ประเด็นน่าสนใจ
1. ผลการผ่าพิสูจน์ซากพบเศษพลาสติกในกระเพาะอาหารมาเรียม
2. เลขานุการมูลนิธิอันดามัน เรียกร้องทุกฝ่ายให้ความสำคัญต่อปัญหาขยะพลาสติก หลังพบเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พะยูนมาเรียมตาย
สภาพชายหาดหาดยาว ตำบลตลิ่งชัน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ แหล่งหญ้าทะเลของจังหวัด ที่ฝูงพะยูนมักเข้ามาหากิน ขณะนี้พบขยะหลายประเภท ตั้งแต่พลาสติกจนไปถึงอุปกรณ์ทำประมงจำนวนมาก ลอยมาติดตามแนวชายหาดระยะทาง 3 กิโลเมตร
เครือข่ายสมาคมคนรักเลกระบี่ ที่รับทราบข่าวการตายของพะยูนมาเรียม โดยพบขยะพลาสติกในท้องตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้เมื่อพะยูนมาเรียมเห็นพวกแพลงตอน หรือตะไคร่น้ำสีเขียว ที่จับตัวอยู่กับถุงพลาสติก
จึงคิดว่าเป็นอาหารเหมือนปลาประเภทอื่น ที่เคยเห็นตอนออกทะเลเข้ามาตอดกินแล้วจังหวะหายใจจึงดูดเอาพลาสติกเหล่านี้เข้าไปด้วย พร้อมเรียกร้องให้การตายของมาเรียมเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนหันมารักทะเลให้มากขึ้นอย่าทิ้งขยะลงในทะเล
นายภาคภูมิ วิธานติรวัฒน์ เลขานุการมูลนิธิอันดามัน จังหวัดตรัง และสมัชชาองค์กรเอกชน ด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กล่าวว่า จากกรณีการตายของพะยูนมาเรียม ซึ่งผลการผ่าพิสูจน์ซากพบเศษพลาสติกในกระเพาะอาหารนั้น เป็นการสะท้อนให้เป็นว่าขณะนี้ปัญหาขยะกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกแล้ว
เนื่องจากร้อยละ 80 ของขยะในทะเล มาจากขยะบนฝั่ง โดยเฉพาะพลาสติกที่แตกสลายเป็นชิ้นเล็กๆ หรือไมโครพลาสติก ได้ปนเปื้อนเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร ไม่ว่าจะเป็นปลา กุ้ง หอย และขณะนี้ได้ย้อนกลับมาสู่คน เมื่อมีการบริโภคสัตว์ทะเลเหล่านั้น
ด้าน รองศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิง นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การตายของมาเรียมทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เห็นถึงแนวทางที่จะปฏิบัติช่วยเหลือลูกสัตว์กำพร้าว่าควรต้องทำอย่างไร ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เพราะว่าบางทีธรรมชาติ ไม่ได้สวยงาม หรือดีอย่างที่เราคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันมีพวกมลภาวะต่างๆ เกิดขึ้น หรือว่าขยะต่างๆ เกิดขึ้น
ขณะที่นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า สำหรับการสตัฟฟ์ซากมาเรียมนั้น องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ จะเป็นฝ่ายดำเนินการ เมื่อแล้วเสร็จจะนำมาจัดแสดงที่สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ตต่อไป
นอกจากกรณีของพะยูนมาเรียมแล้ว ล่าสุดยังมีการพบซากพะยูนลอยมาเกยตื้นที่บริเวณอ่าวต้นไทร ด้านทิศตะวันตกของไร่เลย์ ท้องที่หมู่ 2 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นพะยูนเพศเมีย น้ำหนัก 300 กิโลกรัมโดยประมาณ ความยาวลำตัว 260 เซนติเมตร ความกว้างรอบลำตัว 150 เซนติเมตร ความกว้างครีบหาง 80 เซนติเมตร
มีร่องรอยบาดแผลบนลำตัว มีรอยช้ำที่ใบพายด้านซ้าย เขี้ยวมีครบทั้ง 2 คู่ ลักษณะซากที่พบเป็นซากสดสภาพสมบูรณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จังหวัดภูเก็ต เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายต่อไป ทั้งนี้ตลอดระยะ 5 เดือนที่ผ่านมา พบพะยูนเกยตื้นตายในทะเลกระบี่แล้วรวม 6 ตัว
เราไม่ปล่อยลูกหลานหรือเด็กเล็กๆหากินเอง
แต่ปล่อยให้ลูกพยูนกำพร้าอายุไม่กี่เดือนหากินเอง???????
19 ส.ค. 2562 เวลา 06.11 น.
Piyarat เสียดายๆ ถ้าเลี้ยงอนุบาลในบ่อ ป่านนี้คงเป็นขวัญใจได้ต่อไป ดันปล่อยไปกินขยะในทะเล ตายเลย
19 ส.ค. 2562 เวลา 06.33 น.
Hattloveslion คุณหมอกับเจ้าหน้าที่ทำดีที่สุดแล้วค่ะ คุณหมอบอกแต่แรกแล้วว่าให้เลี้ยงน้องในบ่ออนุบาลแบบยามีล เพราะน้องเปรียบเสมือนเด็กทารก น้องยังช่วยตัวเองในธรรมชาติเพียงลำพังโดยไม่มีแม่ไม่ได้ แต่คนที่สั่งให้เลี้ยงมาเรียมในทะเลเพื่ออยากดัง อยากให้มีพะยูนดูดนมในทะเลที่แรกของโลกนี่ล่ะค่ะที่คุณจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต ใจคุณทำด้วยอะไรคะ น้องยังไม่สมควรตายค่ะ
19 ส.ค. 2562 เวลา 06.44 น.
Porn เราต้องสูญอีกกี่ตัว. และอีกกี่บทเรียน เราถึงจะตระหนักช่วยกันดูแลท้องทะเลให้ดีกว่านี้
19 ส.ค. 2562 เวลา 06.39 น.
Toffee63915 ถอดมากี่รอบ เอาให้จริงสักทีเถอะ พูดแบบนี้มาเป็นพันรอบ ก้อไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นสักอย่าง
19 ส.ค. 2562 เวลา 06.08 น.
ดูทั้งหมด