ไลฟ์สไตล์

‘ซูซี่ ณัฐวดี’ สาวผู้ฉีกกรอบ Beauty Standard ฝ่าคำครหา จนมั่นใจในตัวเอง

INTERVIEW TODAY
เผยแพร่ 07 เม.ย. 2564 เวลา 17.00 น. • O.J.

‘Beauty Standard มาตรฐานความงาม’ หลายคนมักจะนึกถึงแต่ ‘ผิวต้องขาว หุ่นต้องผอม คางต้องแหลม ขาต้องเล็ก ฟันเรียงงาม’ ด้วยอุดมคติที่ว่าความงามจะเป็นใบเบิกทางสู่ความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับของสังคม ค่านิยมดังกล่าวมักจะถูกหล่อหลอมตั้งแต่วัยเด็กผ่านสังคมต่าง ๆ ทั้ง ครอบครัว,โรงเรียน สื่อออนไลน์และอีกมากมาย ซึ่งตัวเราเองอาจจะซึมซับค่านิยมความงามโดยที่ไม่รู้ตัว  

แต่ทว่าคนใดที่ความงามไม่ตรงกับมาตรฐานที่สังคมกำหนด บางรายอาจต้องทนทุกข์กับคำพูดหรือเจอพฤติกรรมที่ก้าวร้าวของผู้อื่น โดยที่คนเหล่านั้นไม่แคร์จิตใจของผู้ถูกกระทำที่แสนจะเจ็บปวด 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

INTERVIEW TODAY ในครั้งนี้จะพาไปทำความรู้จัก ‘ซูซี่ ณัฐวดี ไวกาโล’ สาวผิวสีลูกครึ่งไทย-แอฟริกา กับการเติบโตในประเทศไทย ผู้ฉีกกรอบความงามที่ถูกกำหนด ก้าวข้ามการถูกบูลลี่และมั่นใจในความงามของตัวเอง 

ชีวิตวัยเด็ก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“ช่วงวัยเด็กของซูซี่กับการเป็นสาวลูกครึ่งที่มาพร้อมสีผิวที่ไม่เหมือนใครในประเทศไทย นับเป็นสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น พร้อมขอยอมรับว่าเป็นช่วงที่ไม่ค่อยน่าจดจำมากนัก ส่วนหนึ่งมาจากสังคมในขณะนั้นไม่เปิดกว้าง ความต่างนี้เองที่พาไปสู่การถูกบูลลี่ทั้งวาจาและสายตา จากเพื่อนวัยเดียวกันรวมถึงผู้ใหญ่บางกลุ่มที่ไม่ค่อยน่ารัก ดั่งมีดปักอกยากที่จะลืม”

รอยแผลเป็น ถึงจะมียาดีก็ยากที่จะจางหาย

ซูซี่ยอมรับเลยว่าวัยเด็กเป็นเหมือนฝันร้ายและทำให้รู้สึกเจ็บปวด เปรียบเสมือนรอยแผลเป็น ถึงจะมียาดีขนาดไหนแต่ก็ยากที่จะหายไป ซึ่งสังคมในโรงเรียนถือเป็นสถานที่ที่ต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งสูงสุดโดยเฉพาะผู้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘คุณครู’

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ใช่ค่ะ ! ‘คุณครู’ ตอนนี้เราเองยังจำเรื่องราวได้ดี ด้วยความที่เราต่างจากเด็กคนอื่น ๆ ด้วยส่วนหนึ่งจึงเป็นที่ดึงดูดการถูกบูลลี่ แถมยังตั้งฉายาให้ทั้ง “ไอ้ดำ ไอ้ฟันห่าง ไอ้หยิก” โดยไม่มีการปกป้อง อาจจะเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ ๆ ซูซี่รู้สึกเจ็บ 

แต่ถ้าให้พูดถึงวิธีการรับมือการถูกบูลลี่ของซูซี่ที่เห็นว่าตอนนี้แฮปปี้กับการใช้ชีวิต แต่ ณ ตอนนั้นเราเลือกที่จะเก็บทุกอย่างไว้ในใจโดยไม่เล่าให้กับที่บ้านฟัง ว่าในหนึ่งวันเราต่างเผชิญคำดูถูกดูแคลนจากเพื่อนในโรงเรียนก็ดีหรือคุณครูเองก็ดี 

ทว่าการเก็บทุกอย่างไว้ในใจเพียงคนเดียวก็เปรียบดั่งรินน้ำใส่แก้วใบเดิมทุก ๆ วัน ไม่มีวันหยุด แต่เมื่อมันถึงปากแก้วแล้ว แล้วเราไม่หยุดรินน้ำมันก็ไหลหนองเต็มพื้น ใช่ค่ะ! ซูซี่เคยรับมือการถูกบูลลี่ด้วยการระเบิดอารมณ์กับคนที่ชอบแกล้ง ด้วยความที่เราเคยไปเดินตลาดกับแม่แล้วมีคนทักว่าทำไมดำจัง แม่เราเลยตวาดแม่ค้าคนนั้นไปแล้วเห็นว่ามันได้ผลจึงนำมาใช้ที่โรงเรียน แต่ถ้าถามว่ามันได้ผลไหม มันก็ได้จัดการได้แค่บางคนเท่านั้น 

