วันนี้ (25 มี.ค.) พรรคอนาคตใหม่ นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยสมาชิกพรรคคนอื่นๆ ได้ออกแถลงการณ์หลังทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ 95% ที่ประกาศโดย กกต. เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ที่ผ่านมา (อนาคตใหม่ได้ ส.ส. เขตอย่างไม่เป็นทางการ 30 ที่นั่ง)
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่พรรคอนาคตใหม่จะไม่เสนอชื่อ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะต้องการยืนยันในวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ถูกต้อง และจะไม่นำเรื่องนี้ไปเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เด็ดขาด โดยย้ำว่าพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนอันดับที่หนึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องได้รับสิทธิจัดตั้งรัฐบาลก่อน ซึ่ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แม้จะไม่ได้ที่นั่ง ส.ส. บัญชีรายชื่อ แต่ก็มีความชอบธรรมจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้
“คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยได้แสดงตัวชัดเจนว่าเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้ง เป็นผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 2 ของพรรคเพื่อไทย แม้กฎกติกาการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้ตำแหน่ง ส.ส. แต่ก็ได้แสดงความตั้งใจที่ชัดเจนที่จะลงมาอยู่ในกฎกติกา”
พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้อง กกต. เปิดเผยข้อมูลการเลือกตั้งโดยละเอียดทุกหน่วยเลือกตั้งสู่สาธารณชนเพื่อพิสูจน์ความโปร่งใสในการทำหน้าที่ และยังได้เปิดเผยจุดยืนในอุดมการณ์ประชาธิปไตย 4 ข้อ ประกอบด้วย
1. หลักการการจัดตั้งรัฐบาล – จะไม่เสนอชื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะต้องการยืนยันวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ประกอบกับสังคมไทยก็ต้องยึดหลักการที่ถูกต้อง ทั้งนี้อนาคตใหม่เชื่อว่าพรรคอันดับหนึ่งต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรีต้องมาจากพรรคที่ได้จำนวน ส.ส. มากที่สุดเป็นลำดับหนึ่ง
2. กลไกปิดสวิตช์ ส.ว. – ข้อเสนอการปิดสวิตช์ ส.ว. ยังเป็นไปได้ โดย พรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจและนำเสนอ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี มีทั้งหมด 3 พรรค ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ, พรรครวมพลังประชาชาติไทย และพรรคประชาชนปฏิรูป ซึ่งปัจจุบันเมื่อรวมคะแนนที่นั่งในสภาของทั้ง 3 พรรคนี้ออกมาจะได้ประมาณ 122 ที่นั่ง (อย่างไม่เป็นทางการ)
โดยเงื่อนไขของการปิดสวิตช์ ส.ว. อยู่ที่การมี ส.ส. ของพรรคที่สนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา น้อยกว่า 124 ที่นั่ง ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนพรรคการเมืองและนักการเมืองทุกคนที่ยืนยันในหลักการประชาธิปไตยและเชื่อว่า ส.ส. คือตัวแทนของประชาชน ต้องฟังเสียงประชาชน มาร่วมกันรับรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคที่รวมเสียงข้างมากได้ พร้อมวิงวอนภาคประชาสังคม สื่อมวลชน และประชาชนโดยทั่วไปมาร่วมกันเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรคปิดสวิตช์ ส.ว. ที่สภาล่าง ซึ่งยังมีความเป็นไปได้ ณ วันนี้ เพราะนี้คือวิธีที่สันติที่สุดที่จะทำให้การเมืองหลังการเลือกตั้งไม่วุ่นวาย เพราะหากเปิดสวิตช์ ส.ว. แล้วปล่อยให้เข้ามามีบทบาทในการเลือกนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยอาจเดินทางไปสู่ความขัดแย้งและความวุ่นวายได้
