บิณฑ์ ลั่น เงินบริจาค 422 ล้าน ถ้าทุจริตบาทเดียวขอให้มีอันเป็นไป

รองเลขาธิการพรรคไทยศรีวิไลย์ สั่งตรวจสอบเพจดังอุบล และเงินบริจาคบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อ้างพบไม่โปร่งใส…

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายจำรูญศักดิ์ จันทรมัย รองเลขาธิการพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะประธานองค์กรตรวจสอบทุจริตต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ภาคอีสาน ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อเข้าให้การต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี หลังยื่นหนังสือลงวันที่ 9 ธ.ค. 2562 กรณี นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และเพจอุบลวันนี้ ได้ขอรับบริจาคและนำเงินไปบริจาคแก่พี่น้องประชาชนชาว จ.อุบลราชธานี และบริเวณใกล้เคียง ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีการเผยแพร่ในสังคมโซเชียลอย่างรวดเร็วโดยมีกระแสตีกลับ นายจำรูญศักดิ์ อย่างรุนแรง

นายจำรูญศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนเองได้มีการติดตามตรวจสอบประเด็นการรับและใช้เงินบริจาคของทั้งนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และเพจอุบลวันนี้ มาโดยตลอด ทั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และเพจอุบลวันนี้ ที่เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดอุบลราชธานี โดยเฉพาะนายบิณฑ์ ตนถือว่าเป็นพระเอกและฮีโร่ในดวงใจ แต่อย่างไรก็ตามตนก็อยากจะทราบว่าเงินบริจาคกว่า 400 ล้าน ได้เอาไปใช้จ่ายให้อะไรใครบ้าง

ขณะที่ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู บางส่วนได้เดินทางไปกราบสักการะเจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) เจ้าเมืองผู้ก่อตั้งเมืองอุบลราชธานี ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงเพื่อเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ พร้อมเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า สำหรับกรณีที่มีการแจ้งให้ตรวจสอบความโปร่งใสนั้นตนเองดีใจยินดีที่จะให้เข้ามาตรวจสอบได้ตลอดเอกสารทั้งหมดจะถูกเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานใหญ่ บางพลี สามารถเข้าตรวจสอบได้ตลอด และการมากราบสักการะ(เจ้าคำผง)ในวันนี้ไม่ได้มาเพื่อสาบานแต่เป็นการมาบอกกล่าวให้ท่านทราบว่าเงินบริจาคทั้งหมดกว่า 422 ล้านบาท ไม่ได้มีการคิดจะเอาเข้ากระเป๋าแม้แต่บาทเดียว หากคิดคดเอามาเข้ากระเป๋าขอให้มีอันเป็นไป

ด้านเพจที่ถูกตรวจสอบ ล่าสุดยังไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวต่อเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมงานของเพจได้มีการไลฟ์สดออกมาชี้แจงเป็นระยะถึงการใช้จ่ายเงินบริจาคบ้างแล้วโดยทางเพจอ้างว่าสามารถตรวจสอบความโปร่งใสได้เช่นเดียวกัน

ส่วนเรื่องทางคดี พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี กล่าวหลังจากที่มีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์ตนได้ตั้งคณะทำงานเพื่อเข้ามารวบรวมพยานหลักฐาน สอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริง ว่าเป็นความผิดทางอาญาหรือไม่อย่างไร จึงจะดำเนินการขึ้นตอนต่อไปซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวน.