สงครามคนกินเจ “เนื้อแท้-เนื้อเทียม” เถียงกันทุกปีได้บาปหรือบุญ

สงครามคนกินเจ “เนื้อแท้-เนื้อเทียม”เถียงกันทุกปีได้บาปหรือบุญ

เทศกาลเจ ได้วนกลับมาอีกครั้งในปีนี้ โดยเริ่มตั้งแต่วั้นอังคารที่ 9 ตุลาคม – วันพุธที่ 17 ตุลาคม 2561 รวมทั้งหมด 9 วัน 9 คืน (แต่ในหลายคนที่เคร่งครัดมากจะเริ่มต้นเร็วกว่าคนทั่วไป โดยนับเป็นช่วงล้างท้อง ให้สะอาดปราศจากเนื้อสัตว์ ก่อนเข้าสู่วันกินเจที่แท้จริง ประมาณ 1-3 วัน หรือมากกว่านั้น ตามศรัทธา) 

เรื่องย่อเทศกาลเจ 

เทศกาลเจ หรือประเพณีถือศีลกินผักนั้นสืบต่อมาจากชาวจีนมายาวนานแล้ว และหลายประเทศในเอเชียก็ได้รับอิทธิพลการกินเจสืบต่อมาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศสิงคโปร์ ประเทศมาเลเซีย หรือประเทศอินโดนีเซีย รวมทั้งประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยมีตำนานเล่าขานเรื่องของพระโพธิสัตว์ตามหลักศาสนาพุทธ มากมายหลายตำนาน แต่มีจุดมุ่งหมายที่ตรงกันเพียงหนึ่งเดียว คือการทำความดี และงดการเบียดเบียนชีวิตทั้งตัวเองและผู้อื่น 

หลักธรรมของคนกินเจ 

ทัศนะของคนกินเจที่เดินทางสายกลาง มองว่าการกินอาหารเพื่อดำรงชีวิตนั้นต้องไม่เบียดเบียนทั้งตัวเองและผู้อื่น จึงทำให้เกิดการงดเว้นเนื้อสัตว์ไป โดยหมายถึงในแต่ละเมนูทั้งคาว-หวานที่เรากินจะไม่มีทั้งเนื้อสัตว์ และส่วนผสมจากผลผลิตของสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นไข่ หรือนม และยังงดผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ประเภทได้แก่ กระเทียม, หลักเกียว (คล้ายกระเทียมแต่ขนาดเล็กกว่า),ใบยาสูบ, กุ้ยช่ายและหัวหอม เนื่องจากมีกลื่นแรง รสหนักซึ่งอาจทำให้สมดุลของร่างกายผิดเพี้ยนไปขณะที่ร่างกายกินแต่พืชผัก นอกจากนี้จุดหมายใจความสำคัญที่สุดคือเรื่องของการทำตัวให้อยู่ในศีลธรรมอันดี รักษาความบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา และใจ 

พูดง่ายๆ ว่า กินเจซึ่งไม่เบียดเบียนใครด้วยการกินแล้ว ก็จงอย่าเบียดเบียนใครทั้งใจหรือความคิด และคำพูดไม่ดีต่างๆ ก็งดไปด้วยเช่นกัน จะว่าไปก็เป็นหลักธรรมเบื้องต้นของชาวพุทธที่เรียนกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกด้วยซ้ำ

กินเจแล้วเหนือกว่า 

เป็นประจำทุกปี เมื่อมีคนกินเจ ก็มีคนที่เหยียดคนไม่กินเจ เพราะพวกเขารู้สึกว่า การกระทำของตนนั้นคือความดีบริสุทธิ์ ในขณะที่คนที่ไม่กินเจนั้นช่างโหดเหี้ยมอำมหิต วิวาทะระหว่างคนกินเจ และคนไม่กินเจจึงเกิดขึ้นเป็นเงาใต้ธงเหลือง (ธงสัญลักษณ์ประเพณีกินเจ) ซึ่งเกรี้ยวกราดต่อเนื่องกันทุกปีเช่นกัน 

ดราม่าเนื้อเทียมอร่อยล้ำสมจริง

ประเด็นร้อนต่อมาที่เริ่มจะมีการถกเกถียงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากเมนูอาหารเจที่ร้านอาหารจำนวนไม่น้อย พัฒนาปรับปรุง และบริษัทขายวัตถุดิบก็ปรับเปลี่ยนรูปร่าง หน้าตา เนื้อสัมผัสสมจริงยิ่งและดูน่ากินมากขึ้นทุกที หมูแดงเจ ลูกชิ้นหมูเจ นักเก็ตเจ ขณะที่คนกินเจเคร่งครัดกลับรู้สึกว่า การกินเจ คือลดละทั้งกาย วาจา ใจ แต่ทำไมพวกยูว์ยังติดรสชาติภายนอกอย่างนี้ กินไปแล้วคิดว่าเหมือนกินข้าวหมูแดงจริงๆ ไป แบบนี้ก็อย่ากินเจดีกว่าไหม ถ้าใจยังอาวรณ์นัก ร้อนถึงหูคนปลื้มเนื้อเทียม… เอ้า พี่จะมายุ่งทำไม ก็กินเจเหมือนกัน ก็เขามีให้กิน ก็กินไง ดีกว่าไม่กินเจ 

 ดราม่าพายเรือในอ่างตรงกลางไม่มีบาปบุญก็เช่นกัน 

ยิ่งทุกวันนี้หลายคนเสพติดโซเชียลกันมากขึ้น จะทำอะไรก็อัพลงพื้นที่โซเชียลของตัวเอง ก็ยิ่งทำให้ประเด็นดราม่าเกิดง่ายขึ้นเรื่อยๆ เถียงกันไปมา ปล่อยให้ความคิด คำพูดไหลไปตามความโกรธ ความเกลียด และความเหยียดด้วยกันเอง… คิดดูเถิดเทศกาลเจปีนี้แต้มบุญจะเพิ่มขึ้นสักเท่าไหร่กัน