จากกรณี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลกำลังรวบรวมข้อเท็จจริงย้อนหลังกว่า 60 ปี เพื่อชี้แจงกับสังคมในคดี "นายซีอุย แซ่อึ้ง" ทหารหนีทัพชาวจีนโพ้นทะเลที่ถูกสังคมไทยตราหน้าเป็นฆาตกรต่อเนื่อง 6 ศพ 7 คดี ตั้งแต่ปี 2497-2501 หลังโลกโซเชียลมีเดียพบหลักฐานและข้อพิรุธหลายอย่างที่ชี้ว่านายซีอุย อาจตกเป็นแพะรับบาปและไม่เคยเกิดเหตุคนร้ายฆ่าเด็กชำแหละศพตัดเอาหัวใจและตับไปต้มกลิ่นอย่างในภาพยนตร์ จึงเรียกร้องให้นำศพ นายซีอุย ที่ถูกสต๊าฟตั้งโชว์ในพิพิธภัณฑ์ศิริราช ไปทำพิธีทางศาสนาเพื่อคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้ ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 4 คดีใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ช่วงปี 2497 ที่บันทึกคำให้การของตำรวจระบุว่านายซีอุยยอมรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุทั้งหมดนั้น ประกอบด้วย คดีใช้มีดแทงคอ ด.ญ.บังอร ภมรสุต วัย 8 ปีแต่เหยื่อรอดชีวิตพร้อมบอกเล่าเรื่องราวที่ชวนสงสัยเมื่อวันที่10 เม.ย. 2497 ใน อ.ทับสะแก, คดีฆ่าชำแหละศพ ขโมยเครื่องใน ด.ญ.นิด แซ่ภู่ อายุ 10ปี เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2497 ใน อ.ทับสะแก, คดีข่มขืนเชือดคอฆ่า ด.ญ.ลิ้มเฮียง แซ่ลี้ อายุ 9 ปี เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2497 ใน อ.ทับสะแก และ คดีฆ่าเชือดคอ ด.ญ.หงั่น แซ่ลี้ อายุ 10 ปี เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2497 ใน อ.สามร้อยยอด ซึ่งคดีในพื้นที่ อ.ทับสะแก ทั้ง 3 คดี ชาวบ้านหรือแม้กระทั่งญาติพี่น้องของเหยื่อเอง ก็ไม่มีใครเชื่อว่าเป็นฝีมือของ นายซีอุย
คดีที่ 1 เชื่อว่าเป็นฝีมือของ นายเกลี้ยง แซ่ภู่ ชายสติไม่ดี อดีตทหารสงครามเกาหลีที่ชอบวิ่งไล่จับด.ญ. ที่เดินผ่านไปมาในตลาดและชอบกินของดิบซึ่งเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของเมียปลัดอำเภอผู้มีอิทธิพลในยุคนั้น
คดีที่ 2 ครอบครัวเหยื่อก็เชื่อว่า เป็นฝีมือของนายเกลี้ยง เพราะมีพยานยืนยันไปพบชิ้นเนื้อในกระเป๋ากางเกงและเครื่องในมนุษย์อยู่ในที่พักของนายเกลี้ยงหลังเกิดเหตุ แต่ผลสุดท้ายกลับไม่มีการจับกุมชายสติไม่ดีคนนี้หรือใครอื่น ขณะที่นายเกลี้ยงหายตัวออกไปจากพื้นที่พร้อมกับมีข่าวลือว่า ปลัดอำเภอน้องเขยของนายเกลี้ยงจับนายเกลี้ยงเข้าเรือนจำบางขวางด้วยมือตัวเอง
คดีที่ 3 ร.ต.ต.ประจวบ ฉลาดแพทย์ อดีตตำรวจทับสะแก ผู้ถูกกล่าวขวัญเป็นวีรชนต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นที่ยกพลขึ้นบกเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2484 ที่กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับกุมคนร้ายได้หลังเกิดเหตุเป็นชายในพื้นที่ 2 คนชื่อนายเจือและนายนิด โดยให้การรับสารภาพพร้อมพาไปเอามีดที่ใช้เชือดคอเด็กซึ่งยังมีคราบเลือดติดอยู่ ศาลพิพากษาสั่งจำคุกนายเจือ 30 ปี และนายนิด 20 ปี
