ความเครียดเป็นเรื่องใกล้ตัว และไม่มีใครที่ไม่เครียด คนไม่เครียดคือคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเครียด ซึ่งการไม่รู้จักความเครียดเท่ากับการเปิดประตูให้ความเครียดเข้ามาได้ง่าย ๆ
ความเครียด คือสภาวะจิตที่ไม่ปกติ มีความตึง แน่น ไม่สบาย ส่งผลต่อสมองทำให้สมองหลั่งสารความเครียดออกมาส่งมีผลต่อร่างกาย ส่งผลต่อการสร้างภูมิต้านทาน ระบบหายใจ และการทำงานผิดปกติของหัวใจด้วย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าความเครียดจะมีผลกระทบมากขนาดนี้ เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนความเครียดให้เป็นความสุขเพื่อบำบัดร่างกายและจิตใจของเรากันดีกว่า
1. รู้ก่อนว่าตัวเองเครียด
ต้องรู้ก่อนว่าไม่มีใครบนโลกนี้ไม่เครียด ที่เคยคิดว่าไม่เครียดคือเครียดแบบไม่รู้ตัว ไม่ยอมรับว่าเครียด กลายเป็นเคยชินกับความเครียด พอไม่รู้ว่าเครียดก็หลอกตัวเองว่าไม่เครียด เราไม่รู้แต่ร่างกายรู้ ร่างกายก็เจ็บป่วย ระบบต่าง ๆ มีผลทันที และทันทีที่รู้ว่าตัวเองเครียดถึงจะเจอทางออก ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองเครียดก็หาทางออกไม่ได้ วิธีง่าย ๆ ที่จะบอกได้ว่าคุณเครียดหรือไม่คือต้องสังเกตตัวเองบ่อย ๆ สังเกตความรู้สึกตัวเอง ให้เวลากับตัวเองมาก ๆ จะรู้เลยว่าจิตผิดปกติหรือไม่ อย่างไร และพอรู้ว่าเครียดต้องรีบปล่อยวาง ต้องอยู่กับเครียดให้ได้
2. หาสาเหตุของความเครียด
เมื่อรู้ตัวว่าเครียดแล้ว สิ่งที่ต้องทำก่อนอื่นเลยก็คือต้องหาสาเหตุว่าเครียดเรื่องอะไร ถ้าไม่รู้สาเหตุก็ไม่มีทางออก ไม่มีทางแก้ไขและยากที่จะหยุดความเครียดนั้นได้ การหาสาเหตุของความเครียดไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องให้เวลากับมันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยรู้ตัวว่าเครียด ยิ่งต้องให้เวลาให้มาก คิดและทบทวนถึงสิ่งที่ผ่านในแต่ละวัน อะไรบ้างที่เป็นสาเหตุของความเครียดที่เกิดขึ้นกับคุณ ต้องพยายามหยุดความเครียดนั้นให้ได้ ไม่ปล่อยให้มาครอบงำจิตใจและไม่ปล่อยให้มาทำร้ายร่างกายของเราได้
สาเหตุของความเครียดส่วนหนึ่งมาจากเราไม่ค่อยอยู่กับปัจจุบัน เรามักจะยึดติดกับอดีตและอยู่กับอนาคต คือเสียใจกับเรื่องที่ผ่านไปแล้ว วิตกกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึงจนลืมวิธีที่จะอยู่กับปัจจุบัน การอยู่กับปัจจุบันคือคิดและทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
3. อย่าทนอยู่ในภาวะเครียดจัดอีกต่อไป
เมื่อรู้ว่ากำลังตกอยู่ในภาวะเครียด ตึงไปหมดทุกส่วน บางคนยังฝืนก็ยิ่งคิดอะไรไม่ออก แถมยังสมองตื้อพาลให้เครียดหนักเข้าไปอีก แต่ก็ยังทน ไม่หนีไปไหน ไม่ทำอะไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเลย ทางที่ดีคือต้องพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์นั้นให้เร็วที่สุด จากนั้นปรับจิตใจและอารมณ์ให้ผ่อนคลายลง การอยู่ในสภาวะเครียดจัดแบบนี้ยิ่งเป็นตัวเร่งที่ดีให้ร่างกายและจิตใจทำงานผิดปกติมากขึ้น
4. สร้างอาวุธแก้เครียดที่เป็นของตัวเอง
รู้หรือไม่? ความเครียดสามารถขจัดให้หายไปได้ง่ายนิดเดียว เพราะความเครียดเกิดจากสภาวะจิตไม่ปกติ ดังนั้นการจะทำให้จิตใจของเรากลับมาเป็นปกติจึงขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ซึ่งมีวิธีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ การทำสมาธิ สวดมนต์ การนวด หรือแม้กระทั่งการหัวเราะก็ช่วยบำบัดความเครียดได้เช่นกัน
5. เปลี่ยนความคิด ปรับมุมมอง
ความเครียดเกิดจากจิตใจและความคิดของเราเอง เพราะฉะนั้นจะหยุดความเครียดได้ก็ต้องเปลี่ยนที่ความคิด คิดอย่างไรไม่ให้เครียด เป็นคำถามที่ง่าย ตอบก็ง่าย แต่ทำได้ยาก คือต้องไม่คิดมากเมื่อเจอปัญหา คิดอย่างมีเหตุผล คิดเรื่องดี ๆ คิดแง่บวก คิดหลาย ๆ มุม และต้องคิดถึงคนอื่นด้วย ซึ่งถ้าคิดเป็นระบบแบบนี้ได้ ไม่มีทางเครียดแน่นอน
อย่างที่บอกว่าทุกคนมีความเครียดด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าจะรู้ตัวหรือไม่ ถ้ารู้เร็วก็หาทางออกได้เร็ว แต่ถ้าเคยชินกับความเครียดจนไม่รู้ตัวว่ากำลังจมอยู่มัน ความเครียดก็จะทำร้ายร่างกายและจิตใจของคุณแบบไม่ให้รู้ตัว เพราะฉะนั้นรีบรู้ว่าตัวเองเครียดเสียโดยเร็ว แล้วหาทางเปลี่ยนความเครียดให้เป็นความสุขกันดีกว่า
Noon อดทนและอดทน
556
28 มิ.ย. 2560 เวลา 13.58 น.
รังสรรค์ ใช้ได้ผลดีจริงทั้ง 5 ข้อเลยครับ
ทดลองดูแล้ว
24 ธ.ค. 2560 เวลา 02.06 น.
KANYANAT ใครๆก็พูดได้แต่พอทำจริงๆมันยาก
25 ธ.ค. 2560 เวลา 04.55 น.
nantapak 6395 กำลังพยายามค่ะ
28 มิ.ย. 2560 เวลา 03.43 น.
Sheinah 🥑🥝🍑 มีแค่คำว่าอดทนเท่านั้น เฮ้อออ
24 ธ.ค. 2560 เวลา 03.03 น.
ดูทั้งหมด