หนุ่มบีเอ็ม แจงชนร.ต.ท. ซัดโดนหาเรื่องก่อน ลั่นชนแล้วต้องหนี เมียตร.แฉหนังคนละม้วน
หนุ่มบีเอ็ม / จากกรณีที่โลกโซเชียลได้แชร์คลิป รถเก๋ง BMW สีขาว ขับออกมาจากช่องจ่ายเงิน บริเวณด่านเก็บเงินธัญบุรี ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี มีชายอีกคนเกาะอยู่ที่ฝากระโปรงรถ ก่อนคนขับรถบีเอ็มจะสะบัดจนคนกระเด็นไปกองกับพื้น แล้วขับหนีไป ต่อมาทราบชื่อผู้บาดเจ็บ “ร.ต.ท. จิตต์เกษม จันทร์รัก” ผู้บังคับหมวด สบ. 1 กองร้อยที่ 2 กองกำกับการอารักขา 1 กองบัญชาการอารักขาควบคุมฝูงชน ส่วนคู่กรณีคือ “นายเอกราช ชูใหม่” ซึ่งได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว
ล่าสุดรายการโหนกระแสวันที่ 19 ก.ค. โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัดออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.45 – 14.25 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ คุณเอกราช ชูใหม่ หนุ่มขับรถบีเอ็มในคลิปดังกล่าว มาพร้อม “เดชา กิตติวิทยานันท์” และวิดีโอคอลหา “คุณไอณดา ฟื้นชมภู” ภรรยา ร.ต.ท.จิตต์เกษม ผู้เสียหาย
คุณไปชนเขาทำไม?
เอกราช : “มีปัญหาก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะเข้าถึงด่านธัญบุรี น่าจะอยู่ช่วงกิโลที่ 20 กว่าๆ เราเจอคู่กรณีตอนกิโลเมตรที่ 5 วันนั้นเป็นที่ 16 น่าจะเป็นวันเข้าพรรษา ผมไปทอดผ้าป่าอยุธยา กำลังกลับเข้ากรุงเทพฯ วิ่งมาเส้น 32 ปกติ และเข้ามอเตอร์เวย์บางปะอิน มุ่งเข้ากรุงเทพฯ ขับมาเรื่อยๆ ตามปกติ 110-120 อยู่เลนขวาบ้าง กลางบ้าง แซงบ้าง ไม่ได้ขับเร็ว พอมาเจอคู่กรณี เห็นรถไกลๆ แล้ว”
เขาขับรถอะไร?
เอกราช : “ฟอร์ดเฟียสต้า ถ้าจำไม่ผิด เขาขับแช่อยู่เลนขวาค่อนข้างนาน ผมก็ตามเขา จนมาถึงทันกัน มีรถวิ่งแซงเขาไปเรื่อยๆ เขาอยู่เลนขวาสุด ผมก็ตามเขาจนอยู่ขวาสุด ตามซ้ายมาเรื่อยๆ ไม่มีจังหวะแซง ผมคิดว่าเขาขับช้า คิดว่าจะลง ผมไม่ได้บีบแตร”
ขับตามมา คุณก็คิดว่าเขาจะออกซ้าย คุณจะได้แซง แล้วปรากฏว่า?
เอกราช : “เขาไม่ยอมลง ผมไม่ได้บีบแตรใส่เขา ไม่ได้เปิดไฟสูงใส่เขา ก็แซงขวา ไปแซงซ้ายปกติ แล้วก็ขึ้นมา”
คุณเหมือนปาดหน้าเขาหรือเปล่า?
เอกราช : “ไม่ถึงกับปาดหน้า เราทิ้งระยะห่าง แต่ก็เข้าเลนขวา นำหน้าเขา แล้วเขาไม่พอใจเลย เหยียบรถขึ้นมาอยู่ข้างหน้า ปาดเลย แล้วก็เบรกใส่ ความเร็วรถก็เหลือ 80-90”
คุณรู้สึกเขาไม่พอใจ?
