ครูสาวเผยแล้ว! เหตุผลทำไมต้องกราบสามี ไม่เดือดร้อนใคร เหมือนพ่อคนที่ 2

ครูสาวเผยแล้ว! เหตุผลทำไมต้องกราบสามี ไม่เดือดร้อนใคร เหมือนพ่อคนที่ 2

ครูสาวเผยแล้ว! ทำไมต้องกราบสามี – 22 ก.ย.จากกรณีครูสาวโพสต์ภาพในขณะที่ตนเองกราบสามีหนุ่มลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว จนทำให้กลายเป็นกระแสโซเชียลที่กลายเป็นไวรัลที่มีชาวเน็ตแห่แชร์ออกไปกว่า 20,000 ครั้งเมื่อวานนี้

• ทำด้วยใจ และศรัทธา แชร์กระหึ่ม พิธีกราบผัว สาวจัดดอกไม้ธูปเทียนกราบทุกวัน

ล่าสุด สมาชิกเฟซบุ๊กสุดารัตน์ มงคลกุล ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ถึงกรณีดังกล่าวโดยเผยว่า ตนเป็นคนอีสานจริงๆแล้วความเชื่อในการกราบสามีถือเป็นขนบธรรมเนียมในท้องถิ่นที่สืบทอดกันมานานแล้ว แต่อาจเป็นเรื่องที่คนสมัยใหม่ไม่รู้และมองว่ามันล้าสมัย พร้อมกับตั้งคำถามมากมายว่าทำไมต้องกราบสามี กราบพ่อแม่ไม่ดีกว่าหรอ?

แต่ในครอบครัวของตนและสามีถือเป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติ เพราะตั้งแต่เด็กๆคุณตาคุณยายและพ่อแม่ก็ปลูกฝังกันมาให้มีความอ่อน้อมถ่อมตนอย่างนี้ หรือแม้ในวันแต่งงานคนเฒ่าคนแก่ก็อวยพรตามความเชื่อในถิ่นให้มีความเคารพสามีเหมือนพ่อคนที่ 2 ซึ่งคนก็มองว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพราะเราทำด้วยความเต็มใจ สามีไม่เคยเอ่ยปากพูดว่าต้องมากราบ ต้องมาไหว้ แต่เป็นเรื่องของการให้เกียรติซึ่งกันและกันมากกว่า

ครูสาวกล่าวว่า แม้คนที่เห็นต่างจะวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานาตนก็น้อมรับ เพราะคนเรามีความเห็นแตกต่างกันได้ จึงเป็นเรื่องปกติหากจะมีคนไม่ชอบในสิ่งที่เราทำ  แต่เราก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร เพราะสุดท้ายแล้วความสุขในครอบครัวสำคัญที่สุด แล้วมันเป็นเรื่องดีๆที่ทำแล้วชีวิตของเรามีความสุข รักและเข้าใจกันมากขึ้น

ก่อนแต่งงานตนเป็นคนใจร้อน แต่สามีเป็นคนธรรมะธรรมโมและใจเย็นกว่ามาก การอยู่กับเขาทำให้เราเย็นลง มีสติมากขึ้น การใช้ชีวิตของเราก็มีความสุขขึ้น การกราบเขาจึงไม่ใช่เรื่องแปลกในการแสดงออกถึงความให้เกียรติเหมือนกับเรากราบพ่อแม่ ซึ่งตนจะกราบสามีทุกวันพระและใส่บาตรสวดมนต์ด้วยกัน เหมือนเป็นการอวยพรเพื่อเป็นสิริมงคลในบ้านและปฏิบัติมาอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่หลังแต่งงาน

ส่วนประเด็นที่สวมชุดข้าราชการ ตนและสามีไม่ได้มีเจตนาที่จะใส่โชว์หรืออะไรอย่างที่ชาวเน็ตหลายคนคอมเมนต์กัน เพียงแต่วันพระที่ผ่านมาตรงกับวันจันทร์ ตนและสามีจะต้องแต่งตัวไปทำงานตามปกติอยู่แล้วไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่นที่ไม่ดี  พร้อมยืนยันอีกว่า..

“มันเป็นความสุขทางใจที่เราไม่ต้องใช้เงินทอง”