ความรักและความสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องที่ไร้พรมแดนทางเพศ หากคนสองคนมีความรักต่อกันก็ไม่จำเป็นต้องสนใจเพศสภาพ ความสัมพันธ์ของ LGBTQ นั้นอยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่แรก และเป็นเรื่องที่ได้รับการกล่าวขานในศิลปวัฒนธรรมทุกแขนงทั่วโลก เช่นเดียวกับวรรณคดีไทยที่สอดแทรกความรักและความสัมพันธ์ของ LGBTQ มาโดยตลอด
อิลราชคำฉันท์
อิลราชคำฉันท์ทำให้ภาพยนตร์ในสมัยนี้ที่ตัวละครพระเอก-นางเอกสลับเพศกันนั้นดูซอฟท์ไปถนัดตาเลย เพราะอิลราชคำฉันท์เป็นเรื่องราวของกษัตริย์ชายชาตินักรบที่มีพระนามว่า “ท้าวอิลราช” ยามปกติพระองค์ก็เป็นเฉกเช่นชายหนุ่มร่างกายกำยำทั่วไป ถ้าไม่เกิดเรื่องเสียก่อน เพราะพระองค์และเหล่าทหารคู่ใจได้รุกล้ำเข้าไปในเขตเขาไกรลาศ ยามที่พระอิศวรและพระอุมา มหาเทพสามีภรรยาผู้ยิ่งใหญ่กำลังพลอดรักกันอยู่นั่นเอง การรุกล้ำเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้พระองค์ถูกสาปให้กลายเป็นผู้หญิงในทันที โชคยังดีที่พระอุมาทรงเมตตา ประทานพรให้ไม่ต้องเป็นผู้หญิงไปทั้งชีวิต แต่ต้องสลับกันโดยเป็นผู้ชายเดือนนึง และสลับเป็นผู้หญิงในเดือนต่อมา สลับกันไปเรื่อยๆ แล้วตัวตนทั้งสองจะจำเรื่องราวตอนเป็นอีกเพศไม่ได้ด้วย ท้าวอิลราชจึงต้องทรงทำใจ โดยในระหว่างที่เป็นผู้หญิง พระองค์จะมีพระนามว่า “นางอิลา”
อยู่มาวันหนึ่งขณะที่นางอิลากำลังลงสรง (อาบน้ำ) นักพรตหนุ่มนามว่า “พระพุธ” มาเห็นจึงชอบพอกันจนมีลูกนามว่า “ปุรุรพ” ในความเป็นจริงนั้นพระพุธรู้ตั้งแต่ต้นว่านางอิลาแท้จริงนั้นเป็นผู้ชาย แต่แม้จะรู้เช่นนี้พระพุธก็ยังคงรักนางอิลาโดยไม่สนใจเพศกำเนิดใดๆ แม้สุดท้ายพระพุธจะช่วยให้นางอิลากลับมาเป็นท้าวอิลราชดังเดิมก็ตาม แต่อิลราชคำฉันท์ก็ถือเป็นวรรณคดีไทยที่แสดงออกถึงความรักแบบไร้พรมแดนทางเพศสภาพได้ชัดเจนที่สุด
อิเหนา
พระเอกสุดหล่อผู้เป็นกษัตริย์เหมือนท้าวอิลราชนั้น มีชื่อเสียงเฉกเช่นเดียวกับพระเอกวรรณคดีไทยคนอื่นๆ คือความเจ้าชู้ และชอบแจกจ่ายความรักให้กับสาวงามทั่วราชอาณาจักร แต่ความเจ้าชู้ของอิเหนาไม่ได้จำกัดแค่เพศหญิงอย่างเดียว เพราะยังเผื่อแผ่มาให้ผู้ชายอีกด้วย และไม่ใช่ผู้ชายเพียงคนเดียว แต่ถึง 2 คน!!! ผู้ชายคนแรกคือหนุ่มน้อยหน้าหวานรูปร่างบอบบางอย่าง “สังคามาระตา” น้องชายของมาหยารัศมี พระชายาคนสวยแสนเรียบร้อยของอิเหนา ทั้งมาหยารัศมีและสังคามาระตาถูกนำมาถวายให้กับอิเหนา โดยมาหยารัศมีถูกถวายให้เป็นพระชายา แต่ในตอนแรกอิเหนายังไม่สามารถเข้าหามาหยารัศมีได้ในทันที จึงทำให้เขาต้องนำสังคามาระตาไปนอนกอดด้วยในค่ำคืนนึง เพราะสังคามาระตานั้นมีหน้าตาที่สวยงามคล้ายคลึงกับพี่สาวมาก ทำให้อิเหนาถึงกับเคลิ้มเลยทีเดียว และที่สำคัญไม่ใช่นอนกอดอย่างเดียว แต่ยังถึงขั้นจุมพิตให้สาววายฟินกันไปเลย
