เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท หลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด (KKP Dime) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร จัดงานแถลงข่าวการเปิดให้บริการซื้อขายหุ้นไทยผ่านแอปพลิเคชัน Dime! ภายใต้ธีม ‘บุกตลาดหุ้นไทย Dime! เนินสะดวก’
ถึงจะแปลก แต่ก่อนหน้านี้แอปฯ Dime! ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก โดยนักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นสหรัฐได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นแอปเปิล เฟซบุ๊ก เทสล่า ฯลฯ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 50 บาท
‘อภินันท์ เกลียวปฏินนท์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด บอกว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรามุ่งเน้นที่จะให้บริการที่ปรึกษาการลงทุนกับกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง ที่ส่วนใหญ่เป็น Gen X และ Baby Boomers ซึ่งแม้ว่าจะมีจำนวนลูกค้าไม่มาก แต่มูลค่าเงินลงทุนสูงมาก ทำให้ยังสามารถทำธุรกิจได้แม้ว่าต้นทุนในการให้บริการ (Cost to Serve) จะค่อนข้างสูง
แต่ในขณะเดียวกันเราก็มีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะหาแนวทางที่จะขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยและกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้ง ยังไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ซึ่งทางกลุ่มธุรกิจการเงินฯ ก็ต้องตอบโจทย์เรื่อง Cost to Serve ก่อนด้วย รวมทั้งต้องออกแบบลักษณะการให้บริการและประสบการณ์ที่กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้จะได้รับ ให้สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างไป
กลุ่มธุรกิจเกียรตินาคินภัทรจึงได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ ผ่านแอปพลิเคชัน Dime! ซึ่งเป็นการให้บริการตลอดทั้งกระบวนการในรูปแบบที่เป็นดิจิตัล จึงสามารถบริหารต้นทุนการให้บริการได้อย่างเหมะสม ทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้นักลงทุนรายย่อย สามารถเข้าถึงเรื่องการเงินการลงทุนได้อย่างสะดวกง่ายดายกว่าเดิม ภายใต้แนวคิด ‘เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน’
และวันนี้เป็นอีกหมุดหมายสำคัญที่แอป Dime! ได้เพิ่มหุ้นไทยเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ทางการเงินเพื่อให้นักลงทุนได้ซื้อขายอย่างสะดวกสบายบนแอปพลิเคชันเดียวกัน นับเป็นประสบการณ์ใหม่ ที่ยังคงจุดเด่นเรื่องความใช้งานง่ายของ Dime! อยู่เช่นเดิม
‘กัมพล จันทวิบูลย์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KKP Dime เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัวแอปพลิเคชัน Dime! มาครบ 1 ปี KKP Dime ภูมิใจที่เราได้มีส่วนช่วยให้พฤติกรรมทางการเงินของคนไทยเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมเห็นได้ชัดจากจำนวนนักลงทุนไทยที่ออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้นแบบก้าวกระโดด
เช่นเดียวกัน บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงโดยธนาคารเกียรตินาคินภัทร ที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน Dime! ก็ได้รับความนิยมและมีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง
โดยเพียง 1 ปี แอปพลิเคชัน Dime! มียอดดาวน์โหลดใช้งานแล้วถึง 6 แสนครั้ง สร้างนักลงทุนหุ้นต่างประเทศหน้าใหม่เพิ่มกว่า 300% ขณะที่ยอดเงินลงทุน (AUM)ผ่านแอปพลิเคชันก็เติบโตกว่า5 พันล้านบาทแล้วในปัจจุบัน
จุดเด่นของแอปพลิเคชัน Dime! คือ ประสบการณ์ที่ออกแบบการใช้งานให้ลูกค้าทั้งรู้สึกสนุกและได้เรียนรู้เรื่องการลงทุนไปพร้อมๆ กัน ปัจจุบันแอปพลิเคชัน Dime! ประสบความสำเร็จในการครองใจนักลงทุนGen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวคิด ทัศนคติ และรูปแบบชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุดของ Dime!
