การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ คู่ดึกวันที่ 26 ม.ค. ชรูว์สบิวรี จากลีกวัน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ” หงส์แดง ” ลิเวอร์พูล จ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เปิดเกมมาครึ่งแรก เป็นทีมเยือนที่เริ่มต้นได้ดีกว่า และมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ รับบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนยิงสวนมือกาวเจ้าบ้าน เข้าประตูไป ในนาทีที่ 15
หลังจากนั้นดูเหมือนลิเวอร์พูล จะผ่อนเกมไป และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
แต่ครึ่งหลัง เริ่มต้นได้แค่ 29 วินาที ลิเวอร์พูล นำห่าง 2-0 จากการสกัดบอลเข้าประตูตัวเอง ของ โดนัลด์ เลิฟ
อย่างไรก็ตามเจ้าบ้านไม่ถอดใจ และมาได้ประตูไล่มาเป็น 1-2 จากลูกจุดโทษของ เจสัน คัมมิง นาทีที่ 65
จากนั้นอีก 10 นาทีต่อมา คัมมิง ตัดบอลจากจังหวะเคลียร์ของเดยัน ลอฟเรน ได้ ก่อนจะทำประตูตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 75
หลังจากโดนตีเสมอ ลิเวอร์พูล หวังเบิกประตูเพิ่มเพื่อที่จะเก็บชัยชนะให้ได้ เปลี่ยนตัวทันที โดยส่งทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต ฟีร์มิโน ลงสนาม
แต่สุดท้ายพวกเขาไม่สามารถยิงประตูเพิ่มได้ จบเกม เสมอ 2-2 ต้องไปเตะนัดรีเพลย์ ที่สนามแอนฟิลด์
Wut ขอให้รักษาฟอร์มนี้ไปจนจบฤดูกาล55
27 ม.ค. 2563 เวลา 03.36 น.
Jonn_Ranger ไม่แปลกและไม่เสียหาย ยุคเซอร์อเล็กซ์ ยังเคยพาทีมเสมอทีมลีกวันลีกทูได้ ช่วงที่ท่านเซอร์อยู่ แมนยูยิ่งใหญ่มาก มีลุ้นและคว้าแชมป์ทุกรายการ โดยเฉพาะพรีเมียร์ลีก ไรอัน กิ๊กส์ ชูถ้วยจนเมื่อยแขนเลยนะ การเสมอทีมจากลีกต่ำกว่า จึงเป็นเรื่องปกติของที่ใหญ่ ลิเวอร์พูลไม่เป๋หรอกครับ
27 ม.ค. 2563 เวลา 02.51 น.
s ไม่เอาอีกถ้วยแล้ว เอาจริงไม่เห็นด้วยนะแต่ถ้าถามอยากได้ถ้วยไหนมากกว่า ถ้วยพรีเมียมอันดับแรกไม่ได้มา30ปีแล้ว ยุฟ่ามาที่2
27 ม.ค. 2563 เวลา 02.38 น.
Tee i6 ไม่เสียหายนี่
27 ม.ค. 2563 เวลา 02.35 น.
หื่นHมื่นHลี้🌈💲🐷💣💖💋☠ คุณภาพทีมสำรองเรือกับเป็ดต่างกันริ๊บรับ
ดูถูกคนดูอิอาย
27 ม.ค. 2563 เวลา 02.32 น.
ดูทั้งหมด