ทั่วไป

ล้างสมองเยาวชนจน “ชังชาติ” หมอวรงค์ให้บทเรียนความน่ากลัวของ “ฮ่องกง” เทียบในไทย

Manager Online
เผยแพร่ 06 ธ.ค. 2562 เวลา 12.52 น. • MGR Online

“หมอวรงค์” ยกความน่ากลัวของฮ่องกง ที่ใช้ NGO ต่างชาติ ล้างสมองเยาวชนจน “ชังชาติ” ในการร่วมชุมนุมทางการเมือง และถูกจับหลายคน คล้ายที่กำลังเกิดในไทย ร้อนถึงส.ส.อนาคตใหม่ ออกมาตอบโต้อย่างรุนแรง “ป่วยแล้ว!”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(6 ธ.ค.62) เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม CEO พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) โพสต์ข้อความหัวข้อ “ลัทธิชังชาติกับม็อบฮ่องกงความเหมือนที่ไม่แตกต่าง !!!”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยระบุว่า ความเคลื่อนไหวของลัทธิชังชาติในเมืองไทย ใช้รูปแบบที่สอดคล้องกับฮ่องกง โดยอาศัยNGOต่างชาติ ก่อนจะปลุกม็อบใหญ่ เขาจะใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือ

ข้อมูลรายงานว่า เด็กอายุน้อยสุดที่ถูกศาลฮ่องกงตัดสินคือ 12 ปี ล่าสุดศาลฮ่องกงเพิ่งตัดสินเด็กอายุ 15 และ17 ปี ที่ทำลายทรัพย์สินสาธารณะในช่วงม็อบ โดยให้ผู้ปกครองชดใช้คนละ 1.1 ล้านบาทไทย และเด็กเข้าสถานพินิจ

ม็อบฮ่องกง ถูกจับกว่า 4,000 คน ในจำนวนนี้กว่า 80% เป็นเด็กมัธยม อาชีวะ ประถม การปลุกระดมของ NGO ต่างชาติ จะมีจุดเอกลักษณ์ปลุกระดมคือ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

1. โปรยใบปลิว 2. ขีดเขียนวาดภาพ และเสปรย์บนกำแพงสาธารณะ 3. ขว้างกระจกรถยนต์จากสะพานลอย

4. จัดสัมมนาแอบแฝงปลุกระดม 5. จัดค่ายเยาวชนล้างสมอง(คล้ายกับพวกไม่ยอมจำนน) 6. ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ เช่น ไฟจราจร เครื่องขายตั๋ว ฯลฯ 7. ปล่อยเฟคนิวส์ปลุกระดมทางโซเชี่ยล

เป็นวิธีการมาตรฐานที่ NGO ต่างชาติ ใช้ปลุกม็อบเยาวชนทั่วโลก และภาพตามผนังกำแพงในกทม.เหล่านี้น่าสงสัยว่า เป็นฝีมือ NGO ต่างชาติเช่นกัน เพื่อให้รับกับแคมเปญของพวกลัทธิชังชาติในประเทศไทย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พ่อแม่ ผู้ปกครอง รวมทั้งคุณครู ผู้บริหารกระทรวงศึกษาทุกระดับ โปรดเอาใจใส่ ช่วยกันดูแลลูกหลานไทย อย่าให้ตกเป็นเหยื่อลัทธิชังชาติ #ปราบลัทธิชังชาติด้วยความจริง

สำหรับ “หมอวรงค์” เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา เขาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ว่า วันที่ 3 ธ.ค.62 ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย มีมติแต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรค หรือ “ซีอีโอพรรค” มีหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบาย และยุทธศาสตร์พรรคไปสู่การปฏิบัติ ภารกิจที่ได้รับมอบหมายเป็นพิเศษคือ ปราบลัทธิชังชาติ.

อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ เฟซบุ๊ก Jirat Thongsuwan ของ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคอนาคตใหม่ ออกมาโพสต์ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.62 หัวข้อ “เรียน คุณหมอวรงค์”

โดยระบุว่า คุณหมอครับ ถ้ากิจกรรมสอนน้องๆทำกระทงจากวัสดุที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และภาพที่สื่อสารถึงประชาธิปไตย รวมถึงภาพนายกฯบนกำแพง เท่ากับการชังชาติ

ผมว่าถึงเวลาแล้ว ที่คุณหมอต้องหาหมอครับ!

ผมแนะนำให้ปรึกษาคุณหมออ๋อง ส.ส.พิษณุโลกครับ แกจบด้านนี้มา #จะสร้างวาทะกรรมต้องหัดมีวาทศิลป์ด้วย

ทั้งนี้ อ้างถึง เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.62 หัวข้อ “ช่วยกันดูแลเด็กๆ”

นี่คือภาพตัวอย่าง ที่สะท้อนถึงความเคลื่อนไหวในกลุ่มเด็กๆ เยาวชน ของกลุ่มที่มีแนวโน้มมีพฤติกรรมชังชาติ เพื่อปลูกฝังสิ่งผิดในสมองของเด็กๆ โดยเฉพาะข้อมูลเชิงติดลบ จะถูกจดจำได้ง่ายกว่าข้อมูลเชิงบวก

ทั้งเข้าไปปลุกระดมเด็กนักเรียนในโรงเรียน รวมทั้งการวาดภาพฝาผนัง เพื่อสร้างความเกลียดชังชาติ แก่เด็กๆของเรา ซึ่งในภาพวาดคือตำแหน่ง ซอยสุขุมวิท 58 ตำแหน่งที่เคยมีการวาดภาพเสือดำ

เป็นที่น่าสังเกตว่า พวกลัทธิชังชาติ จะพุ่งเป้าไปที่เด็กๆ เพราะง่ายต่อการล้างสมอง ที่สำคัญคือผู้ใหญ่คงเริ่มรู้เท่าทันต่อคนเหล่านี้แล้ว

เห็นทีกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารโรงเรียนต่างๆ ตลอดจนพ่อ แม่ผู้ปกครอง จะปล่อยเรื่องนี้ไม่ได้แล้วครับ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ก่อนที่สมองของลูกหลานเราจะมีแต่ความเกลียดชังประเทศ และกทม.ควรเข้าไปดูแลการวาดภาพในผนังสาธารณะที่ปลุกระดม ยั่วยุ ควรจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อเก็บหลักฐานดำเนินคดีการกระทำความผิด #ปราบลัทธิชังชาติด้วยความจริง

ก่อนหน้านี้ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ก็เคยมีพฤติกรรมเข้าไปรณรงค์ยกเลิกเกณฑ์ทหารในโรงเรียนมาแล้ว และถูกนำเอามาโพสต์วิจารณ์ผ่านโลกโซเชียล

จนเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.62 เฟซบุ๊ก จุลเจิม ยุคล ของ ม.จ. จุลเจิม ยุคล หรือ “ท่านใหม่” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ “ทำอะไรให้อยู่ในขอบเขตด้วยครับ”

สิ่งที่น่ากลัวที่พรรคอนาคตใหม่ทำกันในตอนนี้ ……..ทำไม กระทรวงศึกษาธิการ (รัฐบาล) ทหาร ตำรวจ หน่วยความมั่นคง ถึงเพิกเฉยกัน ครับ หรือต้องรอให้ไฟไหม้บ้านก่อน ใช่ไหมครับ ???????

ด้านนายจิรัฏฐ์ กล่าวถึงกระแสโซเชียลรุมวิพากษ์วิจารณ์ และประณามถึงการเดินทางเข้าไปชักจูงเด็กและเยาวชนให้สนับสนุนแนวความคิด ยกเลิกการเกณฑ์ทหารในสถานศึกษาและในโรงเรียน ว่า สาเหตุที่ต้องเดินทางเข้าไปจนถึงภายในโรงเรียนนั้น เนื่องจากการนำเสนอกฎหมายในฐานะฝ่ายค้าน ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 นั้นมันยากที่จะแก้กฎหมายหรือจะเสนอกฎหมายใหม่

เพราะจะต้องผ่านทั้งสภาผู้แทนราษฎร และต้องไปผ่านสภาของวุฒิสภา (ส.ว.) และยังมีโอกาสที่ทั้งสองสภา ทั้ง ส.ส.และส.ว. ฝ่ายรัฐบาล จะยื่นเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอีก ฉะนั้นการผ่านกฎหมายอะไรในยุคนี้จึงค่อนข้างยาก การรณรงค์เท่านั้นที่จะช่วยให้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการ เพราะประชาชนที่หนุนกฎหมายฉบับนี้จะเป็นตัวที่กดดันให้ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว. เห็นด้วยกับโครงการนี้

ส่วนปัญหาผลกระทบต่อด้านความมั่นคงของประเทศนั้น เป็นเหตุผลของกองทัพที่พูดอยู่คนเดียว ที่เหตุผลของกองทัพมีน้ำหนัก มันสำคัญกว่าเหตุผลของคนที่ถูกกระทำ คนที่ได้รับผลกระทบอย่างเยาวชน ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ… (77 ข่าวเด็ด 05 ธ.ค. 62)

นอกจากนั้น เฟซบุ๊ก Jirat Thongsuwan ยังโพสต์อีกว่า

ผมขอประนามการกระทำที่พยายามทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผิด เป็นเรื่องไม่สมควร เพื่อต้องการทำให้สังคมเข้าใจผิด เพราะการกระทำแบบนี้นอกจากจะเป็นการดูถูกความคิดเยาวชนแล้ว ยังเป็นการคุกคาม กดดันคณะครูอาจารย์รวมถึงผู้บริหารโรงเรียน

การรณรงค์ในโรงเรียนเป็นเรื่องถูกกฎหมายครับ ไม่ไช่เรื่องร้ายแรงหรือเป็นภัยกับอนาคตของชาติ ในขณะที่วิชารักษาดินแดน หรือแม้แต่ยุวชนทหาร เป็นการยัดเยียดข้อมูลด้านเดียวที่ถูกทำให้เป็นกฎระเบียบที่บังคับใช้ กองทัพควรเปิดพื้นที่ให้น้องๆได้รับข้อมูลอย่างอิสระ เพราะผู้ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้โดยตรงคือน้องๆครับ ไม่ใช่กองทัพ ไม่ใช่รัฐมนตรี ไม่ใช่นายกฯ ถ้าไม่คุยกับน้องๆ จะให้ไปคุยกับใคร

ถ้าเราบอกว่าประเทศนี้เป็นประชาธิปไตย ผู้ใหญ่ทั้งหลายในบ้านเมืองเราไม่มีสิทธิ์ไปคิดแทนน้องๆเหล่านี้ และที่สำคัญไม่มีสิทธ์ไปตัดสินว่าอนาคตของเยาวชนเหล่านี้จะต้องมาฝึกทหารเท่านั้น โดยอ้างประโยชน์ของชาติ ในขณะที่ไม่แยแสความรู้สึกของประชาชนในชาติเลย

ขณะเดียวกันวันนี้(6 ธ.ค.62) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก วิจารณ์ กรณีนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคอนาคตใหม่ ไปพูดเรื่องการเลิกเกณฑ์ทหารในโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า

“กระทรวงศึกษา มีนโยบายส่งเสริมการเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยในหลาย ๆ มิติ ทั้งเรื่องสภานักเรียนก็ดี เรื่องการโหวตต่างๆ ในโรงเรียนก็ดี แต่การที่นักการเมืองหรือพรรคการเมือง ฉวยโอกาส และใช้กลวิธีต่างๆ เพื่อเข้าไปหลอกล่อ โฆษณาชวนเชื่อและยุยงให้เกิดความเกลียดชังในสังคมแก่เด็กและเยาวชน เป็นเรื่องเลวร้ายมาก ส.ส.ทุกคนทุกพรรคควรจะร่วมมือกันในเรื่องการศึกษา อย่าใช้เยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติเป็นเครื่องมือทางการเมืองเลยครับ ขอให้เป็นครั้งสุดท้าย”

(ข้อมูลจาก matichonweekly.com/)

ดูเหมือน เป้าหมายในการ “ปราบชังชาติ” ของ “หมอวรงค์” และ พรรค รปช. ชัดเจนขึ้นทุกวัน และ คำว่า “ชังชาติ” ที่หลายคนอาจคิดว่า เป็นเพียง “วาทกรรม” ที่อีกฝ่ายสร้างขึ้นมา ฆ่าอีกฝ่ายทางการเมือง มันเริ่มไม่ใช่อีกต่อไป มันเริ่มมีพฤติกรรมที่ทำให้หลายคนเริ่มออกมาเป็นแนวร่วม “หมอวรงค์” เพิ่มขึ้น และเริ่มไม่ไว้วางใจพรรคการเมืองบางพรรค ที่หัวหน้าพรรคก็เคยพูดเอาไว้อย่างชัดเจน ว่ามี “ฮ่องกง” เป็นแรงบันดาลใจ!?

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 545
  • P-NOTT
    ก็พ่อมึงชื่อชาติรึเปล่าล่ะ? ถ้าใช่ก็นั่นแหละกูชัง
    27 ธ.ค. 2562 เวลา 06.33 น.
  • MONTRI KANTINAN
    🤣
    08 ธ.ค. 2562 เวลา 18.56 น.
  • Api
    พรรคชังชาติ มีฮ่องกงเป็นโมเดล ตอนนี้เป็นไงฮ่องกงเละ 555
    07 ธ.ค. 2562 เวลา 15.04 น.
  • ผลนอ้ย กำใลงาม
    จมหมออะใรมาครับทา้น
    07 ธ.ค. 2562 เวลา 05.59 น.
  • Ruslam
    สถานการณ์ใต้อ้างล้างสมองพอมีคนคิดเดินในเมื่องต่างชาติล้างสมองแล้วทำไม่ไม่คิดล้างสมองคนที่เป็นปัญหาตอนนีี้
    07 ธ.ค. 2562 เวลา 05.18 น.
ดูทั้งหมด