หลังจากที่ผ่านแดดผ่านฝนกันมานาน ในที่สุดกรมอุตุนิยมวิทยาก็ได้ออกมาประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ถือว่าเดินทางเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วอย่างเต็มตัว
แต่ถึงอากาศจะยังไม่ค่อยหนาวเย็นเท่าไรนัก ช่วงรอยต่อระหว่างฤดูกาลนี่แหละที่ทำให้หลายคนต้องเจ็บไข้ได้ป่วย เพราะการเปลี่ยนแปลงของอากาศที่ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน
M.O.M จึงรวบรวมโรคที่เด็กๆ มักเจ็บป่วยกันในช่วงฤดูหนาว เพื่อเป็นข้อมูลให้คุณพ่อคุณแม่ได้เตรียมตัวป้องกันและดูแลสุขภาพเจ้าตัวน้อยในหน้าหนาวนี้ไปด้วยกัน
1. โรคไข้หวัด
เกิดจาก: โรคไข้หวัดเกิดจากเชื้อไวรัสหลากหลายสายพันธุ์ แต่เชื้อที่ทำให้เป็นโรคนี้มากที่สุดคือเชื้อไรโนไวรัส เด็กมักจะได้รับเชื้อมาจากไวรัสที่แพร่กระจายอยู่ในอากาศ หรือจากการได้รับละอองจากการไอจามของคนป่วยเข้าสู่ร่างกาย
อาการ: จะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้เล็กน้อยหรือไม่มีก็ได้แล้วแต่ความรุนแรงของโรคและความต้านทานของร่างกาย เด็กจะรู้สึกคันคอ มีอาการคัดจมูก มีนํ้ามูกใส ทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวก มีอาการไอแห้งหรือไอมีเสมหะเล็กน้อย จาม ปวดศีรษะ แต่อาการจะหายไปภายใน 7 วัน
วิธีป้องกัน: พยายามไม่คลุกคลีอยู่กับคนที่เป็นไข้หวัด หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่เต็มไปด้วยคนจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล หรือตลาดสด และต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
2. โรคไข้หวัดใหญ่
เกิดจาก: โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus) และร่างกายได้รับเชื้อจากการหายใจ หรือสัมผัสละอองจากการไอ จามของผู้ที่มีเชื้อ
อาการ: มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อมาก ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร มีน้ำมูกใส ไอแห้ง และในเด็กอาจพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วงได้มากกว่าผู้ใหญ่ สามารถหายเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์
วิธีป้องกัน: ให้หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่และพยายามอยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเท ไม่แออัดไปด้วยผู้คน พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอยู่เสมอ ดูแลร่างกายให้อบอุ่น สวมใส่เสื้อกันหนาว ไม่อาบน้ำเย็นหรืออาบน้ำดึก
ปัจจุบันโรคไข้หวัดใหญ่สามารถป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนให้เด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป
3. โรคปอดบวม
เกิดจาก: โรคนี้เกิดจากปอดติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา จากการสูดหายใจเอาอากาศที่มีเชื้อปนอยู่หรือสำลักเชื้อจากทางเดินหายใจส่วนบนลงสู่ปอด เช่น สำลักน้ำลาย อาหาร หรือสารคัดหลั่งในทางเดินอาหาร ถ้ายิ่งร่างกายอ่อนแอหรือกำลังป่วย ยิ่งเสี่ยงให้เกิดโรคปอดบวม
อาการ: พอปอดติดเชื้อ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะส่งเม็ดเลือดขาวมาที่เซลล์ปอด เพื่อทำลายเชื้อโรค เลยทำให้เซลล์ปอดบวมใหญ่ขึ้น พอเชื้อโรคถูกทำลายแล้ว ก็เกิดหนองหรือของเหลวท่วมขังอยู่ภายในถุงลมปอด ทำให้เกิดอาการไอ หายใจลำบาก และหอบเหนื่อย
วิธีป้องกัน: ไม่ให้เด็กอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศเปียกชื้นเป็นเวลานาน พยายามทำตัวให้อบอุ่น สวมใส่เสื้อกันหนาว นอนห่มผ้าเสมอ ไม่ออกมาตากน้ำค้าง นอกจากนี้ไม่ควรให้เด็กน้อยกว่า 1 ปีใกล้ชิดกับผู้ป่วยปอดบวม
4. โรคอีสุกอีใส
เกิดจาก: โรคอีสุกอีใสเกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลา (Varicella Virus) เป็นเชื้อกันที่ทำให้เกิดงูสวัด ติดต่อกันผ่านการสัมผัสตุ่มน้ำหรือสัมผัสของใช้ที่เปื้อนตุ่มน้ำ เช่น ติดต่อผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม ที่นอน หรือสูดหายใจเอาละอองตุ่มน้ำผ่านเข้าทางจมูก
อาการ: เชื้อจะใช้ระยะฟักตัวในร่างกาย 10-20 วัน ถึงจะแสดงอาการเจ็บป่วยให้เห็น เริ่มมีไข้ อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ หลังจากนั้นมีผื่นแดงขึ้น แล้วเปลี่ยนเป็นตุ่มน้ำใสและคัน จะขึ้นเต็มตัวภายใน 4 วัน แล้วจะเป็นตุ่มหนอง แตกและตกสะเก็ดภายใน 1 สัปดาห์
