กีฬา

เมื่อ “อาร์เซนอล” โกงความตาย 10 คนพลิกเสมอ “เชลซี” 2-2 จุดเปลี่ยนหลังจากนี้ของพลพรรค “ปืนใหญ่”

สยามรัฐ
อัพเดต 24 ม.ค. 2563 เวลา 17.10 น. • เผยแพร่ 24 ม.ค. 2563 เวลา 17.10 น. • สยามรัฐออนไลน์

ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2019/20 นัดที่ 24 คืนวันอังคารที่ 21 ม.ค.63 "เชลซี" เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของทีม "อาร์เซนอล" โดยเริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมเข้าใส่กันได้อย่างสูสี แต่ดูเหมือนไม่นานหลังจากนั้น เจ้าถิ่นจะเป็นฝ่ายตั้งเกมบุกของตัวเองได้ก่อน

หลังจากผ่าน 10 นาทีแรก เจ้าบ้านครองบอลบุกได้ค่อนข้างชัดเจนกว่า และมีโอกาสได้ประตูขึ้นนำถึง 2 ครั้งจากลูกยิงของ โควาชิช และลูกโหม่งของ อับราฮัม แต่ เลโน และแนวรับของ อาร์เซนอล ยังสามารถป้องกันเอาไว้ได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

กระทั่งนาทีที่ 26 ทีมเยือนต้องมาเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน จากจังหวะที่ มุสตาฟี จ่ายบอลคืนหลังพลาด โดน แทมมี อับราฮัม ฉกบอลไปได้ ก่อนจะแตะหลบผู้รักษาประตู แต่ถูก ดาวิด ลุยซ์ เข้ามาทำฟาวล์เสียก่อน ทำให้เจ้าตัวโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม แถมยังเป็นลูกจุดโทษของ สิงห์บลูส์ ซึ่ง จอร์จินโญ ก็สังหารเข้าไปไม่พลาด ให้ทีมขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 28

ทั้งนี้ เจ้าบ้านที่มีตัวผู้เล่นมากกว่า พยายามบุกเข้าใส่อย่างหนักในช่วงเวลาที่เหลือ ซึ่งก็มีจังหวะใกล้เคียงที่จะได้ประตูเช่นกัน แต่ผู้เล่นของทีมเยือนยังช่วยกันตั้งรับเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ช่วงท้ายครึ่งแรก ด้านผู้มาเยือนมีโอกาสเซตบอลบุกบ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรมากได้ จบ 45 นาทีแรก สิงโตน้ำเงินคราม ออกนำ 1-0 และมีผู้เล่นมากกว่า 1 คน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เริ่มเกมในช่วงครึ่งหลัง ยังคงเป็น สิงห์บลูส์ ที่เปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างหนัก ส่วน ทัพปืนใหญ่ มิเกล อาร์เตตา ปรับแผนมาเน้นเกมรับมากขึ้น และรอจังหวะสวนกลับแทน กระทั่งนาทีที่ 63 ทีมเยือน ตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะสวนกลับลูกเตะมุม โดย ก็องเต้ ที่ยืนเฝ้าอยู่เป็นตัวสุดท้ายกลับลื่นในจังหวะเข้าสกัดบอล ทำให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี หลุดไปดวลเดียวกับ เกปา และก็สังหารเข้าไปไม่พลาด สกอร์เป็น 1-1 จากนั้นเจ้าบ้านยังคงโหมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง และมาได้ประตูออกนำอีกครั้งเป็น 2-1 ในนาทีที่ 84 คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย วางบอลยาวจากริมเส้นและเป็น เซซาร์ อัซปิลิกวยตา สอดขึ้นมายิงเข้าไป

