"รัชนก" หวิดชวด "โตเกียวเกมส์" หลังพบสารต้องห้าม ก่อนหอบหลักฐานแจงจนพ้นมลทิน

มีรายงานเปิดเผยว่า “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ถูกตรวจเรื่องการกระทำผิดกฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้สารต้องห้ามเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ โดย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมฯ ได้ประสานกับสโมสรกีฬาแบดมินตันบ้านทองหยอด ต้นสังกัดของนักกีฬาในการติดต่อกับสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) เพื่อชี้แจงและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งได้มีการดำเนินกระบวนการส่งข้อมูลและตัวอย่างเพื่อตรวจเพิ่มเติมให้กับสหพันธ์ฯ

โดยเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2562 สมาคมฯ ได้รับผลการตรวจสารต้องห้ามของ รัชนก ซึ่งได้ทำการตรวจเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 พบสาร Clenbuterol ในปัสสาวะความเข้มข้น 0.04 นาโนกรัม/มิลลิลิตร แต่ต่ำกว่า 0.2 นาโนกรัม/มิลลิลิตร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดที่สามารถปนเปื้อนได้ตามข้อกำหนดขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (WADA) โดยสาร Clenbuterol นี้เป็นสารที่ปนเปื้อนในอาหารได้

ทั้งนี้สมาคมแบดมินตันฯ และ รัชนก มีความมั่นใจว่าไม่ได้กระทำผิด และเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้ใช้สารต้องห้ามโดยเจตนา สมาคมฯ จึงดำเนินการประสานร้องขอให้มีการตรวจปัสสาวะตัวอย่างสำรองอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่า นักตบสาวทีมชาติไทยไม่ได้ใช้สารต้องห้าม การดำเนินการทางคดีได้มอบหมายให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการ

ซึ่งสมาคมฯ และสโมสรกีฬาแบดมินตันบ้านทองหยอดได้จัดหาหลักฐานต่างๆ ตามที่ทนายร้องขอ เพื่อประกอบการพิจารณาคดีตั้งแต่การส่งรายชื่ออาหารและปริมาณที่ตัวนักกีฬาได้รับประทานในช่วงเวลาก่อนการตรวจสารต้องห้าม การเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อจากร้านค้า ตลาด และร้านอาหารที่อดีตมือ 1 โลกได้ไปรับประทาน เพื่อส่งตรวจหาสารปนเปื้อนจำนวน 3 ครั้ง จนกระทั่งพบสาร Clenbuterol ปนเปื้อนในชิ้นเนื้อ

กระทั่งล่าสุดสหพันธ์แบดมินตันโลก ได้มีหนังสือชี้แจงว่า หลังจากพิจารณาข้อมูลที่ได้รับและผลตรวจเพิ่มเติมแล้ว การตัดสินในวันที่ 7 กรกฎาคม มีผลออกมาว่า รัชนก ไม่มีความผิดใดๆ พ้นจากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการละเมิดกฎการใช้สารต้องห้าม และสามารถลงแข่งขันในรายการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป

ขณะที่คุณหญิงปัทมา เผยถึงกรณีดังกล่าวว่า “สมาคมฯ ให้ความสําคัญกับเรื่องการใช้สารต้องห้ามมาโดยตลอด มีการอบรมให้ความรู้กับนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และทีมงานนักกีฬาในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการดูแลตนเองและไม่ไปข้องเกี่ยวกับสารต้องห้าม ทั้งโดยความประมาทเลินเล่อ หรือโดยความตั้งใจ นักกีฬาทุกคน มิใช่เฉพาะนักกีฬาแบดมินตัน ต่างทราบดีว่าหากถูกตรวจพบว่าไปยุ่งเกี่ยวกับสารต้องห้ามไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ๆ อนาคตในวงการกีฬาของตนเองจะหมดไปโดยทันที ดังนั้น จึงต้องระมัดระวังและดูแลตนเองเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการทานยา การรับการฉีดยา การรักษาอาการบาดเจ็บ และการทานอาหารต่าง ๆ”

นอกจากนี้คุณหญิงปัทมา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ สมาคมฯ ขอขอบคุณ “เมย์” และสโมสรกีฬาแบดมินตันบ้านทองหยอดที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมทั้งขอขอบคุณสหพันธ์กีฬาแบดมินตันโลกที่เร่งรัดดำเนินการในการพิจารณาข้อมูลและผลตรวจเพิ่มเติม อันนำไปสู่การเคลียร์ข้อกล่าวหาทั้งหมด ซึ่งถ้าปล่อยให้เนิ่นนานออกไป ย่อมส่งผลกระทบกับฟอร์มการเล่นของ รัชนก และโอกาสในการคว้าเหรียญรางวัลในกีฬาโอลิมปิก 2020 ของทัพนักกีฬาไทยด้วย”

สำหรับ รัชนก เคยมีปัญหาจากการถูกตรวจพบสารต้องห้าม ก่อนการแข่งขันโอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิลมาแล้ว แต่ก็สามารถนำหลักฐานเข้าชี้แจงจนพ้นมลทินและสามารถเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ครั้งนั้นได้สำเร็จมาแล้ว