เมื่อวันที่ 25 ม.ค. พ.ต.ต.กัมพล อินทีวงศ์ สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนคนเดินเท้ามีผู้เสียชีวิต ภายในหมู่บ้านกรุงศรีซิตี้ ซอยที่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ ที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยพบศพ นายสุพรรณ ญาติบรรทุง อายุ 57 ปี เป็นนายช่างโยธาชำนาญงาน สำนักก่อสร้างทาง กรมทางหลวงชนบท สภาพศพแขนขาหัก ตามร่างกายมีบาดแผลฉกรรจ์ และบริเวณหน้าบ้าน เลขที่ 199/-336 ซึ่งเป็นบ้านของผู้เสียชีวิตพบว่ากระถางต้นไม้ที่อยู่หน้าบ้านแตกกระจายเกลื่อน มีรอยครูดเป็นทางยาว พบว่าร่างผู้เสียชีวิตถูกชนแล้วร่างกระเด็นมาจากหน้าบ้านของผู้เสียชีวิตประมาณ 50 เมตร ใกล้กันพบชิ้นส่วนของรถเก๋งตกอยู่
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตกำลังทำความสะอาดถนนและรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านตัวเองอยู่ จากนั้นมีนายไพบูลย์ ส่างสาร อายุ 56 ปี ซึ่งอยู่บ้านติดกันได้เดินออกมาหน้าบ้านแล้วมีการพูดคุยกัน ก่อนที่นายไพบูลย์จะไปขับรถเก๋งโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน ฆท 6564 กรุงเทพมหานคร ที่อยู่บ้านตรงข้ามออกมาถอยหลังไปเกือบชนราวตากผ้าบนถนน จากนั้นก็ขับเดินหน้าไปรับเด็กชาย 2 คน ขึ้นรถแล้วถอยหลังอีกครั้ง และขับรถด้วยความเร็วพุ่งไปชนผู้เสียชีวิตอย่างแรงก่อนที่จะขับรถหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบรถเก๋งที่ผู้ก่อเหตุขับชนถูกจอดทิ้งไว้ที่บริเวณลานจอดรถของสนามฟุตบอล เยลโล่ การ์ด ห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร สภาพด้านหน้าขวามีรอยชนจนยุบ กันชนหน้าแตก
นางปานกมล รัศมี อายุ 44 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน ไม่ทราบว่าสามีมีปากเสียงทะเลาะอะไรกับใครก่อนหน้านี้หรือไม่ จนได้เสียงรถขับด้วยความเร็วและมีเสียงดังโครมก่อนรีบออกมาดูพบว่าสามีนอนแน่นิ่งอยู่กลางซอยจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาให้การช่วยเหลือ พอมาดูกล้องวงจรปิดจึงทราบเหตุการณ์ว่าสามีถูกรถชน เชื่อว่าคนที่ขับรถชนมีเจตนาที่จะพุ่งชน ส่วนปัญหาความขัดแย้งกับคนในหมู่บ้านของสามีตนเองไม่ทราบ เพราะสามีควบคุมงานก่อสร้างถนนที่จ.เชียงใหม่ นานๆ ถึงจะกลับบ้านมาสักครั้ง และอยู่ในหมู่บ้านนี้มา 8 ปี ไม่เคยมีปากเสียงกับใคร ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายไพบูลย์ ผู้ก่อเหตุ ปกติมีอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง อาศัยอยู่บ้านติดกับผู้เสียชีวิต ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับผู้เสียชีวิตเรื่องนำราวตากผ้ามาตั้งหน้าบ้าน จากนั้นได้ไปขับรถเก๋งออกจากบ้านตรงข้ามที่นายไพบูลย์ รับจ้างพาเด็กไปส่งเรียนฟุตบอลที่สนามฟุตบอลห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร หลังจากพาเด็กขึ้นแล้วได้ถอยหลังรถพุ่งเข้าชนผู้เสียชีวิตอย่างแรง ลากร่างของผู้เสียชีวิตไปประมาณ 50 เมตร แล้วขับรถหลบหนีไป เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายไพบูลย์ คงจะไม่พอใจที่ผู้เสียชีวิตว่าเรื่องราวตากผ้าขวางทางจึงขับรถชนจนเสียชีวิต ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตเองต่างเป็นกรรมการของหมู่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับตัวนายไพบูลย์ มาสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
yui ตากหน้าบ้านตัวเองสิ จะได้ไม่มีเรื่อง คนเราถ้ารู้จักเคารพสิทธิ์ของคนอื่น ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ปัญหาก็จะไม่มี แถวบ้านก็มี หน้าบ้านตัวเองไม่ตาก ลากราวไปตากหน้าบ้านคนอื่น ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน
25 ม.ค. 2563 เวลา 08.33 น.
อย่าทำอะไรเกินอาณาเขตบ้านตัวเองกันเลย ที่สาธารณะก็ไม่ควรยึดเป็นของตนเอง
25 ม.ค. 2563 เวลา 09.14 น.
ก้อกวนเท้าจริงๆเนอะ มาตากผ้าบนถนน
เตือนเเล้วยังไม่ฟัง
25 ม.ค. 2563 เวลา 08.11 น.
ร.ต.ต.สุริยะ ดีครับตายกันให้หมดๆ
25 ม.ค. 2563 เวลา 09.17 น.
อห.ตากผ้าผิดที่ถึงตาย😑 ข้างบ้านผมมันคงตายหลายรอบมาก😂
25 ม.ค. 2563 เวลา 09.24 น.
ดูทั้งหมด