24 ชั่วโมงของคุณแบ่งให้กับสิ่งใดบ้าง หากเป็นคนส่วนใหญ่ น่าจะพอลิสต์ได้ ประมาณนี้
…ตื่นเช้าไปทำงาน
…พักทานข้าวเที่ยง
…เย็นเลิกงานกลับบ้าน
…กลางคืนเข้านอน
วงจรชีวิตวนเวียนเช่นนี้ทุกวัน พฤติกรรมซ้ำเดิมที่มองผิวเผิน อาจดูเป็นกิจวัตรประจำวันที่เราก็ทำไปตามสัญชาตญาณ แต่…หากมองให้ลึกลงไปอีกนิดในพฤติกรรมเหล่านี้ มันมีอะไรมากกว่านั้น ไปทำงานก็เจอปัญหาความเครียด พาลให้ทานอาหารแบบตามใจปากเพื่อเติมความสุขให้ตัวเองแต่สุดท้ายความสุขนี้ก็ย้อนมาทำร้ายร่างกาย แถมยังละเลยไม่ออกกำลังกาย ส่วนตอนกลางคืนนอนหลับไม่เต็มที่เพราะกังวลเรื่องงานที่จะต้องทำพรุ่งนี้ สุดท้ายความเครียดสะสม ทั้งร่างกายก็อ่อนแอเพราะไม่ออกกำลังกาย ตอนจบของเหตุการณ์นี้คืออาการป่วยถามหาแน่นอน แล้วทำไงดีล่ะทีนี้ ต้องหาวิธีเติมความสุขกันสักหน่อยแบบไม่ทำร้ายตัวเองด้วยวิธีการดังนี้
ปรับเปลี่ยนเรื่องการกินให้ชินกับของมีประโยชน์
You are what you eat เลือกกินอย่างมีประโยชน์ ตามคำที่ว่ากินอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ประโยคนี้เป็นจริงเสมอ อยากสุขภาพดีก็กินของมีประโยชน์ อาจจะไม่ต้องฝืนใจขนาดกินผักทุกมื้อ แต่อย่างน้อยในทุกๆ การตักอาหารเข้าปากให้เรานึกถึงผลจากการกินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อย่าตามใจปากเกินไป บางทีการตบด้วยของหวานในทุกมื้อก็ไม่จำเป็น ลองลดน้ำตาล, โซเดียมลงมาบ้าง แต่ก็ยังสามารถให้รางวัลตัวเองได้บ้างในบางมื้อ อย่างขนม หรือชานมไข่มุกที่ชอบ เพราะหากเราใจดีกินทุกอย่างตามใจ คุณเองจะลำบากในบั้นปลาย หลายๆ โรคฮิตของคนวัยเก๋ามักมาจากการกินตอนเป็นวัยรุ่น อาทิ โรคเบาหวานจากการทานรสหวาน ขนมเกินลิมิต และโรคไตจากการทานอาหารที่มีโซเดียมติดต่อกันเป็นเวลานา
ปรับเปลี่ยน Attitude ให้อยู่ในจุดสมดุล
เรารู้นะ ว่าแต่ละวันมันเครียด แต่เราก็ต้องรู้จักจัดการกับความเครียด ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับอารมณ์ด้านลบนานๆ ไม่ดีแน่นอน อาจส่งผลเข้าสู่ภาวะซึมเศร้าได้ มาลดเครียด ส่งยิ้มและเสียงหัวเราะให้คนรอบข้างดีกว่า เคยได้ยินเรื่องการยิ้มสู้โรคไหม จริงๆ แล้วน่ะ ร่างกายเรานั้น ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ถ้าใจเราป่วย ร่างกายก็จะยิ่งป่วยตามไปด้วย ลองปรับอารมณ์ตัวเองในด้านบวกให้มากขึ้น ยิ้มออกมา หรือหันไปคุยกับคนรอบข้างในเรื่องเบาๆ เพื่อผ่อนคลาย ยิงมุกตลกใส่กันบ้างให้กรามได้ขยับ การหัวเราะอย่างต่อเนื่อง 15-20 นาที ก็เทียบได้กับการออกกำลังกายหัวใจได้ประมาณ 3-5 นาทีแล้ว แถมยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ลดฮอร์โมนความเครียดเพิ่มระดับทีเซลล์ในร่างกาย ในการป้องกันและต่อสู้กับโรคมะเร็ง มาสร้างเสียงหัวเราะกันดีกว่า
ปรับเปลี่ยนวิธีนั่งทำงาน และการเคลื่อนไหวร่างกายให้ฟิตกว่าเดิม
“ไม่มีเวลาออกกำลังกาย” จะไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างได้อีกต่อไปแล้ว จากนี้ไปให้เราคิดเสียใหม่ว่าแค่ขยับ เท่ากับออกกำลังกาย เริ่มง่ายๆ อย่างระหว่างการแต่งตัวไปทำงานตอนเช้านั้น ก็สามารถออกกำลังกายได้ด้วยการฝึกทรงตัวยืนขาเดียว หรือระหว่างทำงานก็เหยียดแขน ขยับตัวซ้ายขวาสักหน่อย เป็นการฝึกสร้างความสมดุลให้กับร่างกายในส่วนของกระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน และกระเพาะอาหาร ให้กระดูกแข็งแรง ลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูก ห่างไกลกระดูกพรุน และอย่างตอนนั่งทำงานก็ต้องขยับร่างกาย ลุกเดินไป เดินมาบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่เป็นออฟฟิศซินโดรม
ปรับเปลี่ยนเวลาการนอน ลาก่อนขอบตาแบบหมีแพนด้า