แล้วเชื่อไหมคะคำพูดทุกคำจากวัยเด็กยังฝั่งอยู่ในความทรงจำและหวังว่าสังคมในโรงเรียนควรปลูกฝั่งและเคารพความแตกต่างเพื่อจะเป็นคนที่น่ารักของสังคมในอนาคต

ถ้าย้อนเวลากลับไปเมื่อครั้งอดีตได้จริง ๆ สิ่งแรกที่จะเลือกทำคือการเข้าไปคุยกับ ‘คุณครู’ เพราะครูควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียน ไม่ใช่เพียงแต่เห็นเด็กโดนบูลลี่แล้วเดินผ่านไปหรือตั้งฉายาซ้ำเติม

มาตรฐานความงาม ใครเป็นคนตั้งคะ?

‘Beauty Standard’ หลายคนมักจะนึกถึงแต่ ‘หน้าเรียว ผิวขาว จมูกโด่ง ขาเรียว’ ด้วยความที่สื่อต่าง ๆ  รอบตัวเราไม่ว่าจะเป็นทางโฆษณา สื่อโทรทัศน์หรือสังคมออนไลน์มักจะตั้งมาตรฐานความงามไว้เพียงเท่านั้นและถอดทอดออกมา จนหลายคนต่างตีความว่าเราต้องสวยเหมือนในสื่อ แต่สำหรับซูซี่แล้ว ขอเลือกที่จะไม่ทำตามมาตรฐานความงามที่ใครก็ไม่รู้เป็นคนกำหนด ซึ่งเรารู้ตัวดีว่า “ไม่มีวันที่จะขาว ไม่มีวันที่ผมจะตรงสลวยและไม่มีวันที่จะสวยเหมือนดาราชื่อดัง” แต่ขอเพียงแค่อยู่กับ “ความเป็นจริง” ซึ่งความเป็นจริงในที่นี้คือการยอมรับในตัวเราเอง ทุกคนล้วนมีความงามที่แตกต่างกันและไม่ควรมีอะไรเป็นตัวกำหนด

รู้จักตัวเอง!!

คนผิวสีส่วนใหญ่มักโดนตราหน้าไม่ควรทาเล็บสีแดง ไม่ควรใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาดเพราะจะเหมือนอีกาคาบพริก แต่ความรู้สึกของซูซี่แล้ว “มันต้องสวยสิ!!” ซึ่งสาวผิวสีทั่วโลกก็แฮปปี้ในการแต่งตัว การหยิบสีสันจัดจ้านมาเติมเต็มในชีวิต ซึ่งพวกเขาก็ทำออกมาแล้วสวย ซูซี่จึงหยิบความงามของต่างประเทศมาเติมสีสันให้กับชีวิตและเหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด สมมุติถ้าซูซี่ยังอยู่ในกรอบของ Beauty Standard ป่านนี้หน้าคงเทาแล้ว เพราะไทยเองรองพื้นมีมากสุดก็แค่เบอร์ 3 แต่เดี๋ยวนี้ดีขึ้นหน่อยมีเฉดสีให้เลือกเยอะขึ้น (หัวเราะ) 

แต่ปัญหา Beauty Standard ที่ยังคงเล้าหลือกับคนไทย อยู่คือเขาเอาตัวเองไป ‘เปรียบเทียบ’ อยากจะเหมือนคนอื่น ซึ่งจริง ๆ แล้วมันเป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าคนเหล่านั้นยังไม่หลุดออกจากกรอบที่ถูกขีดไว้โดยไม่รู้ว่าใครกำหนด จึงอยากแนะนำว่าเราต้องยอมรับสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็น แต่ถ้าไม่มีความมั่นใจ การศัลยกรรมก็ไม่ใช่เรื่องผิดเพียงแต่ทำให้พอดี มันก็ไม่ได้ยากแต่อย่างใด 

“เราควรตามในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเรา สิ่งที่คล้ายกับตัวเรา และจะได้มุมมองที่ตรงกับตัวเรามากที่สุด”

อย่ามองแต่จุดด้อย`!!

ซูซี่เชื่อว่าทุกคนมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะมองแต่จุดด้อยของตัวเอง ซึ่งสำหรับตัวซูซี่ถ้าเป็นในช่วงวัยเด็กจะมีความคิดว่าทำไมเราไม่สวยเหมือนกับคนอื่นเช่นกัน แต่ปัจจุบันความคิดนั้นก็หายไป เพราะเราสวยในแบบฉบับของเรา เบ้าหน้าก็ปกติ แล้วยิ่งแต่งหน้าแล้วก็คืองามมม..! นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สร้างพลังบวกให้กับตัวเอง 

