ไลฟ์สไตล์

อยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำ - หมอเอิ้น พิยะดา

THINK TODAY
อัพเดต 20 ก.พ. 2562 เวลา 07.10 น. • เผยแพร่ 20 ก.พ. 2562 เวลา 03.34 น. • หมอเอิ้น พิยะดา

เคยเป็นมั้ย อยู่ๆก็นึกชื่อคนที่เจอหน้ากันบ่อยๆไม่ออกว่าชื่ออะไร?

เคยเป็นมั้ย คิดไว้แล้วว่าจะทำอะไร แต่ถึงเวลาก็ลืมว่าจะต้องทำอะไรบ้าง?

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เคยเป็นมั้ย หาของที่จำเป็นต้องใช้ไม่เจอ?

เคยเป็นมั้ย อ่านหนังสือสอบเท่าไรก็จำไม่ได้สักที?

แต่เรื่องที่อยากลืมอย่างเช่น เรื่องที่เคยอกหัก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เหตุการณ์ที่เลวร้ายจนไม่อยากจดจำ อยากจะลืมมากเท่าไร

กลับจำฝังจน จนบางคนติดตามไปในความฝัน

เคยถามตัวเองมั้ย เราเป็นแบบนี้เพราะอะไร?

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

หลายคนแม้วัยหนุ่มสาว ก็เคยต้องมาพบเอิ้นด้วยอาการลืมง่ายจนกังวลว่าตัวเองกำลังเป็นความจำเสื่อมรึป่าว

หรือไม่ก็ลืมยาก อยากจะลบเรื่องราวบางอย่างออกจากความทรงจำแต่ก็ทำไม่ได้สักที

อยากบอกให้สบายใจว่า

ถ้าเราอายุไม่เกิน 65 ปี

ไม่มีประวัติการใช้สารเสพติดที่มีผลต่อสมอง

ไม่มีโรคเบาหวาน ไขมัน เส้นเลือดสมองตีบแตก

หรืออุบัติเหตุร้ายแรงทางสมอง

โอกาสจะเป็นโรคความจำเสื่อมนั้นไม่มี

แล้วอะไรทำให้ อยากจำกลับลืม

กระบวนการจำเป็นการทำงานของสมอง

ที่ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือ

        1. การลงข้อมูลที่จะจำ

        2. การเก็บข้อมูล

        3. การดึงไปใช้

        4. การแสดงออกถึงข้อมูล

เมื่อเรารับข้อมูลบางอย่างมา เช่น นั่งฟังอาจารย์สอนในห้องเรียน เรารับรู้เสียงอาจารย์ที่พร่ำสอน

ถ้าเรามีความสนใจ (attention) ร่วมในการรับรู้ ข้อมูลก็จะถูกเปลี่ยนเป็นความจำระยะสั้น (Short term memory) ความจำชนิดนี้พร้อมจะหายไปภายในไม่กี่นาที หากไม่มีอะไรมาทำให้แปรเปลี่ยนไปเป็นความจำระยะยาว (Long term memory) ความจำชนิดนี้อยู่กับเราได้ยาวเป็น วัน / เดือน / ปี / หลายปี

สิ่งที่จะมาช่วยเปลี่ยนความจำระยะสั้น ให้เป็นเป็นความจำระยะยาวก็อย่างเช่น

การทวน ( ไม่ทวนใน 1 นาทีก็ต้องนึกถึงบ่อยๆ) ,

การแปลงเป็นความหมาย หรือภาพ

การเชื่อมโยงวันเวลา

การมีอารมณ์ร่วม

หรือ การแปลงเป็นทักษะในการปฏิบัติ

ดังนั้นไม่น่าแปลกใจ ถ้าเราจะลืมเรื่องที่ครูเพิ่งสอนไปหลังจากเรียนไม่กี่นาทีเพราะไม่สนใจ

จำคำสั่งหัวหน้าไม่ได้เพราะเครียดเรื่องอื่นอยู่

จำสิ่งที่ต้องทำในงานได้น้อยลงหลังเลิกกับแฟน เพราะเราไม่มี (attention) ความสนใจจดจ่อในการรับข้อมูลมาบันทึกไว้ในสมองตั้งแต่แรก

เราจึงกลายเป็นพวกอยากจำกลับลืม

ในขณะที่ เมื่อเราถูกคนที่รักและไว้ใจทำร้ายจนบอบช้ำ

หรือ เจอเหตุการณ์เลวร้าย

ความทรงจำนั้นกลับฝังแน่นไม่ลืมเลือน

เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น ได้ถูกอารมณ์(โดยเฉพาะด้านลบ)ดึงดูดข้อมูลเข้าสู่ความจำระยะยาวอย่างรวดเร็ว

เมื่อไรที่ถูกกระตุ้น เช่น สถานที่ เจอคนที่มีส่วนร่วม หรือมีคำพูดมากระทบ

เรื่องราวเลวร้ายนั้นก็พร้อมจะผุดขึ้นมาอยู่เสมอ เกิดการดึงข้อมูล

หากเราหมกมุ่นครุ่นคิดกับเรื่องนั้นต่อก็จะเกิดการทบทวนซ้ำ

ความทรงจำนั้นก็จะยิ่งฝังแน่น

เราจึงกลายเป็นคน อยากลืมกลับจำ

ดังนั้น หากเรามองว่าการฝึกทักษะการจำนั้นสำคัญ การฝึกทักษะการลืมย่อมสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน

เพราะเราจะจำในสิ่งที่ควรจำ ลืมในสิ่งที่ควรลืม

ความเห็น 27
  • annop.
    😀
    20 ก.พ. 2562 เวลา 13.08 น.
  • Mew’achariya
    ^^
    20 ก.พ. 2562 เวลา 13.05 น.
  • นันท์ (Tik)*_*
    ช่ายค่ะ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้นค่ะ
    20 ก.พ. 2562 เวลา 16.27 น.
  • ♡APPLE'SD 51💰
    🙂
    20 ก.พ. 2562 เวลา 14.42 น.
  • ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นมาได้เสมอ.
    20 ก.พ. 2562 เวลา 15.34 น.
ดูทั้งหมด