พักผ่อนให้เพียงพอ ปรับเวลานอนให้เหมาะสม ถึงเวลานอนก็ควรนอน ง่วงแล้วก็อย่าฝืน บางคนติดดูซีรีส์ แล้วอยากจะดูต่อให้จบ รู้ตัวอีกทีก็เกือบสว่าง ไม่เอา ไม่เป็นแบบนี้กันแล้วเนอะ บริหารเวลาร่างกายให้ดี ถึงเวลานอนก็ปล่อยให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ อย่างวัยทำงานระยะเวลาการนอนที่ควรจะเป็นเพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่จะอยู่ที่ราวๆ 7-9 ชั่วโมง
แต่ถ้าไม่มีเวลาจริงๆ ก็ควรนอนอย่างน้อยๆ 6 ชั่วโมงขึ้นไป รู้หรือไม่การพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคความดัน และโรคหัวใจได้ อยากหัวใจแข็งแรง ความดันคงที่ก็ต้องนอนให้พอกันนะ
ปรับเปลี่ยนแนวคิดหันมารักตัวเองให้มากขึ้น ด้วยการเช็คสุขภาพ
เช็คสุขภาพสักหน่อย อย่าปล่อยให้ป่วย 1 ปี 1 ครั้งที่ได้ใส่ใจกับสุขภาพของตัวเอง จัดไป! กับการตรวจสุขภาพประจำปี เช็คร่างกันสักหน่อยว่าที่ผ่านมา 1 ปีนั้นใช้ร่างพังไปแค่ไหนแล้ว จะได้ซ่อมแซมได้ทัน อย่าปล่อยเบลอไปจนร่างกายไม่ไหว แล้วป่วยหนักถึงจะได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพ ตรวจก่อนก็รู้ก่อน หาทางรักษาได้ทันเวลา หรือถ้าไม่ได้ป่วยก็ได้รู้ว่าร่างกายเราฟิตแค่ไหน
พิเศษ! สำหรับลูกค้าของเอฟดับบลิวดี สามารถตรวจสุขภาพประจำปีได้ในราคาสุดคุ้ม สามารถเลือกได้จากหลายโรงพยาบาลและแพคเกจเพื่อความเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ แสดงบัตรประกันของ FWD ก่อนรับบริการ เพื่อขอรับราคาพิเศษ ข้อมูลเพิ่มเติม https://bit.ly/2UIOcH1
ถึงร่างจะป่วย แต่อุ่นใจเพราะมีตัวช่วยดี
ท้ายที่สุดถึงแม้เราจะลองปรับพฤติกรรมต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงแล้ว แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องพฤติกรรมอยู่อีก อย่างเช่นเรื่องกรรมพันธุ์ ระบบภูมิคุ้มกัน หรือจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ และแม้เราหนีความป่วยไม่ได้ แต่เราสามารถหาตัวช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยต่างๆ ได้ ด้วยการมองหาประกันที่ครอบคลุมโรคต่างๆ ที่หลากหลาย จัดเต็มกันไปกับประกันที่อัพเดตใหม่ให้การดูแลโรคร้ายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมถึง 50 โรค อย่าง ประกันโรคร้ายซีไอ 50 จากเอฟดับบลิวดี จ่ายเพียงหลักสิบต่อวัน แต่ให้ความคุ้มครองถึงหลักล้าน แถมยังมีข้อดี และจุดเด่นเพื่อการดูแลด้านสุขภาพของคุณโดยเฉพาะ อาทิ
- เบี้ยประกันภัยถูกลงกว่าเดิม
- เบี้ยประกันภัยสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
- เพิ่มความคุ้มครองมะเร็งระยะเริ่มต้น
- คุ้มครองกรณีการเสียชีวิต
- รับทำประกันตั้งแต่อายุ 16 – 65 ปี
- ขยายต่ออายุได้ถึง 85 ปี
เนื่องจากทุกวันนี้ การเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรงเกิดขึ้นได้ง่าย โดยไม่รู้ตัวและใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด การเตรียมพร้อมรับมือ จึงช่วยให้คุณเบาใจได้เยอะ ปรับพฤติกรรมเดิมๆ ที่เคยชินให้เข้าที่เข้าทาง สิ่งไหนที่ไม่ดีต่อตัวเอง ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง แต่สุดท้ายแม้เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงแค่ไหน ก็หมดกังวล เพราะคุณยังมีเราดูแล
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมคลิก https://bit.ly/2VKJ42p
คุ ณิ ต า จะรักตัวเองให้มากๆ
19 มิ.ย. 2562 เวลา 03.50 น.
Saksit ขอบคุณครับ
18 เม.ย. 2562 เวลา 00.41 น.
โถ่..หลงอ่านมาตั่งนานคิดว่าเรื่องอะไร.
19 มิ.ย. 2562 เวลา 20.50 น.
ขายประกัน
19 มิ.ย. 2562 เวลา 14.35 น.
อ่านไปอ่านมากลายเป็นบทความโฆษณาเฉย
19 มิ.ย. 2562 เวลา 13.28 น.
ดูทั้งหมด