เอกราช : “ใช่ เขาเบรกกะให้ชน ผมก็ทิ้งเวลาไประมาณ 1 นาทีครึ่งโดยประมาณ สักพักนึงเขาไม่ยอมไป ผมก็คิดว่าจะแซง จะหนีแล้ว พอผมจะขับแซงเขาไม่ให้แซง พอผมออกอีกทางก็ปิด ปิดอยู่อย่างนี้หลายกิโล จนผมเห็นช่องว่าง ผมก็เลยเหยียบแซงขึ้นมาได้ เหยียบประมาณ 150 พยายามหนี แต่ก่อนเหยียบขึ้นไป 150 ผมก็ไม่พอใจเหมือนกัน เพราะผมพยายามปล่อยเขาไปแล้ว”
พอปาดหน้ามาได้ก็จึ้กๆ เหมือนกัน?
เอกราช : “ใช่ ก็จึกๆ สองสามทีเหมือนกัน แล้วเหยียบรถไปเลย 140-150 เขาก็เหยียบมาอีก แล้วมาชนท้ายรถผมฝั่งขวา”
คุณขับบีเอ็ม เขาขับฟอร์ด เขาตามคุณทันเหรอ?
เอกราช : “ผมไม่ได้เหยียบทีเดียวให้สุดไปเลย ผมค่อยๆ ไต่ระดับไป 150 เหยียบให้หนีไปพ้นๆ แล้วเขาก็เร่งเครื่องมาชนท้ายผมด้านขวา ผมก็รู้สึกได้เลย รถกระเด้ง”
รถบีเอ็มแข็งแรง รถคู่กรณี ไปชนท้าย รถเขาไม่ปัดทิ้งเหรอ ถ้าชนแบบนั้นรถเขาไม่กระเด็นเหรอ?
เอกราช : “ไม่ๆ ต่างคนต่างเร็วกันทั้งคู่ ผมเหยียบ 140 เขาก็เหยียบระมาณนี้เพื่อเบียดชนผมให้ผมหยุด สงสัยในใจเพราะเขาไม่ได้ชนปึ้งให้กระเด็น ค่อยๆ ให้มันชน หลังจากนั้นผมตั้งข้อสังเกตว่าเขาพร้อมมีเรื่อง พร้อมมีปัญหา ผมก็ขับหนีเลย ประมาณ 160-170 เขาเห็นว่าตามผมไม่ทัน เขาเลยลดกระจกลงมา”
คุณเห็นเขาลดกระจก?
เอกราช : “ใช่ครับ ผมมองจากกระจกมองหลังว่าเขายังตามมาหรือเปล่า รถเขาตามหลังกันมา ผมเห็นเขาลดกระจกลงมา แล้วก็โบกมือ ในมือกำอะไรอยู่ไม่รู้”
คุณคิดว่าอะไร?
เอกราช : “ถ้าเขากล้าที่จะมาชนท้ายผมขนาดนั้น แสดงว่าเขามั่นใจว่าเขาต้องมีอาวุธอะไรที่ทำให้คนกลัวได้ แล้วเขากล้าเรียกผมให้จอดด้วยวิธีแบบนั้น”
ในมุมคุณคิดว่าเป็นอะไร?
เอกราช : “ผมคิดว่าเป็นปืนแน่นอน ถ้าโชว์มีดไม่น่าใช่ ผมอยู่ในรถ ถ้าลงไปเขาก็ทำอะรไม่ได้ ถ้าเป็นไม้เบสบอลก็ต้องยาวใหญ่มาก ผมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นปืน ก็เลยเหยียบหนี มันใกล้ถึงด่านธัญบุรีแล้ว มันมีช่องให้แยกจ่ายเงินด้านขวา จ่ายเงินไปด้านซ้าย แบ่งเลน ก่อนถึงEasy Pass ผมก็เข้าเลนขวา ก็ชิดอยู่ฝั่งด้านซ้าย เขาก็ตามมาติดๆ ก่อนถึงเบอร์ริเออร์กั้น จะมีแท่งเสาส้มๆ กั้นไว้ ผมก็เบรกปุ๊บเพื่อให้เขาไปฝั่งขวา หักซ้ายแยกเข้าอีกที แต่ปรากฎว่าเขาปาดชนที่กั้นที่ส้มกวาดมาเลย ผมเห็นแล้วเขาตามมาแน่นอน ผมเข้าช่องเบอร์ 6”
คุณจำได้ถึงเบอร์?
