ช่วงนี้กรุงเทพและอีกหลายจังหวัดต้องเผชิญกับมลพิษฝุ่น หรือ มลพิษทางอากาศ PM 2.5 ซึ่งเป็นมลพิษที่ส่งผลต่อร่างกาย อาจทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ โรคปอดและอื่นๆ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นสัญญาณเตือนภัยจากธรรมชาติ เตือนให้เราทุกคนต้องหันมารักษาสิ่งแวดล้อม รักษาธรรมชาติและ หยุดทำลายธรรมชาติ เพื่อสุขภาพของเรา บุคคลรอบข้าง และแม้แต่สัตว์
บางครั้งเราเกิดความวิตกกังวล กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเกินไป คิดแต่ว่าไม่นาน ธรรมชาติจะเปลี่ยนไป… แท้จริงแล้ว เราควรไตร่ตรองว่า เราสามารถแก้ไขป้องกันสภาวะเหล่านี้โดยเริ่มจากตัวเรา และการร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง
ด้วยการทำตามคำแนะนำของทางการ เช่นเลิกเผาสิ่งต่างๆ ไม่ใช้พาหนะรถยนต์ที่เก่าเกินไป จนทำให้เกิดควันดำ ไม่ติดเครื่องรถเมื่อเวลาไปจอดทำธุระ โรงงานต่างๆ ก็ต้องลดการปล่อยควันจากการผลิตสินค้า
และเมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เวลาออกไปในที่โล่ง เราต้องใส่หน้ากากอนามัย งดการสูบบุหรี่
อย่ากังวลและตกใจเกินไป โดยไม่คิดแก้ไขอะไร จนลืมรักษาสุขภาพร่างกายและสุขภาพใจ
อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลก็เป็นหนึ่งในมลพิษทางใจ
การขจัดมลภาวะเป็นพิษในทางจิตใจ ด้วยการเข้าหาธรรมะ จึงเป็นการป้องกันและขจัดมลพิษทางใจได้ดีที่สุด ขจัดความวิตกกังวลโดยการมีสติ มีสมาธิ เรียนรู้ที่จะมีความเมตตา และปล่อยวาง
อดทนต่อเสียง และภาวะรอบข้างที่รบกวนจิตใจด้วยการวางเฉย และคิดเสียว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมดา
ตั้งจิตมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาของตน และส่วนรวม
มลภาวะเป็นพิษทางกายก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว อย่าให้มีมลพิษอยู่ในใจของเราเลย
Noyyyyy🇹🇭🇯🇵⛩🏇😍 I agree with u.
09 ก.พ. 2562 เวลา 14.08 น.
แนวคิดดีครับ
22 มี.ค. 2562 เวลา 14.29 น.
eka มีสมาธิ มีสติ ปล่อยวาง ไม่ได้แก้ไขปัญหา แต่เป็นการอยู่กับปัญหา พุทธองค์ทรงสอนแล้ว การดับทุกข์ (การแก้ปัญหา) ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค นี่คือวิธีการแก้ปัญหา
13 ก.พ. 2562 เวลา 00.07 น.
ผมคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่นี้ก็สามารถที่จะเแก้ไขให้ไปในทางที่ดีขึ้นกว่านี้ได้เหมือนกัน ขอเพียงแค่ว่าเราควรที่จะร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขหรือว่าปรับปรุ่งในสิ่งที่เราคิดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมากันอย่างจริงจัง.(เพื่อให้โลกของเราังมีอากาศที่บริสุทธิ์เพื่อให้เราได้มีไว้เพื่อหายใจ
09 ก.พ. 2562 เวลา 21.58 น.
ดูทั้งหมด