วิธีป้องกัน: ไม่ควรให้เด็กอยู่ใกล้กับผู้ป่วยและหลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกับผู้ป่วย พยายามออกกำลังกาย กินอาหารให้ครบห้าหมู่ นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
เด็กที่ไม่เคยเป็นมาก่อนสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป และฉีดกระตุ้นซ้ำได้อีกครั้งตอนอายุ 4-6 ปี
5. โรคหัด
เกิดจาก: โรคหัดเกิดจากการที่ร่างกายได้รับเชื่อ เชื้อไวรัสรูบิโอลา (Rubeola virus) พบในน้ำลายผู้ป่วยโรคหัด โรคนี้ติดต่อได้ง่ายและรวดเร็วมากผ่านการไอ จาม หายใจรดกัน ใช้สิ่งของร่วมกัน
อาการ: เมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายประมาณ 7 วัน จะเริ่มมีอาการคล้ายหวัด มีไข้สูง 3-4 วัน กินยาลดไข้อย่างไรไข้ก็ไม่ลด แล้วหลังจากนั้นมีผื่นลักษณะจุดแดงๆ เท่าหัวเข็มหมุด ผื่นจะเริ่มขึ้นตามตีนผมและซอกคอ แล้วค่อยลามๆ เป็นยังบริเวณอื่น ผื่นจะใช้เวลาจางไป 2-3 วันนับจากวันแรกที่ผื่นขึ้น เปลี่ยนจากจุดสีแดงเป็นสีคล้ำ
วิธีป้องกัน: ฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ให้เด็กอายุ 9-12 เดือน ฉีดเพียงครั้งเดียวก็สามารถป้องกันโรคหัดได้ตลอดชีวิต และสามารถฉีดเพื่อกระตุ้นภูมิต้านทานได้อีกครั้งตอนอายุ 4-6 ปี
6. โรคหัดเยอรมัน
เกิดจาก: โรคหัดเยอรมันเกิดจากเชื้อไวรัสรูเบลล่า (Rubella Virus) พบตามสถานที่สถานที่เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก
อาการ: เด็กจะมีต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณหลังหู ท้ายทอย แล้วจะมีไข้ รู้สึกปวดหัว พอวันที่สาม เริ่มมีผื่นแบนราบ ออกสีแดงชมพูจางๆ ขึ้นที่ใบหน้าแล้วลามไปทั่วตัวภายใน 24 ชั่วโมง แล้วจะหายไปเหมือนไม่เคยมีผื่นขึ้นมาก่อน
ในเด็กบางคนอาจจะมีแค่ผื่นขึ้นแต่ไม่มีไข้หรืออาการอย่างอื่นมาเป็นสัญญาณเตือนมาก่อนเลย
วิธีป้องกัน: เด็กๆ สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน โดยเข็มแรกตอนอายุ 12-15 เดือนและเข็มต่อมาตอนอายุ 4-6 ขวบ
โรคนี้มักพบการระบาดในแหล่งที่มีผู้คนจำนวนมาก เช่น โรงเรียน และติดเชื้อทางอากาศได้ ผ่านการสัมผัสละอองเชื้อโรคจากการไอ จามหรือสัมผัสน้ำมูกของผู้ติดเชื้อ หากไปสถานที่แออัด แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันให้กับเด็กและเตือนให้เด็กล้างมือบ่อยๆ
7. โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน
เกิดจาก: เด็กกินอาหารและดื่มน้ำที่มีเชื้อโรต้าไวรัส (Rotavirus) โนโรไวรัส (Norovirus) ซาโปรไวรัส (Sapovirus) อะดีโนไวรัส (Adenovirus) แอสโปรไวรัส (Asprovirus) จนเกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง ยิ่งโรต้าไวรัส เป็นเชื้อเข้าสู่ร่างกายทางปาก แล้วลงไปที่กระเพาะอาหาร และแบ่งตัวที่ลำไส้ เด็กที่ติดเชื้อ นอกจากสูญเสียน้ำ แล้วยังสูญเสียสารสำคัญที่ช่วยลำไส้ดูดซึมอาหาร เด็กอายุ 1-3 ปี ที่ติดเชื้อโรต้าไวรัสอาจเสียชีวิตได้
อาการ: จะมีไข้และอาเจียนร่วมกัน และท้องเสียอย่างรุนแรง แต่จะหายไป 3-7 วัน หากท้องเสียโดยถ่ายเหลวเป็นระยะ 1-2 วัน มีกลิ่นเหม็นเน่า หรือพบอุจจาระเป็นมูกแต่ไม่มีเลือดปนประมาณ 5-7 วัน อาจเป็นโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันจากโรต้าไวรัส
วิธีป้องกัน: ดูแลเรื่องอาหารการกินของเด็ก ให้กินอาหารปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำสะอาด ถ่ายอุจจาระในที่ที่ถูกสุขลักษณะล้างมือหลังขับถ่ายทุกครั้ง รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของเล่นเด็กอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับเด็กอายุก่อน 4 ปีสามารถฉีดวัคซีนเพื่อช่วยลดเกิดโรคอุจจาระร่วงรุนแรงได้
อ้างอิง
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10
สำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส)
สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
JARUPAK 3125🎉 กรุงเทพหนาวมาก เหงื่อหยดร่องตูดเลย!
21 ต.ค. 2562 เวลา 13.47 น.
€¥£ ที่ควรป้องกัน คือ ผิวแห้ง เกิดจากการอาบน้ำอุ่นด้วย ชะล้างน้ำมันจากผิว อาจผิวแห้งแตก จะเป็นสะเก็ด คัน เกาจนเป็นแผลได้
หากอาบน้ำอุ่นจัดๆ ควรทาโลชั่น ออยล์ เพื่อถนอมผิวป้องกันไว้
21 ต.ค. 2562 เวลา 13.46 น.
eka หนาวครับ แค่ 39 องศาเอง
21 ต.ค. 2562 เวลา 13.37 น.
madroid 🦄 มันจะหนาว จริงๆ ดิ
21 ต.ค. 2562 เวลา 13.59 น.
ดูทั้งหมด