คดีที่ 4 ที่อ.สามร้อยยอด เจ้าหน้าที่ไม่มีเบาะแสคนร้าย แต่พ่อแม่และญาติรวมทั้งชาวบ้านเชื่อเป็นฝีมือ นายซีอุย
หลัง 4 ปี ต่อมาตำรวจระยองจับนายซีอุย โดยอ้างว่ากำลังเผาศพอำพรางศพ ด.ช.สมบุญ บุญยกาญจน์ อายุ 11 ปี อยู่กลางสวนยางพาราใน อ.เมือง และได้สารภาพเป็นคนร้ายก่อเหตุลักษณะเดียวกันใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อีก 4 คดี หลังถูกตำรวจสอบสวนขยายผลมาราธอนเกือบ 100 ชม. ผลสุดท้ายคดีจบลงที่ศาลอุทธรณ์ ด้วยโทษยิงเป้าประหารชีวิตนายซีอุย เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2502 จากคดีฆาตกรรม ด.ช.สมบุญ เพียงคดีเดียว… โดยไม่มีการคัดค้านหรือสู้คดี และหลังจากนั้นเพียง 11 วันมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์(ศิริราช) ได้ขอศพนายซีอุยไว้ศึกษาเพื่อหาเหตุแห่งความวิปริตผิดมนุษย์ แม้ข้อมูล ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากหลายแหล่งจะมีความขัดแย้งอยู่ก็ตาม รวมทั้งคดีฆ่าโหด ด.ช.สมบุญ ที่สำนวนการสอบสวนระบุว่า ตำรวจจับกุมนายซีอุยได้คาตับและหัวใจสดๆ
ขณะที่บันทึกของแพทย์ในฐานะพยานผู้เชี่ยวชาญการพิสูจน์ศพสมัยนั้น ยังกลับคำให้การตามรายงานการชันสูตรพลิกศพ ด.ช.สมบุญ เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2501 จาก "ได้ทำการตรวจพิสูจน์แล้ว ปรากฏว่าหัวใจและตับนี้ เป็นอวัยวะของมนุษย์จริง จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน" แต่ในชั้นศาลเมื่อวันที่ 25 มี.ค.2501 แพทย์ให้การว่า "โจทย์เอาบันทึกการพิสูจน์ให้ดูแล้วว่าใช่ดังที่ให้การ แต่ขอแก้บันทึกว่าพิสูจน์แล้วคล้ายกับตับและหัวใจของมนุษย์"
ขอบคุณภาพจาก เว็บไซต์ change.org
Vitoon ถ้าซีอุยถูกปรักปรำจริงก็น่าสงสารมาก ตอนมีชีวิตอยู่ก็ถูกใส่ร้าย พอตายไปก็ถูกนำร่างไปแขวนใส่ตู้กระจก คนเดินผ่านไปมาก็ชี้ว่า "นี่ไงซีอุย ฆาตกรโรคจิต กินตับเด็ก" ทุกคนต่างพากันรังเกียจ ถ้าเรื่องนี้ตัดสินผิดจริง คนที่มีส่วนร่วมปรักปรำซีอุยทุกคนจะได้รับผลกรรม ใครที่เคยอ่านเรื่องกฎแห่งกรรมของ ดญ.พิมพวดี กับนายแพทย์ อาจินต์ ซึ่งอดีตชาติเป็นนายราชมัลได้ตัดสินว่าชายคนหนึ่งเป็นฆาตกรชิงทรัพย์ แล้วให้บีบขมับชายคนนั้นจนตาย ชาติต่อมา นพ. อาจินต์ จึงรับการผ่าตัดสมองซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างทรมาน... เวรกรรมมีจริง
19 พ.ค. 2562 เวลา 23.45 น.
คือความเป็นธรรมให้เขา เอาเขาออกจากศิริราชเถอะครับแล้วเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ด้วย
19 พ.ค. 2562 เวลา 22.35 น.
Pairoj เนิ่นนานนัก...สู่สุขติภพ...ลบมนทิลนิรันดร์กาล
19 พ.ค. 2562 เวลา 23.18 น.
คนเดียว ฆาตกรต่อเนื่องหรือเป็นแพะน่าสนใจครับ ไม่ใช่ฟื้นฝอยหาตะเข็บ แต่ในอดีตความยุติธรรมคงหาได้ยากกว่าสมัยนี้ เป็นแค่ผู้ใหญ่..(ลี)..ชาวบ้านก็กลัวกันแล้ว !??
19 พ.ค. 2562 เวลา 22.45 น.
โกมล กัลณา ยุคสมัยที่ข้อมูลข่าวสารหาได้ยาก......แล้วยุคนี้ล่ะ
19 พ.ค. 2562 เวลา 23.37 น.
ดูทั้งหมด