เกมดูเหมือนจะจบด้วยชัยชนะของ สิงห์บลูส์ แต่แล้วอีกเพียง 3 นาทีต่อมา เฮคตอร์ เบเยริน มายิงตีเสมอให้กับ เดอะกันเนอร์ส ได้อีกครั้ง จากจังหวะเลี้ยงจี้ขึ้นมาก่อนล็อกตัดเข้าในแล้วซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม ปืนใหญ่ ไล่มาอีกครั้งเป็น 2-2 จากนั้นทั้งสองทีมไม่สามารถบวกสกอร์กันเพิ่มได้ จบเกม อาร์เซนอล 10 คน บุกมายันเสมอ เชลซี ไปได้ 2-2 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน

เมื่อมาวิเคราะห์หลังเกมการแข่งขันจบ ถือเป็นการโกงความตายของ "อาร์เซนอล" อย่างแท้จริง ที่หลังจาก ดาวิด ลุยซ์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปในนาทีที่ 26 นั้น จะเห็นได้ว่า พลพรรคสิงโตน้ำเงินคราม เป็นฝ่ายได้ครองบอลบุกเข้าใส่ชนิดที่ว่าบางช่วงแทบจะพับสนามเอาไว้ข้างเดียวเลย ที่เห็นได้ชัดเจนคือในช่วงครึ่งหลัง ส่วนหนึ่งต้องชมแผนการของ อาร์เตตา ที่แก้เกมมาในช่วงพักครึ่งให้ลูกทีมถอยลงไปตั้งรับ ให้ สิงห์บลูส์ เปิดพื้นที่ด้านหลังแล้วค่อยหาจังหวะโต้กลับ ซึ่งนั่นคือที่มาของประตูตีเสมอ 1-1 บรรดานักเตะ เชลซี โถมกันขึ้นไปข้างหน้าหมด ทิ้ง เอ็นโกโล ก็องเต ไว้ในแดนเพียงคนเดียว แถมยังโชคร้ายที่เจ้าตัวดันไปลื่นจังหวะสะกัดเสียอีก ซึ่งนั่นเองคือประตูจุดประกายความหวังของ ทีมปืนใหญ่ ในค่ำคืนนั้นอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม เชลซี ที่ขาดความแน่นอนในการจบสกอร์ แต่อาร์เซนอลมีโอกาสยิง 2 เข้ากรอบ 2 เป็น 2 ประตู นี่คือตัวเลขสถิติของ พลพรรคปืนใหญ่ ในเกมวันนี้ ที่ต้องบอกเลยว่าคมกริบสุด ๆ แต่พอมาดูทางฟาก สิงห์บลูส์ พวกเขาสร้างโอกาสได้มากถึง 19 ครั้ง ยิงเข้ากรอบไป 8 ครั้ง และเปลี่ยนเป็นประตูได้เพียง 2 ลูกเท่านั้น แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นอัตราส่วนที่แตกต่างกันลิบลับในเรื่องของความเฉียบคมในเกมนี้ แต่แน่นอนต้องยกเครดิตให้กับ แบรนด์ เลโน นายทวารของทีมอาร์เซนอล ที่ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับที่มีดีกรีเป็นถึงผู้รักษาประตูที่เซฟมากที่สุดอันดับต้น ๆ ในซีซั่นนี้ แต่มันจะไม่ใช่ปัญหาเลยถ้าหาก แนวรุก สิงห์ไฮโซ มีความเฉียบขาดกันมากพอในเกมที่ทุกอย่างดูจะเป็นใจให้พวกเขาขนาดนี้

ในขณะที่ "มิเกล อาร์เตตา" ผู้จัดการทีม อาร์เซนอล ให้สัมภาษณ์ชื่นชม กรานิท ชากา กัปตันทัพปืนใหญ่ที่ถูกขยับลงไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็คแทน ดาวิด ลุยซ์ ในเกมเสมอ เชลซี 2-2 ว่า นับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม อาร์เซนอล ผมก็พยายามสร้างความเชื่อมั่นให้ กรานิท ชากา ว่าเขากำลังค้าแข้งอยู่ในสโมสรที่เหมาะสมแล้ว