ปัจจุบันคำครหาที่เคยถาโถมมาส่วนตัวเลือกที่จะไม่ใส่ใจ(รับบทนางมั่นหน้าเบา ๆ หัวเราะ) เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนสีผิวให้ตรงใจกับคนที่ไม่น่ารักได้ ส่วนเรื่องที่เราเป็นสาวพลัสไซส์นั้น รู้แล้วค่ะ กำลังลดน้ำหนักอยู่ แต่ต้องใจเย็น ๆ นะคะ เพราะอาหารไทยมันอร่อยจริง (หัวเราะ)  

ไอดอลในดวงใจก็ต้องยกให้กับ คุณแม่ Rihanna (ถึงแม้ผลงานเพลงจะเงียบหายไปบ้าง) ที่หนึ่งในดวงใจ ด้วยความเป็นสาวมั่นและเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงทุกเฉดผิวจริง ๆ ดั่งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่วางจำหน่าย 

พลังวิเศษที่ขอหยิบใช้

สมมุติถ้าซูซี่มีพลังวิเศษ 1 อย่าง จะขอเลือก ‘สามารถเปลี่ยนความคิดคน’ เพราะอยากจะให้คนที่ทำตัวไม่น่ารัก พูดจาไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่นปรับตัวให้ทันโลก เพราะทุกวันนี้บางคนยังมีความคิดที่หน้ากลัว แล้วถ้าไม่ปรับเปลี่ยนความคิดดังกล่าวก็จะถูกส่งต่อไปยังรุ่นสู่รุ่นแน่นอน ซึ่งตนไม่อยากให้ความคิดแบบนี้หลงเหลือ อยากให้มีแต่ความคิดที่ทันโลกทันสมัย และคิดบวกมากขึ้น 

*ซึ่งส่วนตัวมีคติประจำใจที่ว่า “จะไม่ทำตัวเป็นความทรงจำเลวร้ายของคนอื่น” *

ชีวิตในโลกออนไลน์ของซูซี่

เป็นที่รู้กันดีว่าซูซี่มีชื่อเสียงมาจากการเล่นโซเซียลและเป็นที่แน่นอนว่าชาวเน็ตบางส่วนยังมีความคิดที่ปิดกั้นในความต่าง เข้ามาวิจารณ์ในแง่ลบ ซึ่งตนก็ต้องขอบคุณประสบการวัยเด็กเช่นกัน เนื่องจากรูปการถูกบูลลี่มันไม่ได้ต่างกัน เพียงแค่มาในรูปแบบออนไลน์ จึงไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรมากและไม่รู้จะให้คุณค่าอย่างไร เพราะพวกเขาก็ไม่ได้มาแคร์ความรู้สึกของตัวเรา และทำไมเราต้องมาเก็บคำพูดเหล่านั้นมานั่งเครียดอยู่คนเดียว 

“แต่ก็ต้องขอบคุณผู้ติดตามที่น่ารักและเคารพในความต่างจนทำให้รู้ว่ายังมีคนที่รักเราอยู่”

ทิ้งท้ายกับซูซี่

สุดท้ายขอฝากถึงคนที่ยังไม่หลุดกรอบ Beauty Standard จนทำให้ขาดความมั่นใจในความสวยของตัวเองนั้น ซูซี่อยากจะขอให้ทุกคนคำนึงว่าเวลามันไม่เดินถอยหลัง เพราะฉะนั้นจงทำทุก ๆ วันให้มีความสุข อยากจะแต่งตัว แต่งหน้าแบบไหนก็ลงมือทำ อย่าใส่ใจคำพูดของคนอื่นมาทำให้ชีวิตของตัวเองโดนตีกรอบจนขาดความสุข และแน่นอนว่ากว่าซูซี่จะเป็นคนที่มั่นใจได้ถึงทุกวันนี้มันต้องใช้เวลา ขอแค่อย่าไปกลัว ขอเพียงแค่ทุกคนลงมือทำก็พอ 

“นับเป็นสาวที่สามารถปลุกพลังให้กับผู้อ่านหลาย ๆ คน ได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งทุกคนล้วนมีความงามในฉบับของตัวเอง เพียงแต่คุณจะเลือกมองที่จุดเด่นหรือจุดด่อยของตัวเองเพียงเท่านั้นเอง" 

ความเห็น 101
  • 💚 PumPuy 789 💚
    0874337766 ค่ะโสดนะคะ
    10 มิ.ย. 2564 เวลา 05.38 น.
  • moonoi
    ขอบคุณบทความดีๆ ให้ชะนีอ้วนอย่างเรายิ้ม บนโลกนี้ต้องมีคนชอบไทป์แบบพวกเราบ้างและเนาะ 555
    06 มิ.ย. 2564 เวลา 04.18 น.
  • กิตติภรณ์โฮมแคร์
    แต่งหน้าแล้วสวยมาก
    02 มิ.ย. 2564 เวลา 09.08 น.
  • 🌻🐞🌼Suphattana🌼🐞🌻
    คิดบวก มีพลังบวก
    27 พ.ค. 2564 เวลา 07.17 น.
  • Jo
    เพราะรัฐบาลทักษิณกับปูไง เลยเป็นแบบนี้ สงสารลุงตู่ต้องมานั่งแก้ไขให้ทีละอย่าง
    22 พ.ค. 2564 เวลา 07.28 น.
ดูทั้งหมด