ดูท่าว่าอิเหนาจะเอ็นดูบรรดาน้องชายของพระชายาตนเองมากทีเดียว เพราะอิเหนายังชื่นชอบในตัว “สียะตรา” น้องชายบุษบา พระชายาอีกองค์หนึ่งของพระองค์อย่างมากอีกด้วย บุษบานั้นคือพระชายาที่อิเหนารักมากที่สุด เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่อิเหนาจะชื่นชอบในตัวสียะตราด้วย และอิเหนาของเราก็ทำสเต็ปเดิม ด้วยการนำน้องสียะตราไปนอนกอดจูบด้วยในค่ำคืนที่ตัวเองและนางบุษบายังงอน ไม่ยอมพูดจากัน
ลักษณวงศ์
อีกผลงานหนึ่งของกวีชื่อดังแห่งกรุงรัตนโกสินทร์อย่าง สุนทรภู่ ซึ่งในเรื่องกล่าวถึงพระเอกอย่าง “ลักษณวงศ์” ซึ่งเป็นพระโอรสกษัตริย์รูปงาม แต่ชะตาชีวิตช่างยากลำบาก เพราะโดนพระบิดาของพระองค์ขับออกจากเมืองตั้งแต่ยังเล็ก จนต้องไปอาศัยอยู่กับพระฤาษีกลางป่า ซึ่งเลี้ยงดูพระองค์มาพร้อมกับหญิงงามนามว่า นางทิพเกสร ทั้งคู่รักใคร่ชอบพอกันแต่โชคชะตาก็มีอันให้ต้องพลัดพรากจากไปคนละทาง พระลักษณวงศ์มีเหตุให้ต้องไปช่วยพระมารดาซึ่งถูกยักษ์จับไป และในระหว่างทาง พระเอกสุดหล่อของเราก็ไปหลงรักนางยี่สุ่น พระธิดาเจ้าเมืองหนึ่งจนลืมนางเอกของเราอย่างนางทิพเกสรไปจนสิ้น
ฝ่ายนางทิพเกสรก็เฝ้ารอพระลักษณวงศ์วันแล้ววันเล่า จนพระฤาษีที่ดูแลทั้งคู่ตั้งแต่เล็กมาตายไป นางทิพเกสรไม่มีที่พึ่งจนต้องระหกระเหินกลางป่าจนเทวดาสงสารมามอบแหวนวิเศษให้รักษาตัว เมื่อสวมแหวนนี้นางทิพเกสรจะกลายร่างเป็นพราหมณ์หนุ่มไม่มีใครทำร้ายได้ และจะกลับร่างเดิมเมื่อถอดแหวนออก นางทิพเกสรในร่างพราหมณ์หนุ่มได้เดินทางออกตามหาพระลักษณวงศ์จนเจอ พระลักษณวงศ์เห็นพราหมณ์หนุ่มมีหน้าตารูปร่างคล้ายนางทิพเกสรจึงหลงรัก และลืมนางยี่สุ่นและนางสนมต่างๆซึ่งเป็นผู้หญิงจนหมดสิ้น จนนางยี่สุ่นอิจฉาจึงใส่ร้ายพราหมณ์หนุ่มจนถูกประหาร เมื่อเพชฌฆาตลงดาบ เวทมนต์จากแหวนวิเศษหมดสิ้น พราหมณ์หนุ่มจึงกลายเป็นนางทิพเกสรเหมือนเดิม สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้พระลักษณวงศ์เป็นอย่างมาก
การเล่นเพื่อน
“การเล่นเพื่อน” เป็นคำไทยโบราณหมายถึง “เลสเบี้ยน” ซึ่งเป็นเรื่องที่รับรู้กันเป็นอย่างดีในสังคมสมัยนั้น โดยเฉพาะสังคมปิดที่มีแต่ผู้หญิง เช่นในเขตพระราชฐานชั้นใน ซึ่งการเล่นเพื่อนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วไป แม้ในสมัยนั้นจะยังไม่ยอมรับกันนัก โดยกวีชื่อดังอย่างสุนทรภู่ได้บรรยายลักษณะการเล่นเพื่อนไว้ในเรื่อง “พระอภัยมณี” โดยกล่าวถึงเมืองรมจักร ที่ปกครองโดยท้าวทศวงศ์ซึ่งพระองค์ได้ทรงอนุญาตให้ชาวเมืองสามารถรักและครองคู่กันได้อิสระตามเพศสภาพตนเอง จึงทำให้การเล่นเพื่อนเป็นเรื่องปกติของเมืองนี้ ซึ่งสุนทรภู่เขียนถึงเมืองนี้เอาไว้ว่า ผู้หญิงเมืองรมจักร คบหากันเองเหมือนคู่รักชาย-หญิงทั่วไป มีทั้งรักแบบวัยรุ่น รักแบบร้อนแรง และรักแท้ที่ยามมีภัย เมืองโดนข้าศึกโจมตี คู่รักแห่งเมืองรมจักรก็ปกป้องคุ้มครองกันเป็นอย่างดี แต่แม้กระนั้นสุนทรภู่ก็อดตัดพ้อแม่ม่ายคนหนึ่งที่ตนเคยมีความสัมพันธ์ และห่างเหินไปมีเพื่อนหญิงคนสนิทไม่ได้ โดยเปรียบเปรยความสัมพันธ์แบบเล่นเพื่อนของแม่ม่ายสาวคนนั้นว่า “หลงเพื่อนเหมือนเคี้ยวข้าวเหนียวลาว”
การเล่นเพื่อนในวรรรณคดีว่าแซ่บแล้ว ในประวัติศาสตร์จริงยิ่งมีสีสันกว่า เช่นเรื่องของคุณโม่งและหม่อมเป็ด คู่รักเลสเบี้ยนซึ่งทั้งคู่เป็นนางในของกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ (พระราชธิดาในร.3) ครั้งหนึ่งทั้งสองแอบกอดจูบกันอย่างร้อนแรงที่ปลายแท่นบรรทมของกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ เพราะคิดว่าทรงบรรทมไปแล้ว แต่พระองค์ก็ไม่ได้ทรงกริ้วแถมยังเอ็นดูความรักของทั้งสองอีกด้วย
แต่การเล่นเพื่อนในเขตพระราชฐานชั้นในอีกเรื่องราวหนึ่งกลับจบแบบโศกนาฏกรรม นั่นคือเรื่องราวของเจ้าหญิงยวงแก้ว พระธิดาแห่งราชวงศ์เชียงตุง ซึ่งเป็นนางในในพระราชชายา เจ้าดารารัศมี (พระชายาในร.5) เจ้าหญิงยวงแก้วทรงมีความรักกับหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพ แต่ความรักของเจ้าหญิงยวงแก้วกลับกลายเป็นรักสามเส้า เพราะผู้หญิงอีกคนของหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพปล่อยข่าวลือใส่ร้ายว่าเจ้าหญิงยวงแก้วนำทรัพย์สมบัติที่ได้รับพระราชทานจากพระราชชายา เจ้าดารารัศมีมาปรนเปรอหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพจนหมด เจ้าหญิงยวงแก้วเสียพระทัยกับข่าวลือที่แพร่สะพัดบวกกับต้องการแสดงความบริสุทธิ์ของพระองค์เอง จึงทรงกระโดดตึก 4 ชั้นลงมาจนสิ้นพระชนม์
•_<•>S•u•t•e•p<•>_• สำหรับผมเมื่อก่อนเกลียดพวกนี้มากนะ แต่พอโตขึ้นผมรับได้ กับ พวกคุณ พวกคุณเองก็คน คุณเลือกไม่ได้ว่าจะเป็นแบบนี้ผมสงสารพวกคุณมากกว่าที่เลือกเกิดไม่ได้ ยกเว้น พวก กรี๊ดกร๊าด โวยวาย พวกนี้ก็เกินไป
01 ก.ย 2563 เวลา 03.46 น.
wutti50 ธรรมดา...ไม่แปลก..
แค่อย่าทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ
01 ก.ย 2563 เวลา 07.54 น.
บรรยายได้ดี อ่านแล้วเพลิดเพลินได้ความรู้
01 ก.ย 2563 เวลา 06.08 น.
PatchyDolly คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ทุกเพศสภาพคือคนเหมือนกัน และไม่ว่าจะเพศใด ถ้าเป็นคนดีก็สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างปกติสุขแล้ว
01 ก.ย 2563 เวลา 11.55 น.
Mr.A 687,898 อ่านแล้วเพลิดเพลินมาก...
01 ก.ย 2563 เวลา 05.02 น.
ดูทั้งหมด