3. เงื่อนไข MOU จัดตั้งรัฐบาล – เรื่องที่พรรคเน้นย้ำตลอดมาคือ ‘การร่วมรัฐบาลจะต้องมีข้อตกลงร่วมกัน’ ซึ่งแต่ละพรรคจะต้องเสนอเงื่อนไขขึ้นมา การร่วมรัฐบาลไม่ควรเกิดจากการแลกหรือต่อรองผลประโยชน์เพื่อตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ๆ เท่านั้น แต่จะต้องมีหลักการพื้นฐานว่า ‘ร่วมรัฐบาลเพราะอยากทำเรื่องอะไร’
เงื่อนไขของพรรคอนาคตใหม่ในการร่วมรัฐบาลประกอบด้วย 3 ข้อ คือ 1. แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อเปิดทางยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน, 2. จัดการมรดกบาปของ คสช. ไม่ว่าจะเป็นประกาศคำสั่ง, แผนปฏิรูปหรือยุทธศาสตร์ต่างๆ โดยปลดมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่ให้ความคุ้มกันบรรดาประกาศและการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย 3. ปฏิรูปกองทัพให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย ถ้ากองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน การรัฐประหารจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย
4. ข้อเรียกร้องของพรรคอนาคตใหม่ต่อ กกต. –พรรคไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (การเรียกร้อง กกต. เรื่องความไม่โปร่งใสในการนับคะแนน) ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะทั้งหมด ทั้งผู้มีสิทธิเลือกตั้ง, ผู้ไปใช้สิทธิ, คะแนนโหวตของผู้สมัครที่ได้, จำนวนบัตรที่พิมพ์และนำไปใช้ลงคะแนน โดยข้อมูลทั้งหมดจะต้องถูกเปิดเผยแบบเรียงหน่วยเลือกตั้งแบบละเอียด เพื่อแสดงความโปร่งใสในการทำงานของ กกต.
เพราะจากการสำรวจเบื้องต้นในกรุงเทพฯ มีถึง 11 เขต และในต่างจังหวัดอีกกว่า 10 เขต ที่พรรคผู้ชนะชนะพรรคอนาคตใหม่เพียงหลักร้อยถึงหลักพัน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงห่างที่ไม่มาก และก่อให้เกิดข้อสงสัยว่าการนับคะแนนมีความบกพร่องหรือไม่
โดยในวันอังคารที่ 26 มีนาคม พรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายทะเบียนพรรค, หัวหน้าพรรค, ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ จะเดินทางไปที่ กกต. เพื่อยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน เพื่อให้ กกต. เปิดเผยข้อมูลเหล่านี้
“ขอบคุณประชาชนทุกคนที่สนับสนุนพวกเราในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา วันนี้พรรคอนาคตใหม่ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเรากลายเป็นกำลังที่สำคัญของการเมืองไทย ในระยะเวลา 1 ปีของการตั้งพรรคการเมืองที่ผ่านมา เราต้องขอขอบคุณทุกเสียงจากใจจริง
“อย่างน้อยที่สุดวันนี้พรรคอนาคตใหม่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเราเป็นพรรคระดับประเทศที่ก้าวผ่านการเป็นพรรคภูมิภาคไปแล้ว การเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นเพียงก้าวแรกในการเดินทางของพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น หลังจากนี้เราจะเดินทางต่อเพื่อมุ่งมั่นสร้างพรรคการเมืองที่แข็งแกร่ง ยืนหยัดในอุดมการณ์ประชาธิปไตย” ธนาธรกล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
เพ็ญ Kannatta เมื่อไหร่พูดจริงบอกด้วยนะธนาธร โกหกไปวันๆ คนโง่เท่านั้นที่เชื่อ
25 มี.ค. 2562 เวลา 13.41 น.
Cafe' ..ตกลง พวกคุณมรึง
อยากเปนหรือเกี่ยงกัน
.."Ai E ha nee"..
25 มี.ค. 2562 เวลา 13.25 น.
chinda ยังไม่ได้รับรองเลย เดินสายกร่างแล้ว ทำแบบนี้ข่มขู่ ไม๊ถือว่าเป็นว่าที่ สส.เหรอ... อาสาเข้ามาเป็นตัวแทนปชช. ถามตัวเองดูว่ามีความจริงใจแค่ไหน รักประเทศนี้มากพอที่จะเสียสละทุ่มเท ทำงานแค่ไหน รักชาติ ศาสกษัติย์ สถาบันหลักรึ ..บอกตรงๆกลัวใจพวกคุณ
25 มี.ค. 2562 เวลา 13.21 น.
Cafe' ..พปชร.
อันดับ 1.
25 มี.ค. 2562 เวลา 13.06 น.
ติ๊ก7895 ไปรวมมาให้ได้เกินครึ่งก่อน
25 มี.ค. 2562 เวลา 13.04 น.
ดูทั้งหมด