารพิษจะถูกสะสมจนเกิดโรคภัยต่างๆ ตามมาภายหลังได้ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศ รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศอีกด้วย

            “ทิ้งขยะไม่ถูกที่” ระวังถูกจับ ถูกปรับ!!
            สำหรับประเทศไทยเราได้ให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่น้อย ซึ่งในเรื่องเกี่ยวกับการทิ้งขยะก็ได้ออกกฎหมายไว้ด้วยเช่นกัน โดยมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

            1. การทิ้งขยะในที่สาธารณะ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท (พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 31(2) และ 54)

           2. การทิ้งขยะ หิน กรวด ดิน เลน ทราย ลงในบริเวณที่ได้ปลูกหญ้าหรือต้นไม้ซึ่งราชการส่วนท้องถิ่นราชการส่วนอื่นหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท (พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 26 และ 54)

            3. การทิ้งขยะในน้ำที่เป็นบ่อ สระ หรือที่ขังน้ำ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ป.อาญา มาตรา 380)

           4. การทิ้งซากสัตว์ซึ่งอาจเน่าเหม็น ในหรือริมทางสาธารณะ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท (ป.อาญา มาตรา 396)

           5. การทิ้งขยะที่ส่งกลิ่นเหม็นหรือละอองสารเป็นพิษ หรือน่าจะเป็นที่เพาะพันธุ์พาหะนำโรค หรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ม. 25(1))

           6. ให้เกิดกลิ่น แสง รังสี เสียง ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า หรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ม. 25(4))

            การรักษาสิ่งแวดล้อมนั้นแน่นอนว่าเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งได้ เพียงช่วยกันทิ้งขยะให้เป็นที่และแยกขยะก่อนทิ้งเสมอ เชื่อเลยว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้

ข้อมูล : กองปราบปราม