นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมองว่าเทคโนโลยี Blockchain กำลังอยู่ในช่วงเติบโต มีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม และนักลงทุนก็ให้ความสนใจกับการลงทุนใน Technology Blockchain มากขึ้นจึงได้เปิดเสนอขาย ‘กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Blockchain (SCB Blockchain : SCBBLOC)’ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยเบื้องต้นได้เปิดขาย 2 Share Class ได้แก่ ชนิดสะสมมูลค่า - SCBBLOC(A) ที่เปิดให้ซื้อได้ในทุกช่องทาง และชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ – SCBBLOC(E) ในรูปแบบ e-Class ซึ่งฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อและการจัดการ โดยต้องลงทุนผ่าน SCBAM Fund Click เท่านั้น
(นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส)
“กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่เชื่อมั่นในโอกาสเติบโตของเทคโนโลยี Blockchain รวมถึงผู้ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency สามารถความผันผวนด้านราคาในระยะสั้นได้ เริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 27 ก.ค. – 9 ส.ค. 21 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท”
นางนันท์มนัส ยังกล่าวอีกว่า Blockchain คือ นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ช่วยนำมาซึ่งความปลอดภัย น่าเชื่อถือ ภายใต้แนวคิดการสร้างข้อมูลที่ทุกฝ่ายยอมรับซึ่งกันและกัน โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางในการส่งข้อมูลด้วยการนำข้อมูลบันทึกลงในกล่องสี่เหลี่ยมโดยมีข้อมูลเหมือนกันทุกกล่อง (Block) และเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันแบบห่วงโซ่ (Chain) ซึ่งจะถูกกระจายไปใน Network ทั้งหมดทำให้ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ จึงทำให้ระบบ Blockchain มีความปลอดภัยสูง โดยข้อดีหลัก ๆ ประกอบด้วย
1) สามารถจัดเก็บข้อมูล เปรียบเสมือนเครือข่ายการเก็บข้อมูลแบบหนึ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูลเดียวกัน
2) ปลอดภัย ไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไปแล้วได้ และ
3) กระจายศูนย์ ไม่ถูกควบคุมโดยใครคนใดคนหนึ่ง ข้อมูลจะถูกเปิดเผยเป็นสาธารณะและสามารถถูกเข้ามาตรวจสอบได้
“สำหรับ ‘กองทุน SCBBLOC’ เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ ‘Invesco Elwood Global Blockchain UCITS ETF’ (กองทุนหลัก) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศไอร์แลนด์ และอยู่ภายใต้ UCITS ซื้อขายผ่านตลาด London Stock Exchange”
โดยกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีส่วนร่วมหรือมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain เช่น Blockchain Financial Services, Blockchain Technology Solutions และ Crypto Mining Hardware โดยจะกระจายการลงทุนในหลากหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น แคนาดา เกาหลีใต้ ไต้หวัน และแถบยุโรป เป็น ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนหรือมีไว้ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินในสกุลเงินต่างประเทศ ตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน
กองทุนหลักบริหารโดย ‘Elwood Asset Management’ ซึ่งเป็นบริษัทจัดการการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการด้าน Digital Asset จะทำการกระจายการลงทุนในหุ้น 45-75 บริษัททั่วโลก เพื่อรองรับการเติบโตในระบบนิเวศธุรกิจ Blockchain ด้วยการค้นหาหุ้นที่น่าสนใจ จากการเลือกหุ้นที่จดทะเบียนในประเทศพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องใน Blockchain Ecosystem และเฟ้นหาหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตด้วยวิธี Bottom up โดยมีกรอบการให้คะแนนในการพิจารณา เมื่อได้คะแนนในแต่ละ criteria แล้ว จะนำมาคำนวณเพื่อจัดหมวดหมู่และให้คะแนนกับบริษัทนั้น ๆ (Blockchain Category Score) เพื่อมาใช้จัดน้ำหนักดัชนีและประเมินสภาพคล่องพร้อมทั้งจำกัดการลงทุนในหุ้นแต่ละตัวไม่เกิน 5% ของดัชนี
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน
ผมไม่มีหนี้อะไรเลย ไม่มีบัตรเครดิต ไม่กู้ซื้อบ้านไม่กู้ซื้อรถ เก็บเงินสดฝากแบ้งค์ 60 % ของรายรับทุกเดือน
31 ธ.ค. 2562 เวลา 08.16 น.
Talent หนี้รวย = หนี้อะไรก็ได้ที่เราผ่อนสบายๆ
หนี้จน = หนี้อะไรก็แล้วแต่ที่เราไม่มีปัญญาผ่อน
31 ธ.ค. 2562 เวลา 07.09 น.
Saksit ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
31 ธ.ค. 2562 เวลา 05.24 น.
Sky2365 อืมม จริง ขอบคุณบทความดีๆแบบนี้ อ่านแล้วได้ข้อคิด ได้สติดีมากๆ
31 ธ.ค. 2562 เวลา 06.42 น.
Pond Jaem So Pon กดเงินไปเที่ยว ถ้าเปิดหูเปิดทาง เปิดโลกกว้าง นำความรู้ นวัตกรรมใหม่มาต่อยอดเสริมรายได้ก็เป็นหนี้รวยได้นะ
31 ธ.ค. 2562 เวลา 06.13 น.
ดูทั้งหมด