โดยเมื่อรวมกับลูกค้ากลุ่ม Gen Y จะมีสัดส่วนสูงถึง 86% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด Dime! จึงพร้อมจะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองชิ้นสำคัญสำหรับผลักดันเรื่องการเงินการลงทุนให้เป็นที่เข้าถึงง่ายสำหรับคนไทย ตลอดจนนักลงทุนในยุคใหม่
สำหรับกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้แอปพลิเคชัน Dime! เจาะกลุ่มผู้ลงทุนได้อย่างรวดเร็ว คือ‘การใส่ใจรับฟังลูกค้า’ ทำให้ KKP Dime สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันได้ตรงจุดและตอบโจทย์พฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนในปัจจุบันได้
โดยจะเห็นได้ว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาแอปพลิเคชัน Dime! ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาดจากผู้ใช้งาน โดยไฮไลต์เด่นของงานในวันนี้ คือ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์หุ้นไทยที่ KKP Dime มุ่งมั่นต่อยอดการเป็นแอปพลิเคชันลงทุนยอดนิยมให้ครบเครื่องมากยิ่งขึ้น
ด้วยแนวคิดเปิดประสบการณ์ใหม่ให้นักลงทุนสามารถซื้อขายทั้งหุ้นต่างประเทศและหุ้นไทยร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ที่ออกแบบประสบการณ์การใช้งานโดยให้คำนึงถึงพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนเป็นหลัก สะท้อนออกมาเป็นความเรียบง่ายในการใช้งาน
ด้วยระบบซื้อขายที่ลื่นไหลกว่าที่เคย ตั้งแต่การค้นหาหุ้นไปจนถึงขั้นตอนส่งคำสั่งซื้อขาย พร้อมอัดแน่นด้วยคำอธิบาย ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดวิธีการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือแม้แต่คำศัพท์ทางการเงินที่ซับซ้อน ผ่านภาษาที่เข้าใจได้ง่าย พร้อมให้นักลงทุนมือใหม่และมือเก่าเติมเต็มความรู้ในทุกขั้นตอน
อีกจุดเด่นที่มีเฉพาะแอปพลิเคชัน Dime! คือ การออกแบบให้บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ภายในแอปพลิเคชัน Dime! เป็นได้ทั้งบัญชีเงินฝากและบัญชีลงทุนในบัญชีเดียว ผู้ใช้งานสามารถใช้บัญชีดังกล่าวเพื่อฝากเงินรับดอกเบี้ยสูงสุด 3% ต่อปีจากธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือจะใช้เป็นบัญชีเพื่อพักเงินไว้รอลงทุนในหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุนรวม รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ก็ได้เช่นกัน
ด้วยความสะดวกสบายนี้ จึงวางใจได้ว่าเงินลงทุนของลูกค้า Dime! จะเติบโตอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่วันแรกที่ฝากเงินเข้ามา แม้จะยังไม่ได้เริ่มลงทุนเลยก็ตาม Dime! ยังต่อยอดจุดแข็งในฐานะบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ด้วยการออกบริการจองหุ้น IPO เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเป็นเจ้าของหุ้น IPO ได้ง่ายขึ้น เชื่อว่าประสบการณ์การลงทุนหุ้นไทยของทุกคนจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
ปิดท้ายด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดตัวสดๆ ร้อน ๆ ภายในงาน คือบริการสมาชิกรายเดือน ที่จะเพิ่มความคุ้มค่าเต็มพิกัดให้กับผู้ที่ลงทุนเป็นประจำ
โดยผู้สมัครสมาชิกรายเดือนจะได้รับสิทธิพิเศษ เช่น เทรดฟรีค่าคอมมิชชัน 5 ไม้ต่อเดือน และยังเทรดได้ด้วยอัตราค่าคอมมิชชันที่ยืดหยุ่นตามมูลค่าคำสั่งซื้อขาย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนซื้อขายหุ้นได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงและคุ้มค่ายิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์ดังกล่าวจะเปิดให้ผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Dime! สมัครใช้บริการได้ภายในสิ้นปี 2566