คอลัมน์ : Market-think ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์
ไม่รู้ว่ามีใครตื่น 8 โมงเช้ามาดู “ไมก์ ไทสัน” บ้างไหมครับ
หลายคนยอมตื่นเช้าวันหยุดเพื่อจะมาดูการคืนสังเวียนของ “ไทสัน” ในวัย 58 ปี
ก่อนที่จะรู้ว่า “ไทสัน” ชกจริงประมาณเที่ยง
8 โมงเช้า ที่แจ้งไว้เป็นคู่ประกอบรายการ
ประเด็นที่น่าสนใจมีอยู่ 2 เรื่อง
เรื่องแรก เป็นเรื่องในมุมของกีฬา
ความยิ่งใหญ่ในอดีตของนักกีฬายังขายได้
“ไมก์ ไทสัน” ในความทรงจำของคนที่เคยเห็นเขาชกตอนหนุ่ม ๆ
เขาคือ นักชกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคนหนึ่ง
แม้วันนี้เขาจะอายุใกล้ 60 และคู่ชกเป็นแค่ “เจค พอล” นักชกยูทูบเบอร์ซึ่งมีประวัติการชกไม่กี่ครั้ง
แต่คนก็ยังยอมตื่นเช้าเพื่อมาดูเขา
เรื่องที่สอง การถ่ายทอดสดกีฬาครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ “เน็ตฟลิกซ์” สตรีมมิ่งระดับโลกที่มีสมาชิกประมาณ 280 ล้านคน
เพราะเขาถ่ายทอดสดแบบไม่เก็บเงินเพิ่ม เหมือนเปย์ทีวีทั่วไป
แม้ไม่ใช่การถ่ายทอดกีฬาใหญ่แบบพรีเมียร์ลีก อเมริกันฟุตบอล หรือ
บาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ
แต่ชื่อเสียง “ไมก์ ไทสัน” ก็ทำให้คนเข้ามาชมเป็นจำนวนมาก
ถือเป็นการทดลองระบบของเน็ตฟลิกซ์ที่น่าสนใจมาก
เพราะเขามีศักยภาพในการถ่ายทอดสดกีฬาแมตช์สำคัญได้ตลอด
เป็นการเพิ่ม “คอนเทนต์” นอกเหนือจากความบันเทิงที่เน็ตฟลิกซ์ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว
ตอนนี้เขาซื้อลิขสิทธิ์มวยปล้ำ และทยอยเก็บกีฬาอีกหลายอย่าง
นอกจากนั้นเขายังใช้โมเดลของ “ไมก์ ไทสัน-เจค พอล” กับกีฬาประเภทอื่นได้
นึกเล่น ๆ แค่จัดแมตช์ฟุตบอลคู่พิเศษ หรือดึง 4 ทีมชั้นนำของโลกมาแข่งกันเองช่วงปิดฤดูกาล
แค่นั้นก็เรียกคนดูได้ทั่วโลกแล้ว
ลองคิดในมุมธุรกิจว่าเขามีสมาชิก 280 ล้านคน
แค่ 1 บาทก็ 280 ล้านบาท
ถ้าเดือนละ 1 บาท 12 เดือนก็ 12 บาท
สมาชิก 280 ล้านคนก็ได้เงินถึง 3,360 ล้านบาท
จัดกีฬาแมตช์สั้น ๆ ได้สบายมาก
หรือถ้าซื้อการแข่งขันกีฬาที่มีผู้ติดตามทั่วโลก เขาก็มีกำลังเงินที่ทำได้
เพราะแค่เพิ่มราคาแพ็กเกจขึ้นมาอีกหน่อย
คอกีฬาก็ดูแล้วครับ
เหมือนกับผมที่ยอมจ่ายค่าสมาชิก “ทรูวิชั่นส์” ก็เพื่อดูบอลพรีเมียร์ลีกเป็นหลักเลยครับ
ปีหน้าคงต้องเปลี่ยนไปจ่าย “โมโนแม็กซ์” แทน
ครับ ตอนนี้ “เน็ตฟลิกซ์” กำลังเป็น “ผู้เล่น” คนสำคัญที่ทำให้ภูมิทัศน์ของธุรกิจที่เกี่ยวกับ “คอนเทนต์” เปลี่ยนไป
อย่างธุรกิจภาพยนตร์ในวันนี้ ค่ายหนัง ค่ายละครในเมืองไทยทุกค่าย เขาดีใจมากที่มี “เน็ตฟลิกซ์”
เพราะทำให้มี “ทางเลือกใหม่”
เป็นแหล่งรายได้ใหม่นอกเหนือจากการฉายในโรงและขายต่างประเทศ
ตอนนี้แค่ทำหนังแล้วรู้ว่าขาย “เน็ตฟลิกซ์” ได้
ทุกคนยิ้มเลยครับ
เพราะถ้าเป็นค่ายใหญ่ ๆ บางทีรายได้จาก “เน็ตฟลิกซ์” ก็ทำให้ลดความเสี่ยงการลงทุนลงมาก
รายได้จากสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่รายนี้เกิน 50% ของงบฯลงทุน
แบบนี้รายได้จากการฉายโรงไม่ต้องมากนักก็คุ้มแล้ว
“ความเสี่ยง” ของธุรกิจภาพยนตร์ที่เคยมีคนบอกว่า “เกลียดใครให้ชวนทำหนัง” ลดน้อยลงกว่าเดิมมาก
เห็นย่างก้าวของ “เน็ตฟลิกซ์” จากที่ทำหนังเอง มาถึงการถ่ายทอดสดกีฬาในวันนี้
ผมว่ายักษ์ใหญ่สตรีมมิ่งรายนี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงอีกมากในภูมิทัศน์สื่อ
เพราะยังมีคอนเทนต์รูปแบบอีกมากมายที่น่าสนใจ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เน็ตฟลิกซ์-กีฬา
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net