คงไม่มีใครชอบอยู่กับคนที่ ยากและเยอะ ในชีวิตจริงไหมคะ และมันก็คงจะเป็นเรื่องง่ายถ้าหากเราจะเลี่ยงหนีไปจากคนทุกคนที่เราไม่ชอบได้ แต่ในความเป็นจริง เราอาจจะหนีคนที่เราไม่ชอบไม่พ้น เพราะอาจจะต้องทำงานด้วย หรือแม้แต่คนในครอบครัวที่น่ารำคาญที่อาจจะต้องเจอกันในวันรวมญาติ
คนที่ประสบความสำเร็จในสังคมก็ต้องเจอกับปัญหาเหล่านี้เหมือนกัน แต่สิ่งที่พวกเขาทำไม่ใช่การหนี แต่เป็นการรับมือกับการเจอคนที่ไม่ชอบอย่างมืออาชีพ ซึ่งวิธีการเหล่านี้ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ด้วยเช่นเดียวกัน
แต่ก่อนอื่นต้องเริ่มจากการหายใจลึก ๆ และคิดเสียว่านี่เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา บางครั้งเราก็แค่ต้องปล่อยมันไปอย่างที่เป็นเพื่อให้มันผ่าน ๆ ไป แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่เราทำได้เพื่อรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้ มีเคล็ดลับง่าย ๆ 12 ข้อที่หากเปิดใจลองทำ คุณก็จะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ โดยไม่มีคนที่คุณไม่ชอบมาทำให้คุณหัวปั่น
- ปล่อยมันไป
เริ่มต้นจากวลีเบสิกของชีวิต ‘ปล่อยมันไป’ หลาย ๆ ครั้งที่เราต้องติดต่อกับคนที่เราไม่ชอบ แค่คิดก็เครียดแล้ว อารมณ์ก็เหมือนกับยักษ์จีนี่ เมื่อปล่อยออกมาจากขวดแก้วแล้ว ก็ยากที่จะเอากลับเข้าไป ดังนั้นถ้ารู้ว่าต้องไปข้องเกี่ยวกับคนที่ทำให้คุณเครียด ให้หายใจเข้าลึก ๆ และคิดเสียว่า ปล่อยมันไป อย่าเอามาใส่ไว้ในใจมากนัก
- สื่อสารดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ถ้าเจอว่าการคุยกับบางคนแล้วทำให้รู้สึกไม่ดี หรือทำให้หัวร้อน ก็ถึงเวลาที่ต้องหาหนทางที่ดีที่สุดในการแสดงความรู้สึกของเรา ลองเอาตัวเราไปแทนในการสื่อสารนั้น ๆ หรือในเหตุการณ์นั้น ๆ ว่าถ้าเป็นเราจะรู้สึกดีไหม เหมือนเป็นการตั้งมาตรฐานการสื่อสารที่ดีของตัวเองเวลาเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น จะได้ไม่ต้องไปเสียฟอร์มต่อหน้าคนที่เราไม่ชอบ
- ใช้ความสุภาพเข้าสู้
การที่สุภาพต่อทุกคนเป็นสิ่งที่ดี ไม่ว่าจะเป็นใครที่เรากำลังคุยด้วย การปฏิบัติต่อทุกคนอย่างสุภาพและเคารพ แม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วยจะช่วยสร้างมาตรฐานความสุภาพของคุณ และเป็นการที่ปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนกับที่ตัวเราคาดหวังว่าเขาจะทำกับเราเช่นเดียวกัน แม้จะเป็นเพียงความสุภาพเล็ก ๆ ก็จะทำให้ความตึงเครียดลดลงไป มีมารยาทมากที่สุด และรับมือกับสถานการณ์อย่างสุขภาพ ถ้าทำได้คนรอบ ๆ จะเคารพนับถือคุณอย่างแน่นอน และจะมองว่าคุณนั้นมีมารยาทและกาลเทศะ หลีกเลี่ยงการปะทะแบบส่วนตัว และรักษาภาพลักษณ์อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เราดูเหนือกว่าเวลาที่ต้องติดต่อกับคนที่พยายามจะทำให้คุณดูแย่
- เลี่ยงได้เลี่ยง
ในความเป็นจริงนั้นการต้องติดต่อกับคนที่เยอะและยากอาจจะเหมือนการเดินผ่านทางที่มีทุ่นระเบิด ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะรู้ว่าหัวข้อนี้ต้องเป็นเรื่องเดือดร้อนให้เลี่ยงออกมาก ดีกว่าไปปะทะกัน เราสามารถบอกคนอื่น ๆ ถึงความขัดแย้งนี้ได้ และการเลือกที่จะไม่ปะทะไม่ได้หมายความเราหนีปัญหา เป็นเพียงแค่การคิดว่าเราจะเอาเวลาไปเสียกับสิ่งที่ทำให้เราอารมณืไม่ดีทำไม เอาเวลาที่มีค่าของเราไปทำในเรื่องที่จะไม่ทำให้เราหัวเสียดีกว่า
- แกล้งทำจนทำได้
การแสร้งทำไม่ได้เป็นสิ่งที่ง่าย แต่เมื่อต้องอยู่ร่วมกับคนที่ไม่ชอบหน้า และพยายามทำให้เราประหม่า คิดในแง่ดี การแสร้งทำนั้นเป็นโอกาสที่เราจะได้ฝึกสกิลการแสดง ทำให้เราทำลายลิมิตของตัวเอง แสดงออกแค่ในสิ่งที่อยากให้ฝ่ายตรงข้ามเห็น ในอีกทางก็ถือว่าเป็นการฝึกควบคุมอารมณ์ตัวเองในสถานการณ์ที่ยากด้วย