เอกราช : “ก็ออกข่าว ตอนแรกไม่รู้ช่องอะไร แต่ผมเห็นแล้วเขาตามมา รูดเสากั้น ตอนนั้นผมก็ขับช้าเพราะEasy Pass ต้องชะลอ โดยที่ช่องEasy Pass มีตู้ๆ กั้นอยู่ พอผมออกหัวไม้กั้น เปิดขึ้น ผมก็เหยียบคันเร่งเลย ช่วงเหยียบคันเร่งเขากระโดดออกมา”
คุณจะบอกว่าคุณไม่เห็นเขา?
เอกราช : “ไม่เห็นครับ เพราะตู้บังครับ ผมตกใจมาก คิดว่าเขาถือปืนมาจะทำร้ายผม เพราะผมตั้งข้อสังเกตตั้งแต่เขาเปิดกระจก ก่อนถึงด่านให้ผมหยุดแล้วถืออะไรอยู่ในมือ ผมก็สะบัดเขาลงหลังเขาอยู่บนรถ แล้วขับไปเลย เพราะความกลัว ถ้าเป็นปืนจริง แล้วเขาไม่บาดเจ็บอะไร เขายิงผมแน่ ผมไปเลย พอไปก็โทรแจ้งประกัน และบอกให้นัดตร.ให้หน่อย เพื่อเข้าไปไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ว่าเป็นยังไง”
ฟังอีกมุมนึง คุยกับภรรยาคู่กรณีคุณ สามีคุณไอณดา เล่าอะไรให้ฟังบ้าง?
ไอณดา : “ตามที่เขาให้การเลยค่ะ ขับรถไปปกติ จนมีบีเอ็มเข้ามาเลนขวา ได้กระแทก เลยขับตามกันมา เขาบอกว่ามีเสียงขึ้น รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลยขับตามเพื่อขอเจรจาให้หยุดจอด”
ที่สามีคุณบอกมา คำว่ารถกระแทกกัน คือรถสามีคุณไปกระแทกเขา หรือรถบีเอ็มกระแทกรถสามีคุณ?
ไอณดา : “รถเขาค่ะ บีเอ็มกระแทกรถแฟนค่ะ กระแทกด้านหน้าซ้ายมือค่ะ ตามที่แฟนบอกเลยค่ะ มีเสียดสีมีอะไรกัน”
หลังจากนั้นแฟนคุณยังไงต่อ?
ไอณดา : “ก็ขับตามค่ะ เพื่อเจรจาค่ะ เพื่อขอให้เขาหยุดรถคุยกันค่ะ ซึ่งเขาไม่หยุดค่ะ”
จนถึงจุดเกิดเหตุ อะไรเกิดขึ้น?
ไอณดา : “ก็ตามคลิปเลยค่ะ แฟนจอดเพื่อลงมาโบกมือรถ บริสุทธิ์ใจ ยกมือเพื่อให้ดูว่าไม่ได้มีอะไร ที่เห็นตามคลิป เขาบอกว่าลงไปตั้งใจจอดเพื่อขอคุยกับเขา ให้เขาหยุด แต่เขาไม่ได้หยุด เขาขับรถสวน ความเร็วกระแทกตัวขึ้นกระเด็นไปข้างบน”
แฟนคุณเป็นยังไง?
