การจับกุมขบวนการยาเสพติดรายสำคัญ 2 คดี รวมผู้ต้องหา 8 คน ของกลางยาบ้าจำนวน 300,000 เม็ด กัญชาแห้งจำนวน 827 กิโลกรัม
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมนางสมพร แช่ลิ้ม, นายเกรียงไกร อัศวเดชฤทธิ์ และนางสาวอนุธิดา แสงทอง พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 150 มัดจำนวนประมาณ 300,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า จำนวน 2 คัน ได้ที่ ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก อ.แม่พริก จ.ลำปาง และต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง ตามที่เจ้าหน้าที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ทางหลวง ร่วมกันสกัดกั้นกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือเข้าสู่ตอนในของประเทศไทย และเรียกตรวจรถยนต์หมายเลขทะเบียน ณธ1568 กรุงเทพฯ ที่ด่านแม่พริก มีนางสมพรแสดงตัวเป็นเจ้าของรถยนต์ ผลการตรวจสอบพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในถังแก๊สแอลพีจี จำนวน 150 มัด ส่วนรถยนต์หมายเลขทะเบียน สห5556 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถนำเส้นทางติดตามจับกุมได้ที่ซอยแยกจากถนนสายเถิน-ทุ่งเสลี่ยม อ.เถิน จ.ลำปาง มีนายเกรียงไกร ผู้ขับ และ น.ส.อนุธิดา นั่งมาในรถด้วยกัน แต่จากการตรวจค้นไม่พบยาเสพติดภายในรถยนต์ เบื้องต้นดำเนินคดี 3 ผู้ต้องหา ฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้านพล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า การซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในถังแก๊ส ไม่ใช่วิธีการใหม่ แต่ยอมรับว่าทำให้การตรวจสอบทำได้ยากขึ้นและต้องมีการประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
ส่วนอีกคดีเป็นการจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย นายชาญพงศ์ ผลจันทร์, นายชัยวัฒน์ มาตราช, นายสมหมาย โยบุตดา, นายเอกชัย โยบุตดา และนายวิทยา ศรีหะมงคล ในนามของเครือข่ายนายสมหมาย ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ตอนในและในพื้นที่ภาคใต้ ในวันที่ 17 พฤศจิกายน ผลจากการเฝ้าสังเกตการณ์ พบรถกระบะนิสสันทะเบียน 1ฒห6312 กรุงเทพฯ ขับไปตามถนนสระบุรี-หล่มสัก มุ่งหน้าจ.สระบุรี และพบรถกระบะทะเบียน 2ฒก720 กรุงเทพฯ วิ่งตามหลัง โดยมีรถยนต์ทะเบียน บม6075 สกลนคร วิ่งนำเส้นทาง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบกัญชาจำนวน 875 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์โดยมีถุงแตงกวาและถุงมันเทศทับอยู่ข้างบน จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
และเมื่อถามว่า การออกกฎหมายให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์จะทำให้การลักลอบขนกัญชาเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น คาดว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะส่วนใหญ่แล้วประเทศไทยเป็นทางผ่านในการส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 และยังไม่มีการประกาศใช้กฎหมายจึงเป็นหน้าที่ของตำรวจปราบปรามยาเสพติดในการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะเข้าประเทศ
…
🅱️🅾️¥/อย.๗๑๕๙ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน รรท.ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด คนปัจจุบัน หาข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยนะคับ
19 พ.ย. 2561 เวลา 13.52 น.
นิด เอาไปประหารไอัพวกเลวขี้ขัาขี้ยาขี้เกียจอยู่ก้อสร้างความอัปยศให้ประเทศนำอายมีคนแบบในไทย
19 พ.ย. 2561 เวลา 12.57 น.
SaveEarth ยานรกมหึมา มหาศาล
ของใครนักหนา
คนผลิต คนขาย คนเสพ
เต็มไปหมด
19 พ.ย. 2561 เวลา 12.22 น.
ชุดจับกุมมาถูกทางแล้วครับ คนที่ยุ้งเกียวยาเสพติดเลิกยุ้งเถอะ เจ้าหน้าที่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย เดี๋ยวจะว่าเขาว่าจับไม่หมดส่ะป่าว ถ้าทุกคนไม่ยุ้งเกียวจะไม่มี ถ้าช่วยกันไม่ยุ้งเกียวยาเสพติดจะน้อยลง ขอบคุณครับ รักประเทศรักชุดจับกุมมากมายครับ
19 พ.ย. 2561 เวลา 10.57 น.
Buppha a จับแล้วของกลางไปไหนต่อค่ะ..สงสัย
19 พ.ย. 2561 เวลา 07.52 น.
ดูทั้งหมด