- ระมัดระวังอารมณ์ของตัวเอง
ขณะที่คุณกำลังฝึกฝนการแสดงสีหน้าให้น้อยที่สุดให้โลกรับรู้ แต่สิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือห้ามเพิกเฉยต่ออารมณ์ของตัวเอง การไม่ให้ผู้อื่นรู้อารมณ์ของตัวเองนั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องไม่รับรู้อารมณ์ของตัวเองด้วย ดังนั้นต้องระมัดระวังอารมณ์ของตัวเองไปพร้อม ๆ กับการรู้อารมณ์ของตัวเองด้วย
- ใช้พลังบวกและก้าวต่อไป
ถ้าต้องติดต่อกับคนที่ไม่ชอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่ช่วยคุณอาจจะเป็น ‘พลังบวก’ พกไปให้เต็มที่และเผชิญหน้ากับคนที่ไม่ชอบ ถ้าบวกแบบร้อยเปอร์เซ็นไม่ได้ ก็พยายามรับเรื่องราวลบ ๆ น้อยที่สุด พยายามไม่สนใจแง่ร้าย และมองเขาอย่างไม่มีอคติ เพราะวิธีการมองโลกอย่างนี้จะทำให้คุณยอมปล่อยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ผ่านไปโดยที่ไม่เกิดเป็นความขัดแย้งใหญ่โต
- หาสิ่งที่ยอมรับร่วมกัน
การเลี่ยงเจอคนที่ทำให้คนเป็นบ้านั้นทำให้คุณพยายามหาจุดร่วมกันน้อยลงเพื่อที่จะไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันมากนัก แต่การที่ได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่เราไม่ชอบมากขึ้น เราก็อาจจะเข้าใจพวกเขามากขึ้นเช่นเดียวกัน เปรียบเสมือนกับวลีที่บอกว่าการได้เดินในรองเท้าของคนอื่นจะทำให้เราเข้าใจมุมมองของพวกเขามากขึ้น การที่ใช้เวลาเพื่อที่จะเข้าใจคนที่คุณไม่ชอบช่วยให้คุณรู้สึกเห็นใจเขามากขึ้น อาจจะได้รู้เหตุผลว่าทำไมพวกเขาเป็นอย่างนั้น
- จดจำพวกเขาต่างจากความคิดเห็นของเรา
การเข้าใจคนอื่นนั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อทักษะความเป็นผู้นำ เพราะว่าการเป็นผู้นำนั้น เรานำคนที่มาจากหลายภูมิหลัง เพื่อที่จะทำให้คนที่คุณนำอยู่ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ มันไม่ได้เกี่ยวว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบพวกเขา หรือว่าพวกเขาจะชอบคุณหรือไม่ ในความเป็นจริงการได้มองเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านมุมมองของคนอื่น หรือมุมมองที่แตกต่างกันออกไปจะช่วยให้เกิดภาพใหม่ขึ้น
- หาความสัมพันธ์แบบเชื่อใจ
ไม่ต้องพยายามที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกว่าเหมือนทอดทิ้ง พยายามหาคนที่สนับสนุนคุณ เปิดใจให้กับเพื่อน ๆ ที่จะทำให้คุณรู้สึกว่ามีคนรับฟัง เพราะคนเหล่านี้ที่คุณเชื่อใจจะสามารถแนะนำคุณได้
- โฟกัสตัวเราเอง
การโฟกัสตัวเราเองก็หมายถึงการควบคุมตัวเอง และการกระทำของตัวเรา รู้ตัวเองเสมอว่าเราเกลียดคนที่เราม่ชอบมากแค่ไหน เราโกรธแค่ไหน สนใจตัวเองและรับมือกับมัน ลองประเมินตัวเองว่ารับมือกับเรื่องราวต่าง ๆ ได้มากแค่ไหน จำไว้ว่าไม่มีใครสามารถทำให้เราล้ม และทำลายความสุขของเราได้ถ้าเราไม่อนุญาตให้พวกเขาทำ
ขอบคุณข้อมูลจาก
sawitree จะเกลียดก็ไม่ได้ว่าไรแต่อย่ามาหาเรื่องแค่นั้นเป็นพอ
14 มิ.ย. 2564 เวลา 22.21 น.
kongnattapol ทำบุญเยอะๆ แล้วกรวดน้ำให้ ช่วยได้จริงๆนะ
15 มิ.ย. 2564 เวลา 13.30 น.
Chae เงียบอย่างเดียวจบ
14 มิ.ย. 2564 เวลา 23.16 น.
ISSAREE ไม่ชอบเราหรา
ตายหนีสิคร้ะ😆
14 มิ.ย. 2564 เวลา 22.41 น.
จันทร์ปรียา ถ้าเกลียดก็ต่างคนต่างอยู่ไม่ใช่มาจิกกัดกันอยู่ทุกครั้งที่มีโอกาส ส่วนตัวถ้าไม่ชอบใครจะพยายามเลี่ยงไม่อยากเจอ ไม่อยากได้ยินเสียงค่ะ กลัว
18 มิ.ย. 2564 เวลา 16.11 น.
ดูทั้งหมด