ไอณดา : “ตอนนี้อยู่ในห้องผ่าตัดยังไม่ออกมาเลยค่ะ ผ่าหัวไหล่ค่ะ แขนหัก หมอแจ้งขาหัก ผ่าแล้วรักษาตามอาการค่ะ แต่เมื่อวานไม่สามารถผ่าได้ ต้องผ่าวันนี้ ซึ่งยังไม่ออกมา เข้าไปตั้งแต่เก้าโมง”
มีเรื่องหัวไหล่ต้องผ่าตัด ส่วนอื่นๆ สมองกระดูกหักมั้ย?
ไอณดา : “มีแขนกับขาค่ะ อย่างอื่นก็มีเย็บจมูก ที่หน้ามีรอยบาดแผล”
แฟนคุณยืนยันว่าเขาขับรถในเลนขวา ถูกรถบีเอ็มขับมาปาดหน้าเข้าเลนขวา แล้วท้ายบีเอ็มขับปัดไปโดนหน้ารถแฟนคุณ เขาเลยขับตามไปถึงที่เกิดเหตุ ?
ไอณดา : “ค่ะ”
เขาเล่าตรงกันข้างกับแฟนคุณเล่า เขากลัวมีปืน?
ไอณดา : “ยกมือให้ขึ้นให้ดูขนาดนั้น ไม่มีอาวุธอะไร แล้วชนคนทั้งคน คลิปก็เห็นอยู่นะ คนขึ้นไปอยู่บนนั้นแล้ว (ร้องไห้) กระเด็นร่วงลงมา คุณยังเหวี่ยงรถ สะบัดให้คนตกลงมา รู้มั้ยเราต้องเจออะไรบ้าง คนเจ็บ คนทั้งคน (ร้องไห้) ถ้าเป็นพี่หนุ่มถามพี่คำนึง พี่ขับรถแล้วรู้สึกว่ารถต้องชนอะไรสักอย่าง พี่หนุ่มจะจอดมั้ย พี่หนุ่มต้องจอดดูบ้าง แต่อันนี้ นอกจากไม่จอดแล้ว ยังสะบัดคนให้ร่วงจากรถอีก (ร้องไห้) หนูว่าไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ยินเสียงเขาสักคำ ถามสักคำมั้ยว่าพี่เขาเป็นยังไงบ้าง เราต้องเจออะไรบ้าง”
ตอนนี้คุณหมอบอกสามีปลอดภัย มีอะไน่าห่วงมั้ย?
ไอณดา : “แขนเขาไม่รู้เป็นอย่างไรบ้าง ผ่านานขนาดนี้ แล้วขาไม่สามารถขยับตัวได้มาก เขาต้องใช้ร่างกายทำงานเขาเป็นคนเดียวหาเงินเข้าบ้าน เขามีแม่ ตา ยาย ต้องเลี้ยงดู กับพี่สาวก็ช่วยกัน แม่ ตายายก็แก่แล้ว ไหนจะต้องมาดูแลหนูก้บลูก หนูไม่ได้ทำงานค่ะ (ร้องไห้)”
ยืนยันว่าวันนั้นไม่มีเรื่องปืนมาเกี่ยวข้อง?
ไอณดา : “เอาชีวิตหนูไปยืนยันได้ ก็เอาไปเหอะ เอาชื่อแฟนหนูไปตรวจดูก็ได้เขาเป็นตำรวจ แล้วมีชื่อซื้อปืนหรือเปล่าเ อาไปตรวจดูเลย”
อยากเรียกร้องความเป็นธรรมยังไง?
ไอณดา : “ตอนนี้หนูเรียกร้องอะไรไป แค่ได้ยินเสียง ให้มาถามเราบ้างยังไม่มีเลย อันอื่นก็ให้เป็นไปตามกฎหมย หนูเชื่อมั่นว่าเขาต้องให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวเรา (ร้องไห้)”
ฟังแล้วรู้สึกยังไง?