"เป้าหมายของผมก็คือทำให้ลูกทีมเล่นฟุตบอลด้วยความสนุกสนานและมอบโอกาสแก่ทุกคนอย่างทั่วถึง ฉะนั้นจึงไม่มีการบีบบังคับอะไรทั้งสิ้น โดยเฉพาะเรื่องการฝึกซ้อมในตำแหน่งใหม่ ๆ การตัดสินใจขยับ ชากา ไปยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็กแทน ดาวิด ลุยซ์ เป็นอะไรที่หนักใจสุด ๆ เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าเขาจะเล่นดีหรือแย่ แถมทีมยังเหลือนักเตะในสนามแค่ 10 คนอีกด้วย แต่สุดท้ายเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ปรบมือให้รัว ๆ เลย"

นอกจากนี้ อาร์เตตา ยังยืนยันว่าฤดูกาลนี้ เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์พรสวรรค์สูง ค่อนข้างโชคร้ายไปสักหน่อย ผลงานส่วนตัวถึงออกมาดูแย่ แต่เชื่อว่าจากนี้ไปจะพัฒนาขึ้นกว่าเดิมได้อีกหลายเท่าแน่นอน

"เมซุต โอซิล เป็นหนึ่งในนักเตะที่ผมเปลี่ยนแปลงเป้าหมายและความคาดหวังให้ในทุก ๆ เกม เรียกว่ามีเควสต์ให้ทำแตกต่างกันตามสถานการณ์จนไม่เบื่อเลยล่ะ และการที่นักฟุตบอลสักคนหนึ่งจะตอบสนองต่อความคาดหวังของโค้ชได้ในระดับนั้น เขาต้องเข้าใจโครงสร้างทีมอย่างทะลุปรุโปร่งทั้งหมด ไม่งั้นจะไม่มีทางดึงศักยภาพของเพื่อนรอบ ๆ ตัวออกมาช่วยงานได้แบบเต็มที่แน่ เอาจริง ๆ โอซิล น่าจะมีสถิติการแอสซิสต์และยิงประตูสูงกว่านี้นะ เสียดายที่เขาโชคร้ายเกินไปหน่อย แต่ถ้าพูดถึงฟอร์มโดยรวมแล้วผมยืนยันว่าพัฒนาขึ้นในทุก ๆ วันเลย" ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล กล่าว

ส่วนทางด้าน "กรานิท ชากา" มิดฟิลด์เท้าหนักของอาร์เซนอล ให้สัมภาษณ์ชื่นชมคาแรคเตอร์ของเหล่าแข้งปืนในเกมบุกเสมอ เชลซี 2-2 ว่าเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมและมีสปิริตสูงอย่างแท้จริง ว่าถึงแม้จะเป็นการบุกเยือน เชลซี ในศึกลอนดอน ดาร์บี แต่ผมกล้าพูดเลยว่าเราเล่นกันดีมาก ไม่รู้นะ แต่เหมือนใบแดงของ ลุยซ์ จะช่วยปลุกไฟให้ลุกโชนได้เต็มสูบเลยล่ะ ที่ทุกคนได้เห็นกันไปคือสปิริตของจริงจากนักเตะ อาร์เซนอล ชุดนี้ โดยเฉพาะช่วงพักครึ่งการพูดคุยระหว่างนักเตะและโค้ชยิ่งกระตุ้นให้เราฮึกเหิมแบบทวีคูณ ผมภูมิใจมากจริง ๆ

"แน่นอนว่าผลเสมอมันไม่ดีพอจะให้คนนอกกล่าวคำชื่นชมหรอก แต่ถึงกระนั้นพวกเราย่อมรู้อยู่ในใจว่า นี่แหละคือคาแรกเตอร์ที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ ทุกคนไม่มีทางลืมช่วงเวลานี้ไปอีกนานแน่" กัปตันปืนใหญ่ กล่าว

หลังจากนี้ต้องมาดูต่อว่า “อาร์เซนอล” ที่มีสปิริตยอดเยี่ยมในเกมที่เสมอกับ “เชลซี” จะเล่นได้ดีแค่ไหน อย่างไรก็ตามถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับพลพรรค “ปืนใหญ่” ในการสร้างกำลังใจให้ทีมในเกมการแข่งขันนัดต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