เบาหวานเป็นหนึ่งในโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือNon-Communicable diseases: NCDsที่คุกคามประชากรทั่วโลก มีสาเหตุจากพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพ 5 ปัจจัย ได้แก่ การรับประทานอาหารไม่ดีต่อสุขภาพ การมีกิจกรรมทางกายไม่เหมาะสม การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ ได้รับมลพิษทางอากาศ นำไปสู่กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง มะเร็ง ระบบทางเดินหายใจ เบาหวาน และ โรคทางจิตเวช
ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาอุบัติการณ์ของโรคเบาหวานในกลุ่มประชากรเด็กวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว (10-19ปี) รวมทั้งผู้ใหญ่วัยต้น (Emerging adults)ซึ่งอยู่ในช่วงอายุประมาณ20-35ปี เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก
การศึกษาในหลายประเทศ พบว่า สัดส่วนความชุกของเบาหวานชนิดที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ในเด็กวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวเพิ่มขึ้น ซึ่งสัมพันธ์กับความชุกของโรคอ้วนที่เพิ่มขึ้น จากข้อมูลของIDF Atlasพบว่า ความชุกของเบาหวานทั่วโลกในกลุ่มผู้ใหญ่วัยต้น (อายุ20-39ปี) เพิ่มจาก23ล้านคนในปี2543เป็น63ล้านคนในปี2556โดยกลุ่มประเทศที่มีอัตราความชุกเพิ่มขึ้นรวดเร็ว อยู่ในแถบแอฟริกา แปซิฟิกตะวันตก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย เผยว่า จากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยครั้งที่ 5 เมื่อปี พ.ศ.2557 ประชากรไทยวัยผู้ใหญ่ป่วยเป็นโรคเบาหวานถึง4.8ล้านคน และหลายรายเกิดภาวะแทรกซ้อนในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ จากการเพิ่มขึ้นของวิถีชีวิตแบบเนือยนิ่ง โรคอ้วน และอายุที่มากขึ้น นำมาซึ่งการเกิดโรค ในจำนวนนี้ 10 คนที่เป็นเบาหวาน 4 คนไม่รู้ว่าตนเองป่วย ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยและดูแลรักษาเพียงร้อยละ54.1หรือเพียง2.6ล้านคน และเพียง 1 ใน 3 คนสามารถบรรลุเป้าหมายในการรักษา ทำให้อัตราการเสียชีวิตจากโรคเบาหวานในเมืองไทยมีมากถึง200รายต่อวัน
คาดการณ์ว่าความชุกของโรคเบาหวานจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณปีละ 100,000 คน ซึ่งโรคเบาหวานที่ถูกดูแลรักษาได้ไม่ดีอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น โรคไต และการถูกตัดเท้าหรือขา
สิ่งหนึ่งที่น่าเป็นห่วง คือ เบาหวานที่เกิดในวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว และผู้ใหญ่วัยต้นนั้น มีข้อมูลชี้ชัดว่า การดำเนินโรคมีความรุนแรงกว่าเบาหวานที่เกิดในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ รวมถึงตอบสนองต่อการรักษาได้น้อยกว่า นำไปสู่การเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่า สร้างความสูญเสียอย่างมากทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นกลุ่มประชากรในวัยทำงาน
s..k.56 กินข้าวคือแป้งมากเก็บสะสมในรูปไขมัน..น้ำหวานสารพัดขนมหวานผสมไขมันทรานส์บ่เกิดแห่งภัยสุขภาพ ไม่มีแล้วภาพคนเดินไปมาหาสู่กันไปไร่ไปนาใช้รถแทนไม่ค่อยออกกำลังกาย อาหารผัดทอดทำง่ายใช้เวลาน้อยพฆติกรรมการกินเปลี่ยนไปมาก แถมงานวิจัยบางตัวบอกยาฆ่าหญ้าฆ่าแมลงบางตัวก่อให้เกิดโรคได้
09 พ.ย. 2562 เวลา 11.41 น.
ธุรกิจเฟื่องฟู คนชอบกินมากโดยเฉพาะ ชานมไข่มุก เท่ห์....กาแฟสด.เย็นมีมากมาย หากินง่ายเต็มไปหมด เขาก็ทำหากินพูดยาก
09 พ.ย. 2562 เวลา 10.59 น.
ธนิษฐา กาแฟสด ชานมโกโก้ กินมากเบาหวานพุ่ง
09 พ.ย. 2562 เวลา 10.48 น.
อุทิศ คำปัน ทานเข้าไปสิน้ำตาล คนที่ชอบ ชา กาแฟ นมเย็น ที่ชอบหวานๆ โดยเฉพาะ กาแฟ ชา นมเย็น ใส่น้ำตาล นมข้นหวาน ไม่ตำ่กว่า10ช้อนชาต่อแก้วบางคนฟาดเข้าไป2-3แก้วต่อวัน ไม่ให้เบาหวานรับทานได้ไงครับ
09 พ.ย. 2562 เวลา 10.41 น.
📍Niwat Kaewking® 🍤 หาเรื่องเข้าภาษี สระ ถุง
09 พ.ย. 2562 เวลา 10.35 น.
ดูทั้งหมด