เอกราช : “จริงๆ เหตุการณ์นี้ก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ต้องมานั่งเป็นเรื่องเป็นราว ต้องขึ้นโรงพัก ต้องมาเห็นคนติดหน้ากระจกรถ แต่ด้วยความที่เราหวาดกลัว เราตั้งข้อสังเกตไว้แบบนั้นเราก็เลยต้องเอาชีวิตเราให้รอดก่อน”
เจ้าตัวเขาบอกว่าเขาขับรถมาเลนขวา คุณขับตามมา คุณปาดหน้าแล้วตบขวาไปหาเขา ท้ายรถคุณเบียดกัน คุณก็ไป เขาก็เลยตามคุณไปเพื่อให้เคลียร์?
เอกราช : “ผมตั้งข้อสังเกตว่าการที่เขาปาดหน้าผมเพื่อให้เคลียร์ ทำไมต้องเบรกจึ้กๆ ให้ผมชน ตอนนี้ตำรวจกำลังเอาหลักฐานทั้งหมดทุกช่วงที่มี มาประกอบสำนวน”
ไม่ใช่คุณไปปาดหน้าแล้วกระแทก?
เอกราช : “แล้วผมตั้งข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่าเพิ่งรู้เมื่อกี้ เอารถคู่กรณีมาตรวจสภาพทั้งสองคัน รถเขาก็มีประกันชั้นหนึ่ง ถ้าผมเบียดเขาจริง เขาเป็นตำรวจ ก็แค่จดหมายเลขทะเบียนรถผม ส่งให้ประกัน ผมมารู้ทีหลัง”
คุณได้ติดต่อเขามั้ย?
เอกราช : “เมื่อวานผมไปพบเจ้าหน้าที่ตร.ตาม ที่นัดหมายไว้ ผมบอกว่าผมยินดีพร้อมเคลียร์ พร้อมเจรจา พร้อมเยียวยา แต่ต้องพูดหลักการความจริงที่เกิดขึ้นให้ตรงกันก่อน ถ้ายังไม่ตรงจะไปช่วยไปเจรจาก็ลำบาก”
จะไปเยี่ยมเขามั้ย?
เอกราช : “ใจผมจะส่งกระเช้าไปเยี่ยมพรุ่งนี้ แต่ก็ต้องรอดูท่าทีเขา หลังส่งกระเช้าไปแล้ว เขาอยากเจรจา อยากคุยมั้ย ผมยินดีให้ความช่วยเหลือเขาอยู่แล้ว ไม่ได้ใจจืดใจดำให้ไปต่อสู้คดีกันนะ”
พี่เดชาว่าไง?
เดชา : “ดูแล้วพอกัน เขาก็ไม่ยอม ตร.ก็ไม่ยอม แล้วอันนึงขับรถแช่วิ่งขวาก็ผิดกฎหมาย ลักษณะข้อเท็จจริงคือต่างคนต่างไม่ยอม ถ้าจะมีเรื่องอ้างป้องกันไม่ได้ เป็นเรื่องสมัครใจ”
อันนี้ประมาทร่วมเหรอ?
เอกราช : “ประมาทร่วมครับ”
เดชา : “ฟังกลางๆ ก็พอกัน นี่ก็ไม่ยอม ฝั่งโน้นก็ไม่ยอม”
แต่อีกฝั่งเขาเจ็บไง?
เดชา : “ก็นั่นน่ะสิ นี่คือจุดที่ตามมา แล้วถ้าดูจากกล้องวงจรปิด ก็ไม่ได้ชัดถึงขนาดเจตนาจะฆ่าหรือทำร้ายนะ เพราะมันเร็วมาก ต้องไปดูว่าเขาสามารถเห็นล่วงหน้ามั้ย ถ้าเห็นแล้วชน ก็จะโดนข้อหาพยายามฆ่าหรือทำร้ายร่างกายก็ว่ากันไป ถึงขนาดเจตนาหรือไม่ยังสรุปไม่ได้ ต้องไปหาหลักฐานมาวินิจฉัยประกอบ”
เป็นวินาทีวัดใจ ตร.ก็เดินพุ่งลงไปคิดว่าคุณก็หยุด แต่คุณไม่หยุด?
