“เลขาสภาฯ” แจงไม่มีอำนาจรับรอง – ตรวจสอบวุฒิการศึกษา สส. - กมธ. กรณีถูกพาดพิง เตรียมให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบข้อมูล พร้อมประสาน ก.พ. หาข้อเท็จจริงร่วมกัน
ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีที่มีการแถลงข่าวพาดพิง ว่า รัฐสภาไทยรับรองวุฒิการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยหนึ่งในต่างประเทศ ว่า สภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ไม่มีอำนาจรับรองปริญญาบัตรทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังไม่มีข้อกำหนดให้พิจารณาคุณสมบัติของ สส. พร้อมยกตัวอย่างการรายงานตัวของ สส. จะนำหลักฐาน วุฒิการศึกษา เพื่อประกอบเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ว่าสำเร็จการศึกษาในระดับใดเท่านั้น พร้อมย้ำว่าไม่มีอำนาจในการตรวจสอบว่าจบหรือสำเร็จการศึกษาจริงหรือไม่ ดังนั้นข้อความที่ถูกเผยแพร่ออกไปจึงไม่น่าจะถูกต้อง
ส่วนที่มีการกล่าวพาดพิง นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์ ที่แจ้งว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่มีอำนาจเช่นเดียวกัน เพียงแต่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อปี 2563 มีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอก และ บุคคลภายนอกทำหนังสือมาถึงประธานสภา เมื่อพิจารณาแล้วเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับว่า บุคคลดังกล่าวได้รับความเสียหาย จึงให้โอกาสในการชี้แจงเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ต้องมีการปรึกษาฝ่ายกฎหมายว่าในนามสำนักงานฯ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป เนื่องจาก ข้อความที่รัฐสภาถูกพาดพิง มีการเผยแพร่ในต่างประเทศ
ส่วนกรณีของ น.ส. เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา ที่กำลังเป็นประเด็นเรื่องวุฒิการศึกษา จากมหาวิทยาลัยต่างประเทศนั้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขอไม่ก้าวล่วง ให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาตรวจสอบต่อ ว่าอย่างไร
ส่วนที่ น.ส. เกศกมล เคยดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการหลายคณะ นั้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ย้ำว่า สำนักงานไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบ วุฒิการศึกษาว่าเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ตรงข้าม กับการตรวจสอบข้าราชการที่ต้องตรวจสอบย้อนกลับไปเป็นเรื่องปกติ และยอมรับว่าเรื่องนี้อาจทำให้สังคม เกิดข้อสงสัย และอาจประสานหน่วยงานภายนอก อย่างสํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ที่ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่เคยรับรองวุฒิการศึกษาจากมหาวิทยาลัยดังกล่าว หารือข้อเท็จจริงในกรณีที่ถูกพาดพิงเช่นเดียวกัน