เดชา : “จะไปมองว่าเจตนาหรือประมาทก็ยังไม่ชัด”
เหมือนเขาถืออะไรมามั้ย?
เดชา : “ถ้ามีอะไรก็อาจกลัวได้ ก็เป็นไปได้ หนึ่งดูวงจรปิด สองดูพยานคนกลาง”
ขยายดูแล้ว เขาถือโทรศัพท์มือถือ?
เดชา : “ก็ไม่ใช่ปืนแล้ว”
อันนี้หรือเปล่าที่คุณคิดว่าเป็นปืน?
เอกราช : “ตอนช่วงชนผมไม่ได้สังเกตแล้ว มันเร็วมากครับ แป๊บเดียวก็ขึ้นไปฝากระโปรงแล้ว ไม่เห็นแล้ว”
อย่างนี้ทำยังไง?
เดชา : “ก็ไม่ใช่อาวุธปืน แต่ทางนี้อ้างเรื่องตกใจก็พอฟังได้ แต่ก็ต้องไปสู้กัน มีพยานคนกลาง ก็ต้องดูกล้องวงจรปิดอย่างเดียว ฟังสองคนนี้พูดไม่น่าเชื่อถือหรอกเพราะเขาทะเลาะกัน”
เรื่องนี้คุณจะต่อสู้ถึงที่สุด?
เอกราช : “ก็ต่อสู้ถ้าความจริงไม่ตรงกันอยู่ แต่ถ้าความจริงตรงกัน ให้ผมช่วยเหลือตรงไหนผมก็ยินดี เพราะรถผมทำประกันชั้น 1 อยู่แล้ว”
ทำอาชีพอะไร?
เอกราช : “เปิดบริษัทแม่บ้าน คนสวน รปภ.”
ไม่ได้เป็นเสี่ยนะ?
เอกราช : “ไม่ใช่ครับ คนเรามีเงินถึงผ่อนได้ก็ผ่อนไป”
อ่านข่าว มอบตัวแล้ว หนุ่มขับ บีเอ็มขับชนตำรวจ หน้าด่านเก็บเงิน เปิดใจเล่าอีกมุม
A ยังไงมึงก็ชนคนรู้ไว้ด้วย
19 ก.ค. 2562 เวลา 12.04 น.
J รู้จักข้อหาพยายามฆ่าไหม?
19 ก.ค. 2562 เวลา 12.02 น.
ประเด็นคือคุณตั้งใจขับรถชนเค้า ส่วนเรื่องปืนคุณแค่พูดเพื้อให้ตัวเองรอด หน้าตาขี้โกงซะ !!
19 ก.ค. 2562 เวลา 12.07 น.
่kanokbhorn ฟังให้สัมภาษณ์แล้ว
ฟังไม่ขึ้นค่ะ
พูดคำว่ามนุษยธรรม
พูดให้เขาเป็นฝ่ายผิด
แต่ไม่พูดถึงที่ชนเขาเจ็บแล้วหนี
เพราะไม่รู้ว่าเป็นตำรวจ
ยังไงก็เจตนาฆ่าชัดมาก
ยิ่งพูดยิ่งวกวนและขู่กลับอีกต่างหาก
จะฟ้องแพ่ง 400,000 บาท
เอาเงินมากๆ มาขู่จะให้กลัว
ฟังแล้วอ่อนใจ
19 ก.ค. 2562 เวลา 12.10 น.
Loh ตำรวจอย่าเพิ่งไปหาวงจรปิดนะครับยังไม่ได้ลบ เดี๋ยวความจริงถูกเปิดเผย อาจจะมีหนังอีกม้วน
19 ก.ค. 2562 เวลา 12.01 น.
ดูทั้งหมด